TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessแฟลช เอ็กซ์เพรส เปิดตัว “Flash Bulky” ส่งของใหญ่ บริการฟรีถึงที่ ไม่มีวันหยุด

แฟลช เอ็กซ์เพรส เปิดตัว “Flash Bulky” ส่งของใหญ่ บริการฟรีถึงที่ ไม่มีวันหยุด

แฟลช เอ็กซ์เพรส เปิดตัว “Flash Bulky” ชูแนวคิด “ส่งของใหญ่  ไว้ใจแฟลช” บริการส่งพัสดุขนาดใหญ่ ที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 5 กิโลกรัม – 100 กิโลกรัม โดยยังคงเข้ารับบริการฟรีถึงที่ (Door to Door Services) พร้อมเปิดให้บริการ 365 วันไม่มีวันหยุด ในอัตราค่าบริการเริ่มต้นเพียง 50 บาท พร้อมออกบริการเสริมที่มีชื่อว่า “Speed Guarantee” ส่งไวกว่าเดิม ด้วยการการันตีเวลาจัดส่งภายใน 2 วัน

คมสันต์ ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด กล่าวว่า ปี 2565 นับเป็นปีที่ท้าทายอย่างยิ่งของตลาด Logistics และ E commerce เพราะผู้เล่นแทบทุกรายต่างหันมาใช้แนวคิดเข้ารับฟรีถึงที่ และให้บริการไม่มีวันหยุด สำหรับแฟลช เอ็กซ์เพรสในฐานะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมนี้ ได้มองหาสิ่งที่แตกต่าง ด้วยการมองถึงภาพรวมที่เป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภค สอดคล้องกับความต้องการของตลาดในยุคปัจจุบัน 

บริการ Flash Bulky นี้เป็นตัวอย่างของการนำเอา pain point ของผู้บริโภคพบเจอมาประยุกต์ให้สอดคล้องกับบริการใหม่ ๆ เพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายหลัก คือ การสนับสนุนตลาดให้สามารถขับเคลื่อนไปได้อย่างไม่มีสะดุด และยังช่วยให้กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่อยู่บนแพลตฟอร์มสามารถทำธุรกิจได้อย่างคล่องตัวมากยิ่งขึ้น

“จากที่ส่งได้ไม่เกิน 25-30 กิโลกรัม Flash Bulky รับได้สูงสุดถึง 100 กิโลกรัม และเดิมส่งของได้ขนาดไม่เกิน 180 เซนติเมตร ปัจจุบันขยายของที่จะส่งได้ถึง 400 เซนติเมตร ความยาวได้สูงสุด 160 เซนติเมตร” คมสันต์ กล่าว 

Flash Bulky รับฟรีถึงหน้าบ้านทั่วไทย ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 50 บาท รับและส่งทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย ราคาน้ำมันขึ้น แต่บริษัทยังไม่ขึ้นอัตราค่าบริการ เพื่อไม่ให้กระทบกับผู้บริโภค

“เดิมผู้บริโภคไม่มีทางเลือก จะต้องนำสินค้าขนาดใหญ่ไปที่ศูนย์ให้บริการของผู้ส่งและผู้รับต้องไปรับที่ศูนย์บริการของผู้รับ แต่บริการ Flash Bulky รับฟรีถึงหน้าบ้านของผู้ส่ง และส่งถึงปลายทางหน้าบ้านของผู้รับ ที่สำคัญบริการนี้ให้บริการทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย” คมสันต์ กล่าว 

ปี 2564 อีคอมเมิร์ซเติบโตก้าวกระโดด ผู้บริโภคคนไทยมีพฤติกรรมการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้นอย่างมาก โดยอัตราการเติบโตของสินค้าขนาดใหญ่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าประเภทของใช้สัตว์เลี้ยง อุปกรณ์ฟิตเนส เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ จำพวก ตู้เย็น เครื่องซักผ้า รวมถึงสินค้าของใช้ภายในบ้านประเภทเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ 

“จากเดิมที่จะสั่งสินค้าแฟชั่นและสินค้าขนาดเล็ก ผู้บริโภคเริ่มสั่งสินค้าอุปโภคบริโภคชิ้นใหญ่มากขึ้น เพราะชีวิตที่ต้องใช้เวลาอยู่ที่บ้านมากขึ้น” คมสันต์ กล่าว

กลุ่มสินค้าเหล่านี้นับเป็นสินค้าติดอันดับ Top 3  ที่มีตัวเลขการซื้อขายเพิ่มขึ้นบน Shopping Platform โดยมีปัจจัยหลักมาจากสถานการณ์ COVID-19 ที่แพร่ระบาดมาเป็นระยะเวลาร่วม 3 ปี รวมไปถึงการจัด Promotion และออก Campaign เพื่อกระตุ้นการซื้อสินค้าดังกล่าว จากสถิติการค้นหาบน ​Google พบว่า เฟอร์นิเจอร์ ยางรถยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นสินค้าที่คนไทยค้นหาากที่สุดในช่วงระหว่างเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน 2564 

สำหรับบริการ Flash Bulky บริษัทเริ่มลงทุนมาตั้งแต่ปี 2563 จนปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่มากกว่า 10,000 คนสำหรับให้บริการ Flash Bulky และจะมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บริการนี้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทยมากขึ้น

ทิศทางธุรกิจปี 2565 

ทิศทางธุรกิจของแฟลชในปี 2565 บริษัทเร่งเดินหน้าขยายบริการให้ครอบคลุมกลุ่มประเทศในแถบ South East Asia ทั้งหมด โดยเมื่อปี 2564 ได้มีการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการไปแล้วใน สปป.ลาว และฟิลิปปินส์ และจะเปิดให้บริการในมาเลเซียอย่างเป็นทางการในไตรมาสแรกของปี 2565 นี้ รวมทั้งหมดไม่น้อยกว่า 4 ประเทศภายในปี 2565 นี้ และเฟสถัดไปจะเริ่มให้บริการส่งข้ามประเทศได้

สำหรับการระดมมทุนซึ่งแฟลชจะมีข่าวดีสำหรับการระดมครั้งใหม่ราวกลางปี 2565 นี้เพื่อเป้าหมายการเป็นผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซครบวงกร อย่าง Flash Bulky ที่เปิดตัวใหม่นี้ และ Flash Speed ที่จะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้ 

สำหรับบริการของแฟลช กรุ๊ป ทั้ง Flash Fulfillment, Flash Money, Flash Loan, Flash Pay และอื่น ๆ ที่กำลังจะทยอยออกมาและบางบริการได้ขยายไปยังต่างประเทศแล้ว 

แฟลช เอ็กซ์เพรส เปิดเผยรายได้รวมของปี 2564 ว่ามีตัวเลขอยู่ที่ประมาณ 17,000 ล้านบาท และยอดพัสดุทั้งปี สูงกว่า 600 ล้านชิ้น 

ปัจจุบันบริษัทฯ มีพนักงานกว่า 35,000 คน จุดรับส่งพัสดุทั่วประเทศมากกว่า 15,000 แห่ง ประกอบด้วย Flash Shop ,Flash Home และจุด Drop Off ที่ร่วมกับกลุ่มพาร์ทเนอร์หลักอย่าง Cafe Amazon, บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT, ศูนย์การค้าบิ๊กซี (Big C) ,The Living OS และธนพิริยะ(NTP) เป็นต้น 

ทั้งนี้ในส่วนของศูนย์กระจายสินค้าขนาดใหญ่มีอยู่ 40 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งล่าสุดยังมีแผนขยายพื้นที่เพื่อรองรับกับปริมาณสินค้าในแต่ละวันที่มีมากกว่า 2 ล้านชิ้น 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

Coral NFT Marketplace by KX ยกงานศิลปะไทยที่แสดงที่ TDAF 2022 มาให้เป็นเจ้าของได้ง่าย ๆ ด้วยสกุลเงินทั่วไป

S&P Global ชูกสิกรไทย ผู้นำธนาคารแห่งความยั่งยืนของโลก ระดับ Gold Class

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ