Share on

[seed_social]

“ดร.จีรัง คำนวนตา” ใช้ AI ปั้นคอนเทนต์ พลิกโฉมธุรกิจและภูมิปัญญาท้องถิ่น

ในยุคที่ “ปลาเร็วกินปลาช้า” การปรับตัวและเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ คือหัวใจสำคัญของการอยู่รอดทางธุรกิจ ดร.จีรัง คำนวนตา อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ วิทยาเขตแม่ฮ่องสอน และผู้ประกอบการโรงแรมพานอรามา จ.แม่ฮ่องสอน เผยเคล็ดลับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ในการสร้างสรรค์สื่อดิจิทัลเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดและการพัฒนาธุรกิจโดยผสมผสานความรู้จากภาควิชาการและประสบการณ์ภาคปฏิบัติ เนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่การผลิตสื่อภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ไปจนถึงการประยุกต์ใช้เพื่อต่อยอดมรดกทางวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ AI ในฐานะเครื่องมือสำคัญสำหรับผู้ประกอบการในยุคปัจจุบัน

ดร.จีรัง ได้อ้างถึงคำกล่าวของ Jensen Huang, CEO ของ Nvidia ที่ระบุว่า “คุณจะไม่ได้ตกงานเพราะ AI แต่จะตกงานเพราะคนที่ใช้ AI เป็น” ซึ่งตอกย้ำถึงความจำเป็นในการปรับตัวของบุคลากรและองค์กรในสภาวะการแข่งขันที่ผู้ที่ปรับตัวได้เร็วกว่าย่อมได้เปรียบ การเพิกเฉยต่อการเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่อาจส่งผลให้สูญเสียความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจได้

ช่องทางการเข้าถึงเทคโนโลยี AI สำหรับการสร้างภาพ

การเข้าถึงเทคโนโลยี AI เพื่อสร้างสรรค์ภาพสามารถทำได้ผ่าน 3 ช่องทางหลัก ซึ่งแต่ละช่องทางมีลักษณะเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ได้แก่ 1.การใช้งานผ่านเว็บไซต์ (Web-Based) เช่น Midjourney หรือ Leonardo.AI ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกและไม่ต้องการฮาร์ดแวร์ประสิทธิภาพสูง แต่ผู้ใช้งานต้องพิจารณาถึงนโยบายความเป็นส่วนตัวของข้อมูล 2.การติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Local) ด้วยโปรแกรมอย่าง Stable Diffusion ซึ่งให้ความเป็นส่วนตัวและการควบคุมสูงสุด แต่จำเป็นต้องลงทุนในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะเพียงพอ โดยเฉพาะหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) และ 3.การเช่าใช้บริการบนคลาวด์ (Cloud) ซึ่งเป็นทางเลือกที่ให้ทั้งประสิทธิภาพสูงและความเป็นส่วนตัว โดยมีรูปแบบค่าใช้จ่ายตามการใช้งานจริง

เทคนิคการสร้างและปรับแก้ภาพด้วยปัญญาประดิษฐ์

กระบวนการสร้างภาพด้วย AI ประกอบด้วยเทคนิคพื้นฐานคือ Text-to-Image หรือการสร้างภาพจากคำสั่งข้อความ และ Image-to-Image ซึ่งเป็นการใช้ภาพต้นฉบับเป็นฐานในการสร้างสรรค์หรือดัดแปลงผลงานใหม่ ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่มีความเชื่อมโยงกับบริบทจริงมากขึ้น 

นอกจากนี้ ยังมีเทคนิคขั้นสูงที่ช่วยให้สามารถควบคุมผลลัพธ์ได้อย่างละเอียด อาทิ Inpainting สำหรับการแก้ไขภาพเฉพาะส่วน, Outpainting เพื่อการขยายองค์ประกอบของภาพ และ ControlNet ซึ่งเป็นเครื่องมือที่สามารถควบคุมโครงสร้างของภาพได้อย่างแม่นยำ เช่น การกำหนดท่าทางของวัตถุ (Pose) หรือการใช้ภาพร่างเบื้องต้น (Scribble) เป็นแนวทางในการสร้างภาพ

การต่อยอดสู่การผลิตสื่อมัลติมีเดีย

ศักยภาพของ AI มิได้จำกัดอยู่เพียงภาพนิ่ง แต่ยังครอบคลุมถึงการผลิตสื่อมัลติมีเดียประเภทอื่น เทคโนโลยีนี้มีความสามารถในการสร้างสรรค์วิดีโอขนาดสั้นจากคำสั่งข้อความ (Text-to-Video) หรือสร้างภาพเคลื่อนไหวจากภาพนิ่ง (Image-to-Video) ซึ่งเป็นประโยชน์ในการลดต้นทุนและเวลาในการผลิตสื่อที่ซับซ้อน ขณะเดียวกัน เครื่องมืออย่าง Suno ยังสามารถผลิตผลงานดนตรีพร้อมทำนองและเนื้อร้องได้ และสามารถนำไปใช้ร่วมกับเทคนิคการสร้างการเคลื่อนไหวริมฝีปากให้สอดคล้องกับเสียง (Lipsync) เพื่อสร้างคอนเทนต์วิดีโอที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

กรณีศึกษา: การประยุกต์ AI เพื่อพัฒนามรดกทางวัฒนธรรม

หนึ่งในโครงการที่น่าสนใจคือการนำ AI มาประยุกต์ใช้เพื่อออกแบบลวดลายและเครื่องแต่งกายของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงในจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาการออกแบบที่อาจมีความซ้ำซ้อนและจำกัด กระบวนการดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการฝึกสอน (Train) AI ด้วยชุดข้อมูลลายผ้าดั้งเดิม เพื่อให้ AI สามารถสร้างสรรค์ผลงานออกแบบใหม่ที่มีความร่วมสมัย แต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม โครงการนี้ถือเป็นตัวอย่างของการใช้เทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมและยกระดับมรดกทางภูมิปัญญาท้องถิ่น

กลยุทธ์การปรับเนื้อหาให้สอดคล้องกับอัลกอริทึม (B2A)

ในภูมิทัศน์ของสื่อดิจิทัลปัจจุบัน การนำเสนอเนื้อหาไปสู่กลุ่มเป้าหมายขึ้นอยู่กับเกณฑ์วิธีหรืออัลกอริทึม (Algorithm) ของแต่ละแพลตฟอร์มเป็นสำคัญ ดังนั้น นอกจากจะสร้างเนื้อหาเพื่อผู้รับสารแล้ว ผู้ผลิตยังต้องพิจารณาถึงแนวคิด Business-to-Algorithm (B2A) คือการปรับแต่งเนื้อหาให้มีคุณลักษณะที่สอดคล้องกับเกณฑ์การคัดเลือกของอัลกอริทึม เพื่อเพิ่มโอกาสที่เนื้อหาจะถูกเผยแพร่และเข้าถึงผู้ชมในวงกว้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ

AI ไม่ใช่เครื่องมือวิเศษ แต่เป็นผู้ช่วยทรงพลังที่เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถสร้างสรรค์ผลงานระดับมืออาชีพได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของกิจการขนาดเล็ก ศิลปิน หรือนักการตลาด การเรียนรู้และนำเครื่องมือเหล่านี้มาประยุกต์ใช้ ไม่เพียงแต่จะช่วยประหยัดเวลาและต้นทุน แต่ยังช่วยปลดล็อกศักยภาพในการสร้างสรรค์และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในโลกธุรกิจที่หมุนไปอย่างรวดเร็วได้

ผู้เขียน