TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBangkok Storyผู้ว่าฯกทม. มอบนโยบายปฏิรูปการแพทย์ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล

ผู้ว่าฯกทม. มอบนโยบายปฏิรูปการแพทย์ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดโครงการสัมมนาวิชาการประจำปี ครั้งที่ 18 สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร ภายใต้หัวข้อ “Digital Transformation in Healthcare : ปฏิรูปบริการเพื่อสุขภาพดี ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล” เพื่อให้บุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข ที่ได้จัดทำผลงานทางด้านวิชาการทั้งในรูปแบบงานวิจัย นวัตกรรม และการพัฒนางานประจำสู่งานวิจัย ได้มีเวทีในการนำเสนอเผยแพร่ผลงานวิชาการ ผลงานการพัฒนาคุณภาพการบริการในด้านเวชศาสตร์เขตเมืองและด้านต่าง ๆ

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “การนำเอาเทคโนโลยีมาใช้บางครั้งไม่ตอบโจทย์ของคน บางเทคโนโลยีทำแล้วก็เก็บไว้บนหิ้งไม่ได้ใช้งาน เราอยากให้เทคโนโลยีทางการแพทย์สามารถตอบโจทย์คนได้จริง เนื่องจากแพทย์เป็นผู้ที่สัมผัสผู้ป่วยจริงอยู่ตลอดเวลาจึงเป็นคนที่อยู่ในปัญหา ฉะนั้นขอให้เอาปัญหาของคนไข้เป็นโจทย์ แล้วนำเทคโนโลยีมาใช้ตอบโจทย์ของคนไข้ โดยเทคโนโลยีไม่ต้องฉลาดมาก แต่ขอให้ฉลาดกำลังเหมาะสามารถตอบโจทย์คนไข้ได้”

หนึ่งในเทคโนโลยีที่ประสบความสำเร็จก็คือระบบ ทราฟฟี่ ฟองดูว์ (Traffy Fondue) เนื่องจากแต่ก่อนระบบราชการคือระบบท่อ (pipe Line) กว่าเรื่องร้องเรียนจะถึงผู้รับผิดชอบบางครั้งเป็นเดือน ซึ่งนั่นคือระบบสมัยเก่า รวมถึงบางธุรกิจก็ยังเป็นระบบท่อเช่นกัน เนื่องจากต้องรักษาความสัมพันธ์ของแต่ละขั้นตอนไว้

แต่ในปัจจุบันเราใช้ระบบแพลตฟอร์ม คือใครต้องการสิ่งใดก็โยนความต้องการนั้นไว้ในกระดาน ผู้ให้บริการก็จะตอบสนองได้ทันทีเมื่อทราบความต้องการจากกระดานนั้น เช่น ธุรกิจแพลตฟอร์มการเรียกใช้บริการสั่งสินค้าหรือธุรกิจขนส่งต่าง ๆในปัจจุบัน นั่นคือการโยนความต้องการ (Demand) ลงไปในกระดาน ส่วนผู้ที่เป็นผู้ให้บริการ (Service) ก็จะแย่งกันมาทำงาน โดยไม่ต้องสั่งผ่านระบบท่อเหมือนแต่ก่อน บนกระดานจึงเกิดการแข่งขันกันในการให้บริการ และนั่นคือจุดประสงค์ของทราฟฟี่ ฟองดูว์ ซึ่งในปัจจุบันแก้ปัญหาไปได้แล้ว 31,645 เรื่อง จากปัญหาประมาณ 70,000 เรื่องโดยที่ไม่ต้องสั่งการ เนื่องจากเกิดการร่วมมือร่วมใจกันทำงานผ่านแพลตฟอร์มซึ่งเป็นการทำลายระบบท่อ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ดังนั้น สำนักการแพทย์ก็นำเทคโนโลยีแบบนี้ในการให้บริการประชาชน ทำให้เกิดพลังในการแก้ปัญหาให้ประชาชน

“หมอและพยาบาลเป็นทรัพยากรที่มีค่า เราสามารถใช้เทคโนโลยีช่วยการทำงานได้โดยไม่ต้องลงพื้นที่ สามารถประหยัดเวลาได้โดยใช้เทคโนโลยีช่วย เช่นระบบ TELEMEDICINE (เทเลเมด) โดยให้ผู้ที่ลงพื้นที่ส่งข้อมูลมาให้แพทย์ช่วยวิเคราะห์หรือเชื่อมโยงกับหมอที่โรงพยาบาลต่าง ๆ จะทำให้หมอทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่เราต้องพัฒนา”

ทำน้อยให้ได้เยอะ

ผู้ว่าฯชัชชาติ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีก็มีหลากหลายรูปแบบที่จะเปลี่ยน Transformation ของสำนักการแพทย์ ให้เข้มแข็งขึ้น หลักง่าย ๆ คือ ทำน้อยให้ได้เยอะ คือลงทุนน้อยให้ได้ผลเยอะและขยายผลได้ โดยต้องทำลายระบบราชการแบบเดิมซึ่งลงทุนเยอะแต่ได้ผลตอบแทนน้อย ถ้าสามารถเปลี่ยนมุมมองเปลี่ยนความคิดโดยการใช้เทคโนโล ยีในการเปลี่ยนการทำงานของกทม.ได้ นั่นเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากกทม.มีงบประมาณที่จำกัด กทม.จึงต้องทำงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อการให้บริการประขาชน”

นอกจากนี้ ผู้ว่าฯชัชชาติ ยังกล่าวถึงแนวทางและให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ที่มาร่วมงาน ทั้งนี้ ปัจจุบันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีระบบดิจิทัล (คอมพิวเตอร์) ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการดำรงชีวิตของมนุษย์ สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับวงการแพทย์ในศตวรรษที่ 21 จะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางการแพทย์ไปอย่างสิ้นเชิง (Disruption in Healthcare) เช่น ผู้ป่วยสามารถหาหมอที่ไหนก็ได้ ผ่านระบบแพทย์ทางไกล (Telemedicine) นาฬิกาอัจฉริยะจะที่ส่งสัญญาณชีพ อาการแสดงที่เป็นปัจจุบันไปยังศูนย์ข้อมูล ขณะที่เทคโนโลยีการประมวลผลภาพ (Image processing) และระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะช่วยวินิจฉัยโรคผ่านภาพการเคลื่อนไหวบนกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ทั่วไป เป็นต้น

การนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่มาใช้ และเกิดประโยชน์สูงสุดในการดูแลสุขภาพของประชาชน เหมาะสมสอดคล้องกับบริบทของสำนักการแพทย์ในด้านความก้าวหน้าและการรักษาพยาบาลในปัจจุบัน

เวทีเผยแพร่งานวิจัย

นอกจากนี้ การจัดโครงการในครั้งนี้ ยังเป็นเวทีวิชาการในการเสนอผลงานวิจัย แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ผลงานการพัฒนาคุณภาพการบริการ ผลงานสร้างสรรค์หรือนวัตกรรม โดยแบ่งการประกวด ออกเป็น 3 รูปแบบ คือ 1) แบบ Oral Presentation ภาคภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 2) แบบ Poster Presentation และ 3) แบบประดิษฐกรรมหรือนวัตกรรม

ทั้งนี้ เพื่อเป็นเวทีในการเผยแพร่ผลงานของบุคลากรทั้งภายใน และภายนอกสังกัดกรุงเทพมหานคร โดยเชิญบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมถึงบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชนเข้าร่วมประกวดและสัมมนา ซึ่งจะนำไปสู่การประยุกต์ใช้ผลงานให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและประชาชนต่อไป

สำหรับหัวข้อการบรรยายและสัมมนาวิชาการที่น่าสนใจมากมายตลอดระยะเวลา 2 วัน ประกอบด้วย

  • Thailand health information in Present and Future
  • What New AI in Healthcare เรื่อง 2022 UPDATE ON MANAGEMENT OF ISCHEMIC STROKE
  • Review of Torsemide and advantage beyond furosemide
  • Stroke Management in Bangkok Digital Era
  • Innovation in Digital Era
  • Practical Points on the Use of Anticoagulants in Patients with Atrial Fibrillation
  • Diabetes Technology, for now and the future
  • Smart Watch ใช้ได้จริงหรือหลอก Smart Device Cardio
  • 5G Cloud and AI for Digital Healthcare

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ETDA จับมือ มช. ตั้งศูนย์ส่งเสริมธุรกรรมออนไลน์ เร่งทรานส์ฟอร์ม ผู้ประกอบการ-นักศึกษาภาคเหนือ

เมตาเวิร์ส โอกาสครั้งใหม่ในโลกยุคดิจิทัล

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ