TH | EN
TH | EN
หน้าแรกStartupกระทรวงอุตฯ ปลื้มโครงการ Angel Fund ดันสตาร์ตอัพไทย กระตุ้นเศรษฐกิจ 420 ล้านบาท

กระทรวงอุตฯ ปลื้มโครงการ Angel Fund ดันสตาร์ตอัพไทย กระตุ้นเศรษฐกิจ 420 ล้านบาท

กระทรวงอุตสาหกรรม โชว์ผลสำเร็จดันสตาร์ตอัพไทย ปี 2565 กระตุ้นเศรษฐกิจไทยกว่า 420 ล้านบาท จากโครงการ Angel Fund (แองเจิ้ล ฟันด์) สามารถดันสตาร์ตอัพไทย กว่า 71 ธุรกิจในหลากหลายสาขา เข้าถึงแหล่งเงินทุน ต่อยอดการตลาด สร้างมูลค่าเศรษฐกิจ 70 ล้านบาท ควบคู่โครงการ Startup Connect เชื่อมโยงเครือข่ายตลาดและแหล่งเงินทุน สร้างมูลค่าเศรษฐกิจ 350 ล้านบาท แย้มปี 2566 ผนึกทุกฝ่ายส่งเสริมเข้มข้นขึ้น เป้าหมายขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยแข่งขันตลาดโลก ดันระบบเศรษฐกิจเติบโตยั่งยืน

จุลพงษ์ ทวีศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงผลการขับเคลื่อนสตาร์ตอัพไทยตามนโยบายของรัฐบาลว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ดีพร้อม) ดำเนินงานผ่านโครงการเชื่อมโยงแหล่งเงินทุนสำหรับผู้ประกอบการและธุรกิจใหม่ หรือ Angel Fund โดยร่วมมือกับบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สนับสนุนเงินทุนแบบให้เปล่า และโครงการเชื่อมโยงตลาดสำหรับวิสาหกิจเริ่มต้น หรือ Startup Connect มุ่งพัฒนาทักษะการดำเนินธุรกิจ เชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการอุตสาหกรรมทุกกลุ่ม เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและการตลาดอย่างเหมาะสม ล่าสุด ผลการดำเนินงานทั้ง 2 โครงการในปี 2565 สามารถสร้างมูลค่าเศรษฐกิจให้ประเทศ รวม 420 ล้านบาท

จุลพงษ์ กล่าวเสริมว่า ในภาพรวม ดีพร้อมได้ส่งเสริมและพัฒนาสตาร์ตอัพระยะเริ่มต้นจำนวน 44 ธุรกิจ จำนวนนี้ มี 6 ธุรกิจได้รับทุนสนับสนุนจากโครงการ Angel Fund เกิดการจัดตั้งบริษัทใหม่และจ้างงานในประเทศ ไม่น้อยกว่า 130 คน สร้างมูลค่าเศรษฐกิจรวมไม่น้อยกว่า 70  ล้านบาท ขณะที่โครงการ Startup Connect ซึ่งมุ่งเน้นกิจกรรม Co-creation การสร้างนวัตกรรมร่วม หรือการเปิดช่องทางให้สตาร์ตอัพ ได้มีโอกาสทำงานร่วมกับพันธมิตรเอกชนรายใหญ่และทดลองใช้นวัตกรรม หรือโซลูชั่นส์ในตลาดจริง (Proof of Concept: POC) อีกทั้ง ยังช่วยเชื่อมโยงสตาร์ตอัพเข้าถึงตลาดภาคอุตสาหกรรม คิดเป็นมูลค่ากว่า 250 ล้านบาท พร้อมเชื่อมโยงไปสู่แหล่งเงินทุนขนาดใหญ่ (VC/CVC) 115 ล้านบาท รวมสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 350 ล้านบาท

“ผลการดำเนินงาน ยังแสดงให้เห็นถึงแนวคิดการดำเนินธุรกิจของสตาร์ทอัพในหลากหลายสาขาที่มีความน่าสนใจและมีความเกี่ยวข้องกับ “เทคโนโลยีเชิงลึก” (Deep Technology) ทั้ง 12 ด้าน อาทิ การแพทย์ครบวงจร การเกษตร อาหารและเทคโนโลยีชีวภาพ แพลตฟอร์มดิจิทัล เทคโนโลยีการเงิน อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะหุ่นยนต์ เกิดเป็นนวัตกรรมที่หลากหลาย อาทิ EMMA – เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ 12 ลีดอัจฉริยะ สามารถวิเคราะห์และจำแนกเคสที่ผิดปกติของโรคหัวใจได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว แม่นยำ ราคาเข้าถึงได้ Planet C – แพลตฟอร์มช่วยบริหารจัดการการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แบบเรียลไทม์สำหรับอุตสาหกรรม Electronic Nose – เครื่องตรวจวัดกลิ่นแบบดิจิทัลในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ MUU – นมวัวที่ผลิตโดยไม่ใช้วัว ตอบโจทย์ความมั่นคงทางอาหารของโลก YABEZ Sorderm Cream/Lotion – ยารักษาผิวหนังอักเสบ Maxflow – เครื่องปรับคุณภาพน้ำด้วยสนามแม่เหล็กถาวร สำหรับการเพาะปลูก UPCYDE leather – หนังเทียมจากขยะทางการเกษตร iRon-X – ชุดฝึกแขนกลหุ่นยนต์ OXYMILK – เครื่องนวดกระตุ้นน้ำนมคุณแม่ในช่วงให้นมลูก และ Renewsi – ซิลิกอนเกรดแบตเตอรี่จากขยะโซลาเซลล์ สำหรับทำเป็นขั้วไฟฟ้าในเซลล์แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนยานยนต์ไฟฟ้า” สุริยะ กล่าวสรุป

ดร.ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม กล่าวว่า เพื่อขับเคลื่อนสตาร์ตอัพไทยอย่างต่อเนื่อง ปี 2566 ดีพร้อมจะร่วมมือกับภาครัฐ ภาคการศึกษา และภาคเอกชนอย่างเข้มข้น มุ่งเน้นการพัฒนาเครือข่ายตลาดภาครัฐควบคู่ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม เพื่อเป็นแต้มต่อสำคัญให้สตาร์ตอัพนำผลิตภัณฑ์หรือบริการเข้าไปร่วมทดสอบ (Prove of concept: POC) หรือทำงานกับหน่วยงานภาครัฐ และอุตสาหกรรมได้มากขึ้น โดยมุ่งเป้าสนับสนุนเทคโนโลยีด้าน GovTech (Government Technology) ที่ช่วยให้ภาครัฐทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึง Industry Tech เทคโนโลยีและโซลูชันที่ถูกคิดค้นและพัฒนา เพื่อกระบวนการทางอุตสาหกรรมและเป็นวิศวกรรมขั้นสูงที่แก้ปัญหาภาคอุตสาหกรรมตรงจุด ทั้งหมดนี้
เพื่อสร้างระบบนิเวศของสตาร์ทอัพให้แข็งแกร่งทั้งในและต่างประเทศ ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมและระบบเศรษฐกิจประเทศต่อไป

ด้าน จาง ช่าย ซิง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2565 บริษัทฯ ยังคงให้ความร่วมมือกับดีพร้อมด้วยการสนับสนุนด้านเงินทุนกับสตาร์ตอัพที่คิดค้นนวัตกรรม หรือเทคโนโลยีแก้ไขปัญหาของโลกในด้านต่าง ๆ โดยบริษัทฯ มีความเชื่อมั่นในศักยภาพของสตาร์ตอัพที่ได้รับการบ่มเพาะจากโครงการตลอด 7 ปี เพราะสตาร์ตอัพเหล่านี้ สามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้และพัฒนาธุรกิจเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาดได้มากขึ้น ช่วยดึงดูดการลงทุนจากกลุ่มผู้สนับสนุนที่ใหญ่ขึ้นในอนาคต เพราะโลกธุรกิจปัจจุบันขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี จึงต้องการนวัตกรรม
มาตอบโจทย์อย่างไม่หยุดนิ่ง

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

FORWARD ปิดดีลรอบ SEED ROUND รับ 160 ลบ. กสิกรไทย-กรุงศรี ร่วมสนับสนุน

อาร์เอส เปิดตัวผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ดึงสารสกัดจากกัญชงทั้งเมล็ดและช่อดอก ตอบโจทย์ผู้บริโภค

“Quiet Quitter” เมื่อพนักงานไม่ทำงานถวายหัว ใครควรกังวล

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ