TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessAIS ไตรมาส 2 รายได้รวม 45,273 ล้านบาท เดินหน้าลงทุน 30,000 ล้านบาท พัฒนาเครือข่าย 5G

AIS ไตรมาส 2 รายได้รวม 45,273 ล้านบาท เดินหน้าลงทุน 30,000 ล้านบาท พัฒนาเครือข่าย 5G

AIS ประกาศผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2 ของปี 2565 ทำรายได้รวมอยู่ที่ 45,273 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.9% เทียบกับปีก่อน ดันผู้ใช้งาน 5G รวม 3.9 ล้านราย เติบโตกว่า 39% และมีจำนวนลูกค้าโทรศัพท์มือถือรวมทะลุที่ 45.5 ล้านเลขหมาย ด้านแผนการทำงานช่วงครึ่งปีหลัง เดินหน้าลงทุนต่อเนื่องด้วยงบประมาณ 30,000 ล้านบาท มุ่งพัฒนาขีดความสามารถของโครงข่ายอัจฉริยะ 5G ให้มีคุณภาพ

สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีแรกแม้จะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ แต่ภาวะเงินเฟ้อ และความขัดแย้งของประเทศต่าง ๆ ยังส่งผลทำให้ต้นทุนด้านพลังงานสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคในวงกว้าง ทำให้บริษัทต้องปรับแผนการทำงานให้สอดรับกับสถานการณ์ที่มีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา

สำหรับผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ปี 2565 อยู่ที่ 45,273 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.9% เทียบกับปีก่อน และคงที่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน มีกำไรสุทธิในไตรมาส 2/2565 อยู่ที่ 6,305 ล้านบาท ลดลง 10% เทียบกับปีก่อน

นอกจากนี้ ผลของการลงทุนเพื่อพัฒนาและขยายโครงข่าย 5G และ 4G อย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้นทุนการให้บริการเพิ่มขึ้น 2.9% เทียบกับปีก่อน และ 0.4% เทียบกับไตรมาสก่อน ในขณะที่ค่าใช้จ่ายการตลาดและการบริหาร โดยรวมเพิ่มขึ้น 11% จากปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายด้านการตลาดในการออกแคมเปญต่าง ๆ ตามการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยมีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย และค่าเสื่อม (EBITDA) สำหรับไตรมาส 2 อยู่ที่ 22,353 ล้านบาท ลดลง 2.8% จากปีก่อน และ 0.2% เทียบกับไตรมาสก่อน

ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ มีรายได้เพิ่มขึ้น 0.4% เทียบกับปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1.3% ต่อเนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลังจากมีการผ่อนคลายมาตรการการควบคุมโควิด-19 และการกลับมาของจำนวนนักท่องเที่ยวชาติจากการเปิดประเทศ แม้ว่าการแข่งขันด้านราคายังคงรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสนี้มีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น 881,200 เลขหมาย ส่งผลให้ปัจจุบันมีจำนวนลูกค้าโทรศัพท์มือถือรวมที่ 45.5 ล้านเลขหมาย แบ่งเป็นลูกค้าระบบเติมเงิน 33.4 ล้านเลขหมาย และระบบรายเดือน 12.1 ล้านเลขหมาย

ในส่วนของ 5G วันนี้ AIS มีผู้ใช้บริการ 5G รวมทั้งสิ้นมากกว่า 3.9 ล้านราย เพิ่มขึ้นกว่า 39% ทำให้ AIS ยังคงรักษาความเป็นผู้นำด้านการให้บริการด้วยการพัฒนาโครงข่าย ที่มีความครอบคลุมกว่า 99% ในกรุงเทพฯ 96% ในพื้นที่ EEC และ 81% ของพื้นที่ประชากรทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าเพิ่มความครอบคลุมและความจุโครงข่ายให้สอดคล้องกับความต้องการใช้ 5G ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง          

ธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ที่ยังคงรักษาระดับการเติบโตที่เหนืออุตสาหกรรม มีรายได้เติบโต 22% เทียบกับปีก่อน และ 2.0% จากไตรมาสก่อน จากการเพิ่มพื้นที่การให้บริการไปยังพื้นที่ใหม่ ๆ การนำ AI และ VIP Service มาจัดสรรการใช้งานเน็ตบ้าน โดยไตรมาส 2/2565 มีจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นกว่า 106,300 ราย ปัจจุบัน AIS Fibre มีลูกค้ารวม 1,971,400 ราย ตั้งเป้าขยายลูกค้า 2.2 ล้านราย ภายในสิ้นปี

ในด้านของธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร รายได้มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง คิดเป็น 38% เทียบกับปีก่อน และ 5.5% จากไตรมาสก่อน โดย AIS ได้เข้าไปร่วมทำงานกับภาคอุตสาหกรรม เพื่อสนับสนุนการนำเทคโนโลยีโซลูชันเข้ามาช่วยยกระดับขีดความสามารถได้อย่างเป็นรูปธรรม เช่น การประกาศความร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า สร้างศูนย์กลางนวัตกรรมและการทดสอบเทคโนโลยี 5G แห่งแรกในประเทศไทย AIS 5G NEXTGen Center ที่ Thailand Digital Valley บนพื้นที่ EEC รวมถึงเปิดตัว AIS 5G NEXTGen Platform สำหรับการพัฒนา 5G Use Cases แห่งแรกของไทย พร้อมร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ชั้นนำ เพื่อนำเอาโซลูชันและบริการใหม่ ๆ อย่าง CCIID (Cloud, Cyber security, IoT, ICT, Data Center) มาประยุกต์ใช้

สมชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า “เรายังคงลงทุนอย่างต่อเนื่องด้วยงบกว่า 30,000 ล้านบาทในปีนี้ เพื่อทำให้โครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีมีความแข็งแรง พร้อมต่อการเติบโตในอนาคตที่จะเป็นหัวใจหลักของการขับเคลื่อน Digital Economy รองรับบริการครอบคลุมการใช้งานทุกรูปแบบทั้งกลุ่มลูกค้าทั่วไปและลูกค้าองค์กรในภาคธุรกิจ”

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

Rêver Automotive ทุ่ม 3,000 ล้าน ปั้น BYD แบรนด์รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หวังติด Top 5 ตลาดยานยนต์ไทย ใน 5 ปี

Sea (ประเทศไทย) ชวนวัยเรียน-วัยทำงาน-วัยเกษียณ เติมทักษะดิจิทัล กับ Sea Academy

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ