TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessฮาบิแทท กรุ๊ป โชว์ผลงานปี 63 โต 200% กางแผนปี 64 เพิ่มพันธมิตร-ขยายเซ็กเมนต์ใหม่

ฮาบิแทท กรุ๊ป โชว์ผลงานปี 63 โต 200% กางแผนปี 64 เพิ่มพันธมิตร-ขยายเซ็กเมนต์ใหม่

ฮาบิแทท กรุ๊ป โชว์ผลงานปี 2563 เติบโต 200% ยอดรับรู้รายได้พุ่งกว่า 2,000 ล้านบาท มองตลาดอสังหาฯปี 2564 ฟื้นตัวดีขึ้น กางแผนปีหน้า ลุยเสริมแกร่งผู้นำ “Lifestyle Investment” ทั้งเพิ่มพันธมิตรใหม่ ขยายไลน์สู่เซ็กเมนต์ใหม่ กลาง – บน พร้อมปั้นโปรดักส์ใหม่อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนที่จะมาพร้อมกับบริการรูปแบบใหม่ ดึงแบรนด์โรงแรมระดับโลกร่วมบริหารจัดการ และโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ พร้อมชูจุดขาย “ทำเล ดีไซน์แตกต่าง และการบริหารจัดการที่ดี” การันตีความสำเร็จ 17 รางวัลคุณภาพจากเวทีสุดยอดแห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในไทยและระดับโลก

-ตลาดอสังหาฯ ปี 64 มีแนวโน้มชะลอตัว ผู้ขายต้องเร่งปรับตัว
-สงครามราคาอสังหาฯ ยังดุเดือด โอกาสทองของผู้ซื้อ/นักลงทุน

ชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2563 นับเป็นปีที่ดีมากสำหรับ ฮาบิแทท กรุ๊ป ซึ่งสวนทางกับภาวะตลาดอสังหาฯโดยรวมที่อยู่ในภาวะชะลอตัว ซึ่งความสำเร็จในปี 2563 ที่เกิดขึ้นนั้นมาจากกลยุทธ์การวางโพซิชั่นที่ชัดเจนมาตั้งแต่เริ่มต้น ด้วยการเน้นพัฒนาโครงการอสังหาฯเพื่อการลงทุน (Lifestyle Investment) และมีรายได้จากการบริหารโรงแรม รวมถึงการพัฒนาโปรดักส์ที่มุ่งตอบโจทย์การเป็น Vacation Home ในทำเลพัทยาสอดรับไปกับเทรนด์การพักผ่อนและการเดินทางท่องเที่ยวระยะใกล้จากกรุงเทพฯ ส่งผลให้บริษัทฯ มียอดรับรู้รายได้ที่เติบโตมากกว่าเท่าตัวจากปี 2562 หรือคิดเป็นรายได้รวมประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากเดิมกว่า 200%

สำหรับแผนงานในปี 2564 ฮาบิแทท กรุ๊ป เตรียมโปรดักส์ใหม่คือ อสังหาฯเพื่อการลงทุน และโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ เพื่อการก้าวเข้าสู่การแข่งขันในตลาดใหม่ ๆ คาดว่าอาจจะมีความชัดเจนมากขึ้นในครึ่งปีหลังปี 2564 โดยแนวโน้มการเติบโตของตลาดในกลุ่มอสังหาฯเพื่อการลงทุน คาดว่าจะเติบโตขึ้นราว 20-30% ขณะที่กลุ่มนักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนในสินทรัพย์อสังหาฯ พบว่ามีแนวโน้มเติบโตขึ้นเช่นกัน ปัจจัยหลักมาจากโดยการลงทุนในอสังหาฯ มีความเสี่ยงต่ำเมื่อเทียบกับการลงทุนประเภทอื่น

ส่วนผลตอบแทนที่ได้แม้อาจจะไม่สูงเท่าการลงทุนในหุ้นแต่ก็เป็นการสร้างรายได้สม่ำเสมอ (passive income) ให้กับผู้ลงทุน ขณะที่ในระยะยาวยังสามารถให้ผลตอบแทนจากส่วนต่างของราคาอสังหาฯ ที่เติบโตขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้เทรนด์การลงทุนในอสังหาฯก็เริ่มเปลี่ยนไปจากการซื้ออสังหาฯ เพื่อปล่อยเช่าแบบเดิม ๆ ที่มีการแข่งขันสูง และแข่งตัดราคากันมากในระยะหลังมาเป็นการเลือกลงทุนในอสังหาฯ ที่ทำให้ผู้ลงทุนเป็นเหมือนเจ้าของโรงแรมเอง มีการบริหารจัดการด้วยมืออาชีพเพื่อสามารถสร้างรายได้ประจำในระยะยาวให้แก่นักลงทุนหรือผู้ซื้อ

นอกจากนั้นในปีหน้า ฮาบิแทท กรุ๊ป มีแผนทำงานร่วมกับพันธมิตรใหม่ ๆ มากขึ้น ทั้งที่เป็นแบรนด์บริหารโรงแรมระดับโลกที่จะมีเข้ามาเสริมทัพให้กับธุรกิจ และกลุ่มพันธมิตรที่เป็นกองทุนที่ลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงกองทุนจากต่างประเทศ และกลุ่มธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญด้านเฉพาะด้านอย่าง Wellness เป็นต้น ทั้งนี้ ฮาบิแทท กรุ๊ป เชื่อว่า เพราะธุรกิจอสังหาฯปัจจุบันต้องใช้ทุนการพัฒนาโครงการที่มากขึ้น ดังนั้นเมื่อเทรนด์เปลี่ยนการทำธุรกิจจึงต้องปรับเปลี่ยนให้รวดเร็วและให้เหมาะสมกับสถานการณ์มากที่สุด

อีกทั้งบริษัทฯยังมุ่งเน้นทำงานที่สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคในวิถีใหม่ (นิว นอร์มัล) มากขึ้น และสร้างสรรค์โครงการนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อการสร้างมูลค่าให้กับการใช้ชีวิตและการลงทุน สามารถสร้างความยั่งยืนให้กับอสังหาริมทรัพย์ได้ในระยะยาว ทั้งการสร้างรายได้ Recurring Income (รายได้จากทรัพย์สิน) ให้กับผู้ซื้อ สะท้อนไปในเรื่องมูลค่าเพิ่มในอนาคต

ซึ่งแนวทางการทำงานดังกล่าว สะท้อนผ่านผลงานโครงการต่าง ๆ ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา จากการพัฒนาโครงการต่าง ๆ ด้วยแนวคิด Green Living Design ด้วยการออกแบบที่สร้างสรรค์ โดยใช้แนวคิดเพื่ออยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน ลดการใช้พลังงาน และทรัพยากรธรรมชาติให้ได้มากที่สุด ตั้งแต่การจัดวางผังและพื้นที่ใช้สอยของตัวอาคาร โดยคำนึงถึงการประหยัดพลังงาน ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การออกแบบทางภูมิสถาปัตยกรรมให้มี COURTYARD ตั้งอยู่ตรงกลางอาคาร เพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติ ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงาน และยังเป็นเหมือนตัวช่วยในการระบายอากาศภายในอาคาร (Ventilator) ทำให้พื้นที่ภายในอาคารโปร่ง โล่ง เย็นสบาย โดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องปรับอากาศ การใช้วัสดุและเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการช่วยลดการใช้พลังงาน การใช้หน้าต่างสูงเต็มบาน เพื่อรับแสงแดดได้มากที่สุด และลดการใช้พลังงาน รวมไปถึงการใช้กระจกสีตัดแสง (Tint Glass) และกระจกกันความร้อน (Low-E Glass) ที่ช่วยสะท้อนความร้อน และประหยัดพลังงานการใช้ไฟฟ้า รวมถึง และเก็บเสียงรบกวนจากภายนอก จะเห็นได้จากรางวัลที่ได้รับทั้งในระดับเอเชีย และเวทีระดับโลก

นอกจากนั้น ฮาบิแทท กรุ๊ป ยังได้รับรางวัลจากเวทีเกียรติยศระดับโลก FIABCI-Thai PRIX D’EXCELLENCE AWARDS 2020 จัดโดยสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์สากล (FIABCI-Thai) ได้แก่ รางวัลโครงการอสังหาริมทรัพย์ดีเด่นในประเภท Residential (Low Rise) โครงการเบสท์ เวสเทิร์น พรีเมียร์ เบย์เฟียร์ พัทยา และโครงการเบสท์ เวสเทิร์น พรีเมียร์ คลอเลคชั่น บลูเฟียร์ พัทยา และรางวัลจากงานประกาศรางวัลผู้ประกอบการแห่งภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค ‘Asia Pacific Entrepreneurship Awards 2020’ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 อีกทั้งนายชนินทร์ ยังรับรางวัลความดีตอบแทนคุณแผ่นดินและบุคคลตัวอย่างแห่งปี ประจำปี 2563 “Best Practice Awards 2020” โดยมูลนิธิเพื่อสังคมไทย ในสาขาบริหารและพัฒนาธุรกิจอีกด้วย

“เรามีความภูมิใจกับรางวัลที่ได้รับในแต่ละครั้ง โดยที่ผ่านมาเราได้รับรางวัลมากกว่า 56 รางวัลด้วยกัน ซึ่ง 20% ของรางวัลที่ได้นั้นเป็นส่วนของ คอร์ปอเรท อะวอร์ด และอีก 80% เป็นเรื่องโปรเจค ดีไซน์ อะวอร์ด ถือเป็นจุดขายสำคัญที่เราจะมุ่งยกระดับการพัฒนาโครงการที่เพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้เข้มข้นขึ้นด้วย แน่นอนว่าเรื่องทำเลต้องโดดเด่น และคุณภาพของสินค้าจะต้องดีกว่าเดิม ทั้งด้านฟังก์ชั่นการดีไซน์ และมีแบรนด์ที่ดี รวมถึงเรื่องการกำหนดราคาจะต้องน่าสนใจมากกว่าที่ผ่านมา เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ในภาวะที่ตลาดไม่หวือหวาเหมือนสมัยก่อน จะสามารถสร้างรายได้ระยะยาว ที่สามารถสร้างเป็นรายได้ (Passive income) จากทรัพย์สิน และสร้าง Capital Gain ให้กับธุรกิจได้ในระยะยาว” ชนินทร์ กล่าวสรุป

สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2564 นายชนินทร์ กล่าวว่า จะฟื้นตัวดีขึ้นจากปี 2563 ปัจจัยสำคัญที่เข้ามาหนุนตลาดคือ การพัฒนาวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด-19 ได้สำเร็จ และตอนนี้เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น เป็นการส่งสัญญาณในเชิงบวกต่อเศรษฐกิจโลก รวมทั้งในประเทศไทยที่เศรษฐกิจจะมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้ Sentiment ของตลาดน่าจะดีขึ้นจากความเชื่อมั่นของนักลงทุน ความมั่นใจเริ่มกลับมา การเดินทางเริ่มมีมากขึ้น ย่อมส่งผลดีต่อตลาดอสังหาฯโดยเฉพาะในครึ่งหลังปี 2564

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ