‘ขยะ’ หนึ่งในสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมไปทั่วโลก มีการคาดการณ์ว่าจะมีขยะหลุดรอดออกสู่สิ่งแวดล้อมมากถึง 700 ล้านตัน ในอีก 20 ปีข้างหน้าหากไม่มีระบบการจัดการขยะที่ดีพอ
หลายประเทศทั่วโลกตระหนักถึงปัญหานี้ และพยายามหาหนทางรับมืออย่างจริงจัง ทั้งการประชาสัมพันธ์เพื่อให้คนมีความตื่นรู้และให้ความร่วมมือในการลดและคัดแยกขยะก่อนทิ้ง ไปจนถึงปลายทาง คือ การกำจัดขยะให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
แต่ในความเป็นจริงแล้ว เป็นเรื่องยากที่ทุกคนจะให้ความร่วมมือ ดังนั้น หลายประเทศจึงนำเอา Internet of Things (IoT) เข้ามาช่วยบริหารระบบจัดการขยะให้มีประสิทธิภาพ ทั้งในระดับธุรกิจและชุมชน
ผมขอยกตัวอย่างประเทศเยอรมนีซึ่ง Sigfox ได้จับมือกับ Sensoneo ร่วมกันพัฒนาโซลูชันการเก็บขยะแบบครบวงจร ตั้งแต่การมอนิเตอร์ปริมาณขยะในถัง การแจ้งเตือนเมื่อถังเริ่มเต็ม จนกระทั่งใช้ข้อมูลที่ได้รับจากเซ็นเซอร์แต่ละจุด เพื่อจัดเส้นทางการเก็บขยะให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด โดยทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันที่ใช้บันทึกแผนผังของจุดที่วางถังขยะ ทำให้คนขับรถเก็บขยะทำงานได้ง่ายขึ้น
ข้อมูลต่าง ๆ ที่เซ็นเซอร์เก็บรวบรวมนี้ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถวางแผนการบริหารจัดการขยะได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็น เส้นทางการเก็บขยะ ความถี่ในการเก็บ ปริมาณขยะที่เก็บ จุดที่ควรวางถังขยะสาธารณะ ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้ช่วยลดต้นทุนการบริหารจัดการขยะได้ถึง 30% และลดการปล่อยคาร์บอนได้ถึง 60% ในหลาย ๆ เมืองเลยทีเดียว
ข้อดีของ IoT Solutions คือ สามารถออกแบบและปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับการใช้งานในแบบต่าง ๆ ได้ เช่น สามารถตั้งค่าการควบคุมแบบ on demand หรือแบบนัดหมายล่วงหน้า รวมถึงการออกแบบให้เหมาะสมกับค่าตัวแปรต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นความจุของยานพาหนะที่ใช้ ความจุของถังขยะ ประเภทขยะ รวมถึงประเภทของถังขยะ
มาร์ติน บาซิล่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Sensoneo อธิบายว่า บริษัทมุ่งมั่นพัฒนาโซลูชันการบริหารจัดการขยะมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2014 ปัจจุบันโซลูชันของบริษัทสามารถลงรายละเอียดปลีกย่อยได้ ทำให้ลูกค้าพอใจมาก
เขายกตัวอย่างว่า เมื่อบริษัทจะต้องเคลียร์ตู้คอนเทนเนอร์ที่มีขยะเต็มภายใน 60 นาทีหลังจากได้รับการแจ้งเตือน หรือหากคนขับรถเก็บขยะตามเส้นทางที่กำหนดได้ครบแล้ว เขาสามารถกดรับเส้นทางใหม่ผ่านแอปพลิเคชันได้ทันที หรือทำได้แม้กระทั่งการระบุประเภทขยะและเรียงลำดับในการเก็บก่อน-หลัง
สำหรับประเทศไทย ได้ประกาศโรดแมปการแก้ปัญหาขยะพลาสติกในประเทศไทยหลังวิกฤตโควิด โดยตั้งเป้าลดและเลิกใช้พลาสติก 4 ชนิด และนำขยะพลาสติก 7 ชนิดมาใช้ใหม่อย่างน้อย 50% ในปีนี้ แต่จากข้อมูลของสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย พบว่า เราผลิตขยะพลาสติกมากกว่า 2 ล้านตันต่อปี ซึ่งยังไม่รวมขยะประเภทอื่นนะครับ แถมปริมาณขยะกลับเพิ่มสูงขึ้นมากในช่วงวิกฤติโควิด-19
นับเป็นเรื่องท้าทายมากว่าเราจะทำอย่างไรให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ผมมองว่า ขณะนี้ถึงเวลาแล้วที่ภาครัฐและเอกชนควรนำเรื่อง IoT Solutions มาพิจารณาและประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการขยะให้ดีขึ้นและยั่งยืนในระยะยาวครับ
บทความอ้างอิง: https://www.tei.or.th/th/highlight_detail.php?event_id=1237
เกี่ยวกับ Things on Net
บริษัท ติงส์ ออน เน็ต จำกัด (TON) ผู้นำไอโอทีโซลูชันครบวงจรด้วยโครงข่ายเทคโนโลยีสื่อสารชั้นนำระดับโลก ให้บริการครอบคลุมการให้คำปรึกษา การกำหนดกลยุทธ์ การวิเคราะห์ข้อมูลด้านไอโอที รองรับการใช้งานอุปกรณ์และบริการ Internet of Things อย่างเต็มรูปแบบ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจของ
TON มุ่งมั่นผลักดัน IoT Technology เสริมแกร่งธุรกิจไทยสู่เวทีโลก
