TH | EN
TH | EN
หน้าแรกStartup“เอ็นไอเออะคาเดมี่” ชวนคนไทยร่วมเป็นเครือข่ายนวัตกร เดินหน้าสร้างนวัตกร...ผู้สร้างนวัตกรรม

“เอ็นไอเออะคาเดมี่” ชวนคนไทยร่วมเป็นเครือข่ายนวัตกร เดินหน้าสร้างนวัตกร…ผู้สร้างนวัตกรรม

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA โดยสถาบันวิทยาการนวัตกรรม (NIA Academy) ฉลอง 3 ปีแห่งความสำเร็จในการสร้างผู้ประกอบการนวัตกรรม พร้อมเปิดแคมเปญใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ “INNOVATOR TRIBE: เครือข่ายนวัตกร คิดเคลื่อนนวัตกรรม” เพื่อมุ่งสร้างกลุ่มคนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่นิยมการใช้ชีวิตและสร้างแนวทางการทำงานในรูปแบบที่แตกต่าง มีความพร้อมในการแสวงหาและสรรค์สร้างนวัตกรรมที่สามารถนำไปสู่การพัฒนาธุรกิจและกระบวนการทางสังคมที่ไร้กรอบจำกัด

ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA  กล่าวว่า “NIA academy จัดตั้งขึ้น โดยมีเป้าหมายในการสร้างทุนมนุษย์ที่มีศักยภาพในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ตอบโจทย์การพัฒนาเศรษฐกิจได้จริง การทำงานจึงมุ่งพัฒนาเครื่องมือที่เป็นแนวทางการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ และการเชื่อมโยงการทำงานร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมที่จะสนับสนุนการพัฒนาผู้ประกอบการและการพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมให้เกิดขึ้นจริงได้ จากการทำงานที่ผ่านมาทำให้เห็นถึงศักยภาพของคนไทยทั้งกลุ่มเยาวชนและสตาร์ตอัพ/ผู้ประกอบการ ผู้บริหารระดับกลางและระดับสูง ซึ่งหากได้รับการส่งเสริมความรู้ด้านนวัตกรรมและทักษะทางสังคมที่ส่งเสริมความเป็นนวัตกรอย่างเข้มข้น จะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงทั้งระบบคิดและการลงมือปฏิบัติที่ส่งผลกระทบในเชิงบวกทั้งด้านการสร้างสังคมที่มีวัฒนธรรมใหม่ทางความคิดและเกิดการพัฒนาธุรกิจและนโยบายนวัตกรรมระดับประเทศได้”

-“บัญชีนวัตกรรมไทย” ดันนวัตกรรมไทยทัดเทียมโลก
-เอ็นไอเอปั้น “นิลมังกร” ชูนวัตกรรมบ้านนอกพลิกฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด-19

ปัจจุบันการประเมินความสามารถทางนวัตกรรมระดับสากลให้ความสำคัญกับทุนมนุษย์ที่อยู่ในภาคการวิจัยและพัฒนา ดังนั้น หากอนาคตสามารถสร้างกำลังคนที่เป็นอาชีพใหม่คือ “อาชีพนวัตกร” ได้โดยตรงและเป็นคนจากหลากหลายความสามารถน่าจะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์และขับเคลื่อนประเทศไปได้อย่างก้าวกระโดด ดังนั้น ก้าวต่อไปของสถาบันฯ จึงมุ่งสร้างคนให้มีศักยภาพในการสร้างสรรค์นวัตกรรม ภายใต้แนวคิด “INNOVATOR TRIBE: เครือข่ายนวัตกร คิดเคลื่อนนวัตกรรม” ด้วยเชื่อมั่นในพลังนวัตกรที่มีอยู่ในคนทุกคน

โดย “TRIBE” มีที่มาจาก

T-Thinkering คิดต่างและแสวงหาแนวทางใหม่ในการเปลี่ยนแปลง
R-Resilience ยืดหยุ่น ปรับตัว หาทางออกและโอกาสใหม่ได้ก่อนใคร
I-Insight เข้าถึงความต้องการกลุ่มเป้าหมาย สร้างงานด้วยความเข้าใจและใส่ใจเสมอ
B-Bridging สร้างสะพานเชื่อมโยงงานและผู้คน เพื่อสร้างสิ่งใหม่ที่ยิ่งใหญ่ร่วมกัน
E-Entrepreneurship มีความเป็นผู้ประกอบการ ลงมือทำเพื่อสร้างคุณค่าใหม่ให้ธุรกิจเติบโต

ซึ่งจะเห็นว่าผู้ประกอบการนวัตกรรมที่ประสบความสำเร็จคือคนที่มีคุณสมบัติความเป็น TRIBE ครบทุกด้าน แต่จะมีคุณลักษณะเด่นที่แตกต่างกันไป นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยสำคัญที่จะเอื้อให้เกิดการพัฒนาศักยภาพของบุคคล เช่น ระบบการเรียนรู้ พื้นที่ในการลงมือทำจริง และการสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมสนับสนุนเครือข่ายทั้งด้านนโยบาย เทคโนโลยีและธุรกิจ ซึ่งเป็นสิ่งที่สถาบันฯ มุ่งดำเนินการสร้างขึ้นอย่างเป็นระบบเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรม

ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง รองผู้อำนวยการ ด้านระบบนวัตกรรม กล่าวว่า “จากการประเมินผลลัพธ์และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นระบุชัดเจนว่า 3 ปีที่ผ่านมา พบว่าหลักสูตรต่าง ๆ ของสถาบันฯ เช่น STEAM4INNOVATOR (สำหรับเยาวชน) SPACE-F (สำหรับผู้ประกอบการ/สตาร์ตอัพ) IDE to IPO (สำหรับองค์กร) PPCIL (สำหรับผู้บริหาร) ฯลฯ สามารถสร้างผลกระทบต่อกลุ่มเป้าหมายได้ถึง 5 ระดับ ตั้งแต่การจุดประกายความคิด การพัฒนาความสามารถด้านนวัตกรรม การเชื่อมต่อกับเครือข่ายเพื่อการพัฒนางาน การสร้างธุรกิจให้เกิดขึ้นจริง และการสร้างผลกระทบต่อเนื่องสู่สังคมและชุมชน โดยมีผู้เข้ารับการพัฒนาศักยภาพแล้วทั้งสิ้นกว่า 75,000 คนในทุกระดับทั่วประเทศ เกิดธุรกิจใหม่และการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจมากกว่า 900 องค์กร เกิดแนวคิดใหม่ด้านนโยบายนวัตกรรมสาธารณะและการพัฒนาเมืองโดยบุคลากรที่มาร่วมในหลักสูตร 222 องค์กร และเกิดเครือข่ายพันธมิตรที่ร่วมกันยกระดับความสามารถให้กับสตาร์ตอัพ/ผู้ประกอบการไทยรวมกว่า 200 องค์กร”

ดร.กริชผกา ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “ปัจจุบันสถาบันฯ ยังมุ่งมั่นในการพัฒนาศักยภาพด้านนวัตกรรมในกลุ่มคนที่หลากหลายผ่าน 10 ชุดเครื่องมือ (5 เครื่องมือพัฒนาศักยภาพ 2 เครื่องมือประเมินและกำหนดมาตรฐาน และ 3 ทรัพยากรสนับสนุน ซึ่งจะถูกหยิบมาใช้ในการออกแบบโปรแกรมให้เหมาะสมกับความสามารถและเป้าหมาย โดยกลุ่มแรกคือ กลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ (New Generation) ที่ต้องเริ่มสร้างคุณลักษณะนวัตกรให้ตั้งแต่วัยเยาว์เพื่อเติบโตเป็น TRIBE ในอนาคต

ซึ่งเครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาเริ่มตั้งแต่กระบวนการสร้างแรงบันดาลใจไปจนถึงการสร้างกระบวนการคิดและการส่งเสริมการทำธุรกิจจริง โดยมุ่งพัฒนากระบวนการ STEAM4INNOVATOR เพื่อฝึกสร้างสรรค์ธุรกิจนวัตกรรมด้วยเครื่องมือที่หลากหลาย สร้างฐานการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์เพื่อสร้างความเข้าใจ และต่อยอดการพัฒนาทักษะการเป็นผู้ประกอบการจริงให้กับน้อง ๆ ระดับมหาวิทยาลัยและกลุ่มที่เพิ่งจบกำลังหางานทำ (1st Jobber) ด้วยกระบวนการฝึกทำงานกับสตาร์ตอัพ/ผู้ประกอบการพี่เลี้ยง รับโจทย์จริง ทำงานจริง และต้องส่งมอบนวัตกรรมจริงให้กับบริษัท ซึ่งนับเป็นโอกาสในการพัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ อย่างเข้มข้น รวมถึงการบ่มเพาะและเร่งสร้างสตาร์ตอัพในรั้วมหาวิทยาลัยภายใต้ Startup Thailand League”

“กลุ่มที่สองคือกลุ่มผู้ใหญ่ทั้งสตาร์ตอัพ/ผู้ประกอบการ (Entrepreneur) องค์กร (Enterprise) และผู้บริหาร (Executive) โดยจะพัฒนาเครื่องมือในการสร้างผู้ประกอบการฐานนวัตกรรม เพิ่มทักษะความเป็น TRIBE ที่มุ่งเน้นการสร้างคุณลักษณะนวัตกรทั้ง 5 ด้าน สร้างจุดเปลี่ยนให้กับองค์กรด้วยโจทย์ท้าทายใหม่ ๆ และการพัฒนานวัตกรรมที่นำไปกำหนดทิศทางใหม่ที่สร้างมูลค่าใหม่ที่สูงขึ้นให้กับองค์กรได้จริง การพัฒนากำลังคนกลุ่มนี้จึงต้องเข้มข้นมากและเชื่อมโยงความเชี่ยวชาญของที่ปรึกษาและพันธมิตรต่าง ๆ เข้ามาสนับสนุน อีกทั้งมีโปรแกรมที่ลงลึกรายสาขาอุตสาหกรรม เพื่อให้เข้าถึงบริบทจริงและข้อมูลสำคัญในการสร้างธุรกิจนวัตกรรม สำหรับในระดับผู้บริหารจะมีการใช้เครื่องมือที่มุ่งเน้นการจัดการเชิงกลยุทธ์ที่ได้เรียนรู้ใกล้ชิดกับผู้มีบทบาทระดับนโยบายของประเทศเพื่อเข้าใจบริบทจริงของการทำงาน ต้องเรียนรู้เครื่องมือการออกแบบนโยบายและการคาดการณ์อนาคต เพื่อกำหนดโจทย์และพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายที่นำไปผลักดันใช้ได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพ หากสนใจศึกษาเครื่องมือต่าง ๆ และโปรแกรมพัฒนาศักยภาพที่เหมาะกับท่านเพื่อมาเป็น TRIBE ด้วยกัน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02-017-5555 เว็บไซต์ www.academy.nia.or.th และ เพจ NIAThailand”

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ