ด้วยการดิสรัปของการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภค และการระบาดของโควิด รวมถึงความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลและการเงินดิจิทัลของประเทศไทย ได้สร้างรูปแบบใหม่ของตลาดที่ยึดโยงเทคโนโลยีกับรูปแบบการทำการตลาดแบบเดิมเข้าด้วยกัน จนทำให้คำพุดทางการตลาดที่เรียกว่า O2O กลายเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นจริงในทุกวงการธุรกิจจากนี้ไป และการเป็น O2O นั้นเมื่อนำมาประยุกต์ใช้แล้วจะมีดีกรีและความเข้มข้นที่แตกต่างกันไป ขึ้นกับบริบทของระบบนิเวศของธุรกิจนั้น และขึ้นกับความพร้อมในการเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่ O2O ของผู้มีส่วนได้เสียในระบบนิเวศนั้น
กรุงศรี ออโต้ เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ปักธงกลยุทธ์การตลาดไปทิศทางดิจิทัล โดยใช้กลยุทธ์ O2O เพื่อสร้างประสบการณ์การซื้อสินค้าและบริการแบบไร้รอยต่อให้กับผู้บริโภค เชื่อมสู่บริการสินเชื่อดิจิทัลที่มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มมากขึ้น
ข้อมูลที่ทำการวิจัยมาพิสูจน์ว่าคนไทยใช้เวลาเกือบ 1 ใน 3 ของวันบนโลกออนไลน์และ “ซื้อของออนไลน์”
คงสิน คงคา ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อนยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปี 2565 กรุงศรี ออโต้ ชูกกลยุทธ์ Digital Connectivity ที่สร้างขึ้นจากความเข้าใจเส้นทางของลูกค้าที่เคลื่อนมาสู่ไลฟ์สไลต์แบบ O2O (online-to-offline) โดยเฉพาะการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการ “สินเชื่อรถยนต์” ที่ลูกค้ามักจะทำการค้นหาข้อมูลบนออนไลน์ และมาจบการซื้อที่ออฟไลน์ ที่ผ่านมากรุงศรี ออโต้ ได้ออกผลิตภัณฑ์การขอสินเชื่อออนไลน์ (Krungsri Auto PromptStart) และการให้สินเชื่อออนไลน์ (GO Application by Krungsri Auto) เพื่อเชื่อมการเดินทางของลูกค้าให้อยู่บนลู่ของออนไลน์ตลอดตั้งแต่ขอสินเชื่อจนอนุมัติสินเชื่อ
ภายใต้กลยุทธ์ Digital Connectivity คือ การเชื่อมต่อ O2O ให้กับทั้งลูกค้าและคู่ค้าของกรุงศรี ออโต้ ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและการออกแบบสินค้าและบริการ รวมถึงแคมเปญทางการตลาด เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใข้บริการต่างของ ๆ ของกรุงศรี ออโต้ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำตลาดให้กับดีลเลอร์รวมถึงคู้ค้าที่เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์
ปี 2565 กรุงศรี ออโต้ จึงตั้งเป้ายอดปล่อนยสินเชื่อดิจิทัลไว้ที่ 10,600 ล้านบาท เติบโต 53% จากปีที่แล้ว คิดเป็น 6% ของยอดปล่อยสินเชื่อยานยนต์รวมของบริษัทที่ 173,000 ล้านบาท เติบโต 11% จากปีที่แล้ว ซึ่งเป็นเป้าที่ยังครองผู้นำตลาดที่ส่วนแบ่งการตลาดที่ 34.6% ของตลาดสินเชื่อยานยนยนต์รวมที่ 499,500 ล้านบาท ซึ่งเติบโต 5% จากปีก่อนหน้าที่มีมูลค่า 470,000 ล้านบาท ทั้งกรุงศรี ออโต้ ตั้งเป้ายอดสินเชื่อคงค้างปี 2565 มีมูลค่ารวม 425,000 ล้านบาท
สำหรับสินเชื่อยานยนต์ไฟฟ้า ยอดสินเชื่อใหม่ของสินเชื่อยานยนต์ไฟฟ้า ใน 5 เดือนแรก ของกรุงศรี ออโต้ มีการเติบโตดังนี้
o ยอดสินเชื่อใหม่ (รวมทั้งรถ HEV, PHEV, BEV, EV) เติบโต 51% จากปีก่อนหน้า
o ยอดสินเชื่อใหม่ (เฉพาะ BEV/EV) เติบโต 28% จากปีก่อนหน้า
จากการสำรวจของวิจัยกรุงศรี ในช่วงนี้ความต้องการกระจุกอยู่ที่รถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาระดับปานกลางถึงสูง (750,000-1,000,000 บาท) หลังจากนั้นความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าจะเร่งตัวขึ้นในปี 2024 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนจะปล่อยสินเชื่อดิจิทัล (Digital Lending) สำหรับรถ 2 ล้อ และการรีไฟแนนซ์ในครึ่งปีหลังของปี 2565 นี้
สำหรับคู่ค้า กรุงศรี ออโต้จะพัฒนาแพลตฟอร์มช่วยดีลเลอร์บริหารจัดการธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผ่านการประสานงานกับ กรุงศรี ออโต้ ได้อย่างรวดเร็วไร้รอยต่อ ทั้งด้านการรายงานข้อมูล เช่น สถานะใบสมัครสินเชื่อของลูกค้า ยอดขาย และข้อมูลภาษี รวมทั้งด้านการขาย เช่น การเข้าถึงลูกค้าในต่างพื้นที่ การให้บริการลูกค้าบนดิจิทัล และการเชื่อมต่อข้อมูลรถและสินเชื่อแบบเรียลไทม์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการขายโดยรวม
รวมถึงเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มดิจิทัลของพันธมิตรแบรนด์ผู้ผลิตและผู้ให้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อสร้างประโยชน์ทางธุรกิจด้วยเช่นกัน อาทิ การเชื่อมต่อโซลูชันที่ช่วยให้ลูกค้าวางแผนผ่อนชำระสินเชื่อได้จากบนแพลตฟอร์มซื้อ-ขายรถ และการต่อยอดนวัตกรรม “กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท” (Krungsri Auto PromptStart) เพื่อช่วยให้กลุ่มลูกค้าที่กำลังเลือกซื้อรถบนแพลตฟอร์มของพันธมิตร สามารถรู้วงเงินประเมินสินเชื่อของตน และตัดสินใจได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น โดยในครึ่งปีหลัง กรุงศรี ออโต้ จะขยายความร่วมมือกับพันธมิตรอื่น ๆ เพิ่มเติม เพื่อเจาะกลุ่มเซ็กเมนต์ที่หลากหลายยิ่งขึ้น
