TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessกรุงศรี ฟินโนเวต เปิดกองทุนสตาร์ตอัพครั้งแรกในไทย “ฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ I”

กรุงศรี ฟินโนเวต เปิดกองทุนสตาร์ตอัพครั้งแรกในไทย “ฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ I”

กรุงศรี ฟินโนเวต ต่อยอดความสำเร็จและความเชี่ยวชาญ เดินหน้ากลยุทธ์ 3.0 เปิดกองทุนสตาร์ตอัพครั้งแรกในไทย “ฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ I” (Finnoventure Fund I) โอกาสการลงทุน เข้าถึงข้อมูลทางธุรกิจ และการร่วมเป็นพันธมิตรกับธุรกิจสตาร์ทอัพที่เติบโตโดดเด่นในอาเซียน พร้อมเป็นที่ปรึกษานักลงทุนจับมือเดินหน้ารับการเติบโตไปด้วยกัน

แซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด กล่าวว่า พัฒนาการของสตาร์ตอัพในประเทศไทยเริ่มต้นมาตั้งแต่ประมาณปี 2558 โดย กรุงศรี ฟินโนเวต ได้คลุกคลีกับการเติบโตของสตาร์ตอัพมาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม 1.0 หลายองค์กรที่ต้องการเดินหน้าองค์กรเข้าสู่นวัตกรรมจะจัดทำโครงการบ่มเพาะสตาร์ตอัพ เพื่อให้ได้เริ่มสัมผัสการทำงานแบบสตาร์ตอัพ จากนั้นพัฒนาไปสู่ยุค 2.0 ที่เน้นการลงทุนในสตาร์ตอัพและการร่วมเป็นพันธมิตรกับสตาร์ตอัพในการพัฒนานวัตกรรมต่อยอดธุรกิจต่าง ๆ

กรุงศรี ฟินโนเวต ทำให้กรุงศรีกลายเป็นธนาคารที่ทำงานร่วมกับสตาร์ตอัพมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำงานร่วมกับสตาร์ตอัพกว่า 63 บริษัท กว่า 106 โปรเจ็ค และส่งเสริมการทำงานด้านดิจิทัลของกรุงศรีและบริษัทในเครือถึง 37 หน่วยธุรกิจ

กรุงศรี ฟินโนเวต จึงจัดตั้งกองทุนเพื่อลงทุนในสตาร์ตอัพขึ้น ถือเป็นกองทุนสตาร์ตอัพครั้งแรกของไทย ภายใต้ชื่อฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ I” เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อย และองค์กรที่สนใจลงทุนในสตาร์ตอัพแต่ยังไม่มีความเชี่ยวชาญในการทำงานร่วมกับสตาร์ตอัพได้เข้าลงทุน

กรุงศรี ฟินโนเวต ซึ่งมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการลงทุนในสตาร์ตอัพเป็นผู้ดูแล นอกจากนั้น นักลงทุนสถาบันที่ลงทุนในกองทุนนี้ ยังมีโอกาสจะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรธุรกิจของสตาร์ตอัพที่อยู่ภายใต้กองทุนนี้ เพื่อที่จะต่อยอดการทำธุรกิจนำเสนอสินค้าและบริการที่เป็นนวัตกรรมร่วมกัน

โดย “ฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ I” เป็นกองทุนขนาด 3,000 ล้านบาทมุ่งเข้าลงทุนในสตาร์ตอัพทั้งไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระดับซีรี่ส์ A ขึ้นไป เน้นลงทุนในกลุ่มฟินเทค อีคอมเมิร์ซ ออโตโมทีฟ (ยานยนต์) และกลุ่มสตาร์ตอัพที่อาจฟื้นตัวเร็วหรือได้รับโอกาสทางธุรกิจในช่วงโควิด-19 ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว เป็นต้น หรือที่เรียกว่า Post-Pandemic Boom Startup

ตั้งแต่ปี 2558 สตาร์ตอัพไทยแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ โดยพบการลงทุนในธุรกิจสตาร์ตอัพเติบโตกว่า 3 เท่าจากปกติ ประกอบกับในปี 2564 ประเทศไทยมียูนิคอร์นรายแรกอย่าง Flash Express ที่สะท้อนภาพความสำเร็จ และแนวโน้มว่าสตาร์ตอัพหลายธุรกิจของไทย มีศักยภาพที่จะขยายกิจการจากในประเทศไปยังภูมิภาคได้ ขณะเดียวกันสตาร์ตอัพในภูมิภาคอาเซียนก็เติบโตแบบเท่าทวีคูณ และกำลังเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

ปัจจุบัน เป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับสตาร์ตอัพในภูมิภาคนี้ เพราะสถานการณ์โควิด-19 ถือเป็นอุปสรรคของสตาร์ตอัพยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่จะขยายธุรกิจเข้ามาในภูมิภาคนี้ จึงเป็นโอกาสให้สตาร์ตอัพไทยและอาเซียนได้เติบโตอย่างเต็มที่ การมีกองทุนสตาร์ตอัพที่จัดตั้งโดยผู้มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญ และเปิดกว้างให้นักลงทุนที่สนใจเข้ามาร่วมลงทุนได้ง่ายขึ้นจะช่วยเพิ่มเม็ดเงินในการขยายธุรกิจที่มีศักยภาพอยู่แล้วให้ยิ่งขยายตัวเติบโตไปได้เป็นเท่าทวีคูณ

“จากประสบการณ์การลงทุนมานานกว่า 4 ปี ในกว่า 15 กิจการสตาร์ตอัพ รวมเงินลงทุนมากกว่า 1,500 ล้านบาทของกรุงศรี ฟินโนเวต ประกอบกับความแข็งแกร่งของกรุงศรีและมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันทางการเงินชั้นนำระดับโลก MUFG ที่มีเครือข่ายที่แข็งแกร่งจะสามารถสร้างความสำเร็จและการเติบโตที่แข็งแกร่งให้กับกองทุน “ฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ I” จึงขอเชิญชวนนักลงทุนสถาบัน หรือองค์กรธุรกิจ นักลงทุนรายย่อย ประเภทกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่พิเศษ ที่สนใจลงทุน ก้าวเข้าไปในโลกของดิจิทัลและเติบโตไปด้วยกันกับเรา โดยกรุงศรี ฟินโนเวต จะเริ่มเดินสายนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุน (Roadshow) ในเดือนสิงหาคม เป็นต้นไป” แซม กล่าวทิ้งท้าย

หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมหรือสนใจการลงทุนใน “ฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ I” สามารถติดต่อได้ที่ [email protected] หรือส่ง inbox มาได้ที่ Facebook: Krungsri Finnovate

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ