TH | EN
TH | EN
หน้าแรกColumnistDAO กับ Web3 เกี่ยวกันอย่างไร มาดูกัน

DAO กับ Web3 เกี่ยวกันอย่างไร มาดูกัน

ถ้าคุณอยู่ในวงการบล็อกเชนและคริปโทเคอร์เรนซี ก็น่าจะเคยได้ยินคำว่า DAO มาบ้าง แล้วสงสัยกันหรือไม่ว่า DAO คืออะไร สำคัญอย่างไร เราจะมาเรียนรู้ไปด้วยกันในบทความนี้!

DAO คืออะไร?

DAO ย่อมาจาก Decentralized Autonomous Organization สามารถแปลเป็นไทยได้ว่า “องค์กรอัตโนมัติแบบกระจายศูนย์” ซึ่งเป็นชุดคำสั่งที่เขียนขึ้นบน Smart contract ในบล็อกเชน และจะมีกลุ่มคนหรือสมาชิกที่มีอำนาจเท่า ๆ กันคอยบริหาร โดยไม่ได้เป็นการบริหารแบบรวมศูนย์หรือขึ้นตรงกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งซึ่งส่วนมากแล้วสมาชิกหรือผู้ที่มีอำนาจในการกำกับดูแล DAO มักจะเป็นผู้ที่ถือโทเคนของ DAO นั้น ๆ 

ยกตัวอย่าง Uniswap ที่เป็นแอปพลิเคชันกระจายศูนย์สำหรับการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล (Decentralized Exchange) บน Ethereum เมื่อมีคนเข้าใช้บริการแลกเปลี่ยนกับ Uniswap ผู้ที่ใช้บริการก็จะได้รับโทเคน UNI ตอบแทน โดยโทเคน UNI นอกจากจะเป็น Utility Token ที่ทำให้ผู้ถือสามารถใช้บริการอื่น ๆ ของ Uniswap แล้ว โทเคนนี้ยังมอบอำนาจให้ผู้ถือสามารถมีส่วนร่วมกับการบริหาร Uniswap ผ่านระบบ DAO ได้ ดังนั้น โทเคน UNI จึงสามารถจัดอยู่ในประเภท Governance Token (โทเคนเพื่อการบริหาร) ได้เช่นกัน  

สำหรับการวิธีการบริหารแบบ DAO มักจะทำผ่านการออกข้อเสนอ (Proposal) ผ่านระบบของแอปฯ นั้น ๆ เช่นในกรณีของ Uniswap อาจเป็นการเสนอให้ปรับลดค่าธรรมเนียมหรือเพิ่มคู่เหรียญใหม่ เป็นต้น ซึ่งผู้ที่จะออกข้อเสนอได้จำเป็นต้องถือโทเคน UNI จำนวนหนึ่งไว้ในกระเป๋า จากนั้นผู้ถือโทเคน UNI คนอื่น ๆ ก็จะเข้ามาร่วมออกเสียง (Vote) ว่าเห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าวหรือไม่ เมื่อถึงเวลาที่กำหนด หากเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วย ข้อเสนอดังกล่าวก็จะถูกนำไปปรับใช้

เป้าหมายของ DAO คืออะไร?

การบริหารแบบ DAO จะเกิดขึ้นแบบไม่มีลำดับขั้นหรือตำแหน่งในองค์กรเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้ความคิดเห็นส่วนใหญ่มาจากผู้ที่ใช้บริการหรือผู้ที่เชื่อมั่นในแอปพลิเคชันนั้นจริง ๆ ส่งผลให้สามารถพัฒนาแอปฯ หรือองค์กรให้ตอบโจทย์ผู้ใช้ได้มากที่สุด แถมระบบ DAO ยังเป็นระบบอัตโนมัติแทบทั้งหมด ทำให้สามารถลดขั้นตอนที่วุ่นวายออกการบริหารองค์กรแบบเดิม ๆ และลดระยะเวลาลงไปได้อย่างมาก

นอกจากนี้ การใช้ระบบบริหารแบบ DAO อย่าง Uniswap ที่ยกตัวอย่างมาด้านบน ยังมีส่วนช่วยให้ Governance Token อย่างโทเคน UNI มีมูลค่าด้วย เพราะนอกจากผู้คนจะต้องการ UNI เพื่อให้สามารถเข้าถึงบริการเพิ่มเติมของ Uniswap แล้ว บางคนอาจต้องการ UNI เพื่อนำไปช่วยกำหนดแนวทางพัฒนา Uniswap ยิ่งถ้าสามารถพัฒนาแอปฯ จนได้รับความนิยมมากขึ้นเท่าไหร่ มูลค่าของ UNI ก็อาจสูงขึ้นตามความนิยมด้วยเช่นกัน

Web3 กับ DAO เกี่ยวข้องกันอย่างไร?

Web3 หรือ Web 3.0 เป็นแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการขั้นต่อไปของอินเทอร์เน็ต โดยก่อนที่จะทำความเข้าใจ Web 3.0 ได้ เรามาย้อนดูอินเทอเน็ตในยุค 1.0 และ 2.0 กันก่อน ดังนี้

Web 1.0 – คือยุคแรกสุดของอินเทอร์เน็ต โดยในยุคนี้เว็บไซต์ต่าง ๆ จะเป็นเว็บไซต์ที่ผู้ใช้สามารถทำได้แค่ “อ่าน” ข้อมูลที่อยู่บนเว็บไซต์เท่านั้น แทบไม่สามารถโต้ตอบอะไรได้เลย 

Web 2.0 – คือเว็บไซต์แบบที่คุ้นเคยกันดีในปัจจุบัน อย่าง Facebook, Twitter, Instagram ฯลฯ โดยใน Web 2.0 ผู้ใช้สามารถ “สร้าง” และ “อัปโหลด” เนื้อหาขึ้นไปอยู่บนเว็บไซต์ได้ เช่น การโพสต์รูปภาพบน Instragram การแสดงความคิดเห็นบน Facebook หรือ Twitter เป็นต้น 

สำหรับ Web 3.0 แนวคิดหลักของมันคือ Decentralized Web หรือการเป็นเว็บไซต์แบบกระจายศูนย์ที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาตัวกลางเป็นผู้คอยเก็บข้อมูลและดำเนินการเพียงผู้เดียวเหมือนเว็บ 1.0 กับ 2.0 อีกต่อไป แต่ผู้ใช้ทุกคนสามารถร่วมเป็นเจ้าของและบริหารเว็บไซต์ผ่านระบบ DAO เหมือนตัวอย่างของ Uniswap นั่นเอง 

สรุป

เนื่องจาก Web 3.0 มีแนวคิดหลักคือการกระจายศูนย์ ซึ่งจะไม่มีตัวกลางคอยบริหารและควบคุมข้อมูลเพียงผู้เดียวอีกต่อไป ระบบที่จะถูกนำมาใช้แทนการบริหารเว็บแบบเดิม ๆ ก็คือ DAO ที่จะทำให้ผู้ใช้ทุกคนมีสิทธิ์ร่วมเป็นเจ้าของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันได้นั่นเอง

อ้างอิง: Cointelegraph

———-

เปิดบัญชีและเริ่มลงทุนคริปโทเคอร์เรนซีกับ Bitkub Exchange เลย: https://www.bitkub.com/signup

*การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ควรศึกษาและทำความเข้าใจก่อนลงทุน*

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ