ปัจจุบัน SMEs ในไทยมีมากถึง 3.1 ล้านรายและ มีการจ้างงานถึง 13 ล้านคน คิดเป็น 43% ของ GDP ประเทศ ถือเป็นฐานรากสำคัญของระบบเศรษฐกิจประเทศไทย ซึ่งทุกวันนี้เหล่า SMEs ต้องเผชิญความท้าทายอย่างมากมายทั้งจากวิกฤติโควิด-19 และวิกฤติเศรษฐกิจ
-โตชิบา เปิดตัวโซลูชันป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ภาคอุตสาหกรรม
-ดีแทค-อาซีฟา ผุด 5G โซลูชันบริหารพลังงานระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ
ธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าองค์กร เอไอเอส กล่าวว่า ความท้าทายของ SMEs ไทยในช่วงวิกฤติโควิด-19 ที่ผ่านมา คือ การรักษาและติดต่ลูกค้ากลุ่มเดิม หาลูกค้ากลุ่มใหม่ และปรับตัวเข้าสู่ช่องทางออนไลน์ ซึ่งจากข้อมูลมีเพียง 38.6% ของ SMEs เท่านั้นมีข่องทางขายออนไลน์ ส่วน 79.3% มีช่องทางชำระเงินผ่านออนไลน์ ซึ่งตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมานี้เกิดจากการที่คนระวังเรื่องการสัมผัสผ่านธนบัตร
ด้านกลยุทธ์หลักของ SMEs ไทยในช่วงวิกฤติที่ผ่านมากว่า 64.3% ใช้การควบคุมค่าใช้จ่ายเป็นหลัก ในช่วงคลายล็อกดาวน์ ขณะที่เน้นสร้างธุรกิจรอง หรือแตกไลน์ธุรกิจใหม่ 56.9%
ธนพงษ์ มองว่า การควบคุมค่าใช้จ่ายเป็นพื้นฐานที่ธุรกิจต้องทำ แต่อยากให้ SMEs เปิดใจที่จะใช้แนวทางใหม่ ๆ อย่างแรกคือการเรียนรู้การทำธุรกิจบนออนไลน์ ทั้งการใช้แชทบอท หรือการตลาดดิจิทัล เพราะคนที่ทำได้ก็จะประสบความสำเร็จ นอกเหนือจากการขยายตลาดแล้ว จะต้องเพิ่มมูลค่าให้สินค้าตัวเอง หรือ ขายสินค้าใหม่ ๆ ก็จะทำให้สามารถสร้างรายได้เพิ่มจากลูกค้าปัจจุบัน และได้ลูกค้าใหม่
“เราตั้งใจจะทำงานร่วมกับ SMEs เพื่อให้ดำเนินธุรกิจต่อไปได้ แม้จะเกิดวิกฤติต่าง ๆ”
ซึ่งเอไอเอสจะเข้ามาช่วย SMEs เพิ่มการส่งเสริมการขายในตลาดออนไลน์ เพิ่มนวัตกรรมเพื่อปรับตัวรับสถานการณ์ เพิ่มความยืดหยุ่นรองรับการเปลี่ยนแปลง และ ปรับโครสร้างต้นทุนใช้เทคโนโลยีเข้ามาบริหาร ผ่านโซลูชันกว่า 80 ผลิตภัณฑ์ของเอไอเอส และในอนาคตเอไอเอสมั่นใจว่าจะมีโซลูชันต่าง ๆ เข้ามาอีกมากมาย เพราะเอไอเอสเป็นองค์กรที่ปรับตัวอย่างรวดเร็ว
“SMEs ต้องอย่ามองว่าโควิดเป็นวิกฤติเพียงอย่างเดียว แต่ให้มองว่าเป็นเวทีที่จะให้คิดอะไรใหม่ ๆ เราจะต้องหาวิธีการต่าง ๆ ที่จะขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ ซึ่งเรามั่นใจว่าเอไอเอสมีโซลูชันที่เข้ามาช่วย SMEs ได้ครบวงจร”
ธนพงษ์ กล่าวเสริมว่า หน้าที่ของเอไอเอสไม่ใช่แค่นำโซลูชันไปให้เขา แต่จะต้องเป็นเพื่อน มีการให้ความรู้ผ่านการประชุมออนไลน์ (Webinar) สร้างความรู้ให้กับลูกค้า SMEs เพิ่มขึ้น เพื่อผลักดันธุรกิจไปได้ในอนาคต ซึ่งในช่วงโควิด-19 เอไอเอสจัด Webinar ในเรื่องไอทีมากมาย ทั้งเรื่อง คลาวด์ ความปลอดภัยด้านไซเบอร์ การตลาดดิจิทัล ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจ
“เรามองว่าการแข่งขันของ SMEs ไม่ใช่การแข่งขันในประเทศ แต่เป็นการแข่งขันในระดับโลก เราจึงต้องผลักดัน SMEs ให้มีความรู้ที่ดีในหลาย ๆ ด้าน”
ทั้งนี้ เอไอเอส มุ่งมั่นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล 3 ด้าน คือ เครือข่าย AIS 5G, AIS Fibre พร้อมด้วยบริการดิจิทัลที่ครอบคลุมครบทุกด้าน เพื่อสนับสนุนการใช้ชีวิตและ ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย หรือ SMEs ที่จะเป็นเพื่อนที่มั่นใจได้ทุกเรื่อง SME ที่ ง่าย มั่นใจ ครบทุกมิติ ผ่านอาวุธดิจิทัล 7S ประกอบด้วย
1.AIS SME Mobile Services : ครบเครื่องทุกรูปแบบการสื่อสารที่ออกแบบมาแล้วว่าเหมาะกับธุรกิจออนไลน์ อาทิ SME Pro Social ให้เป็นนักธุรกิจออนไลน์แบบมือโปร เริ่มต้นเพียง เดือนละ 599 บาท ทั้งโทรและเน็ต พร้อมใช้ฟรีบริการผู้ช่วย LIVE สด, รับฟรีส่วนลดอุปกรณ์ LIVE สด เบื้องต้นแบบครบเซ็ต, ใช้ฟรี Social App. (Facebook, Instagram, LINE และ What App) พร้อมฟรีประกันภัยไซเบอร์ ลดความเสี่ยงที่ธุรกิจจะเสียหายจากการโจมตีทางไซเบอร์ในยุคนี้ นอกจากนี้ ยังมอบความพิเศษให้กับลูกค้าที่เปิดเบอร์ หรือย้ายค่าย ได้คุ้มเต็มแรง 3 ต่อ คุ้มที่หนึ่ง รับอินเทอร์เน็ต 5G จำนวน 10 GB/เดือน นาน 3 เดือน เพื่อใช้ติดต่อสื่อสารช่วงวิกฤตโควิด คุ้มที่สอง รับสิทธิ์สินเชื่อจากธนาคาร UOB อัตราดอกเบี้ยพิเศษ และคุ้มที่สาม รับส่วนลดสูงสุดถึง 30% ในการซื้อ Tablet หรือ Smartphone (เฉพาะรุ่นที่ร่วมรายการ) จาก Samsung
2.AIS SME Internet Services : ครบ ครอบคลุม ทุกพื้นที่ เหมาะกับธุรกิจที่ต้องมีบริการอินเทอร์เน็ตให้ลูกค้า อย่าง โรงแรม, อพาร์ตเมนท์ , หอพัก พร้อมจัด Speed และราคาให้เหมาะกับรูปแบบการใช้งานตามช่วงเวลา อาทิ SME Office Broadband Plus เริ่มต้นเพียงเดือนละ 599 บาท ความเร็วสูงสุด (ดาวน์โหลด/อัปโหลด) 500/500 Mbps พร้อมจัดเต็มสิทธิประโยชน์เพื่อการบริหารจัดการ Office เพียบ
3.AIS SME Digital Marketing Services : บริการดิจิทัล ออนไลน์ เหมาะกับธุรกิจ
ที่มองหาเครื่องมือการตลาดดิจิทัล เพื่อสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย อาทิ AIS Growbiz แอปฯ การตลาดออนไลน์ ที่มาพร้อม นามบัตรดิจิทัล, บริการจองคิว, บริการช่วยตอบ Chat ระบบอัตโนมัติ, เว็บไซต์ Yellow Pages, Digital Marketing 360°, บริการ Call Center และ Thailand Ad Network (THAN)
4.AIS SME IT & Digital Solutions : ระบบไอทีหลังบ้านที่ได้มาตรฐานระดับโลก อาทิ Work From Home โซลูชัน, Cloud, ระบบบัญชีออนไลน์, ระบบติดตาม นอกจากนี้ AIS SME ยังเป็นรายแรกและรายเดียวในกลุ่มโทรคมนาคม ที่มอบความคุ้มครองประกันภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security insurance) สำหรับแพ็คเกจมือถือ AIS SME ที่ร่วมรายการ
5.AIS SME Full e-Services : งานบริการแบบ E-Service ที่อำนวยความสะดวกให้แก่นิติบุคคล อาทิ บริการรับบิลล์และใบเสร็จทางออนไลน์, eWithholding TAX และ myAIS for Corp.ฯลฯ
6.AIS SME Special Privileges : สิทธิพิเศษที่ทำให้ทั้งการทำธุรกิจและการใช้ชีวิต ง่ายและคุ้มขึ้น อาทิ AIS SME BIZ UP ศูนย์รวมดีลเด็ด เช่น คอร์สเทรนออนไลน์, ส่วนลดลงโฆษณาออนไลน์ โดยยังคงมอบสิทธิพิเศษเน็ตฟรีให้แก่สมาชิก AIS SME BIZ UP อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้รับมือกับสถานการณ์โควิดได้อย่างดี รวมถึงล่าสุด SME สามารถสะสม AIS Points ได้แล้วเช่นกัน ตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 รับปีใหม่นี้
7.AIS SME Strategic Partnership : โอกาสแห่งการเติบโตใหม่ ๆ สร้างยอดขาย ผนึกกำลัง เป็นพาร์ทเนอร์ทั้งในไทยและต่างประเทศ กับ 3 โครงการสุดล้ำ AIS The StartUps , AIS BizUp Partners และ AIS Channel Partners
“การทำธุรกิจ SME ยุคใหม่ ไม่มีสูตรสำเร็จเหมือนในอดีต ขึ้นอยู่กับว่า เราจะกล้าพลิกเกมจากความท้าทาย ปัญหา หรืออุปสรรคที่เข้ามาอย่างรวดเร็วได้อย่างไร เพราะบนโลกยุคดิจิทัล การแข่งขันชี้วัดกันที่ Speed และ Spirit ที่จะเปลี่ยน Business Model ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลอย่างชาญฉลาด ทั้งการบริหารจัดการต้นทุนการผลิต การบริหารงาน Operation ที่จะต้องต่อเนื่องและ ไร้รอยต่อ โดย AIS SME ขอยืนยันความพร้อมว่า เราจะอยู่เคียงข้าง คอยสนับสนุนให้ SME ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง แบบไม่ต้องกังวลกับระบบบริการหลังบ้าน เพราะชาวเอไอเอสจะร่วมดูแลคุณเสมอ จะเป็นเพื่อนที่มั่นใจได้ทุกเรื่อง SME ที่ ง่าย มั่นใจ ครบทุกมิติ” ธนพงษ์ กล่าวสรุป
