TH | EN
TH | EN
หน้าแรกThe Movementสทนช. ผนึก อีสท์ วอเตอร์ และ กนอ. สร้างความมั่นคงด้านน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก

สทนช. ผนึก อีสท์ วอเตอร์ และ กนอ. สร้างความมั่นคงด้านน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก

สทนช.ผนึกกำลัง อีสท์ วอเตอร์ และ กนอ. เพื่อสร้างความมั่นคงด้านน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานตาม 10 มาตรการฤดูแล้งปี 2565/2566 และเตรียมความพร้อมรับมือฤดูฝน ปี 2566 ในพื้นที่จังหวัดระยอง พร้อมสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนผ่านรายการ รู้อยู่กับน้ำ เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำในทุกมิติ

ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะคณะทำงานภายใต้กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.)  นำคณะลงพื้นที่จังหวัดระยอง เพื่อติดตามผลการดำเนินงาน 10 มาตรการฤดูแล้ง ปี 2565/2566 และเตรียมความพร้อมรับมือฤดูฝน ปี 2566 โดยติดตามสถานการณ์น้ำบริเวณอ่างเก็บน้ำประแสร์ และสรุปภาพรวมสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ รวมถึงแนวทางการบริหารจัดการน้ำรับมือฤดูฝน มีการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นการมีส่วนร่วมการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จากผู้แทนองค์กรผู้ใช้น้ำ 3 ภาคส่วน ได้แก่ ภาคเกษตร พาณิชยกรรม และอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ มีการสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนเพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำในทุกมิติ ผ่านรายการ “รู้อยู่กับน้ำ” เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงผลกระทบของภัยพิบัติด้านน้ำและสามารถปรับตัวอยู่กับน้ำได้ในทุกสถานการณ์ โดยมีการพูดคุยร่วมกับ วีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและบดินทร์ อุดล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายปฏิบัติการ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรืออีสท์ วอเตอร์ มุ่งเน้นให้ภาคอุตสาหกรรมมีส่วนร่วมกับภาครัฐ การพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ของภาคอุตสาหกรรม เพื่อสร้างความมั่นคงด้านน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก

บดินทร์ อุดล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายปฏิบัติการ อีสท์ วอเตอร์ กล่าวว่า สถานการณ์เอลนีโญที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ ยังไม่ได้รับผลกระทบกับผู้ใช้น้ำที่รับน้ำจากโครงข่ายท่อส่งน้ำของอีสท์ วอเตอร์ ในปัจจุบัน เนื่องจากได้คาดการณ์สถานการณ์น้ำล่วงหน้าในกรณีภัยแล้งวิกฤติ ที่มีสถานการณ์น้ำต้นทุนน้อยและมีความต้องการใช้น้ำสูงกว่าปกติ รวมถึงได้มีแผนการสูบจ่ายน้ำรองรับสถานการณ์ดังกล่าวแล้ว

โดยอีสท์ วอเตอร์ ได้มีแผนบริหารจัดการน้ำในภาพรวมของพื้นที่ EEC ในอีก 20 ปีข้างหน้า และการลงทุนวางท่อส่งน้ำสายหลักเพื่อสร้างศักยภาพ Water Grid ให้สมบูรณ์มากกว่าเดิม มีความยาวท่อส่งน้ำสายหลัก 526 กิโลเมตรในระยะเวลาอันใกล้ พร้อมด้วยแหล่งน้ำหลักที่ได้จัดสรรจากกรมชลประทาน ได้แก่ อ่างเก็บน้ำหนองค้อ อ่างเก็บน้ำดอกกราย อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล อ่างเก็บน้ำประแสร์ อ่างเก็บน้ำบางพระ

รวมถึงแหล่งน้ำที่สามารถสูบใช้น้ำได้ในแต่ละปี โดยมีปริมาณน้ำต้นทุนเป็นปริมาณน้ำท่าตามฤดูกาล ได้แก่  แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำระยอง คลองทับมา และแหล่งน้ำเอกชน และยังมีแหล่งน้ำสำรองเพื่อใช้ในกรณีที่ปริมาณน้ำในแหล่งน้ำมีน้อยและเกิดการขาดแคลนน้ำ ได้แก่ สระสำรองน้ำดิบสำนักบก สระสำรองน้ำดิบฉะเชิงเทรา และสระสำรองน้ำดิบทับมา

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ดีป้า ดันจัดตั้ง ‘สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่’ สำเร็จ มุ่งขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม

Tesla ประเทศไทย นำรถโมเดล 3 สีรุ้งคันแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาเปิดตัวแคมเปญ Drive With Pride

        

  

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ