ซัมซุง เปิดตัว “ซัมซุง ไลฟ์สไตล์ สโตร์” แห่งแรกของประเทศไทย และแห่งที่ 3 ในเอเชีย ณ พาวเวอร์ มอลล์ พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ชูจุดเด่นเทคโนโลยีอัจฉริยะที่สามารถเชื่อมต่อทุกประสบการณ์ผ่านอีโคซิสเต็มของซัมซุง
-อิเกีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเม็กซิโก รายได้ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี
-ซัมซุงเปิดตัว Galaxy S20 FE เอาใจกาแลคซี่แฟน
เฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ รองประธาน ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า “ชีวิตวิถีใหม่ ทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในระยะยาว ซึ่งส่งผลต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยี ทั้งในแง่ของการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับความต้องการของตลาด ซัมซุงในฐานะผู้นำนวัตกรรมและไลฟ์สไตล์ระดับโลก เป็นแบรนด์เดียวที่พร้อมนำเสนอประสบการณ์การใช้ชีวิต ‘นิวนอร์มัล’ แบบครบวงจร ให้กับผู้บริโภคผ่านซัมซุง อีโคซิสเต็ม ซึ่งประกอบไปด้วยไลน์อัพผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายสำหรับทุกเซกเมนต์ เราจึงต้องการให้ผู้บริโภคได้มาสัมผัสประสบการณ์ล้ำสมัยนี้ได้ที่ ซัมซุง ไลฟ์สไตล์ สโตร์ ซึ่งเราได้จำลองบ้านที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้หลายรูปแบบ และสาธิตความอัจฉริยะของเครื่องใช้ไฟฟ้าซัมซุงที่สามารถเชื่อมต่อและทำให้การใช้ชีวิตสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น”
สำหรับ “ซัมซุง ไลฟ์สไตล์ สโตร์” แห่งแรกในประเทศไทย ซัมซุงได้เนรมิตพื้นที่กว่า 500 ตารางเมตร ของ พาวเวอร์ มอลล์ พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ เพื่อนำเสนอรูปแบบการใช้ชีวิตยุคใหม่ ภายใต้โจทย์ที่ว่า เมื่อผู้คนต้องอยู่บ้านมากขึ้น บ้านต้องตอบสนองการใช้ชีวิตได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตให้ดียิ่งขึ้นได้ในสถานที่เดียว (Multi-functional Home) ประกอบด้วยพื้นที่ 3 ส่วนหลัก ได้แก่
-พื้นที่โชว์เคสไลฟ์สไตล์ในบ้าน
-พื้นที่จัดแสดงสินค้าในกลุ่มภาพและเสียง
-พื้นที่จัดแสดงสินค้าในกลุ่มสมาร์ทโฟน
เฉลิมพงษ์ ยังได้วิเคราะห์แนวโน้มตลาดสินค้าเทคโนโลยีและเครื่องใช้ไฟฟ้าหลัง ‘นิวนอร์มัล’ ว่า แม้การซื้อของผู้บริโภคในภาพรวมจะลดลงตามสภาพเศรษฐกิจ แต่ผู้บริโภคมีแนวโน้มจะลงทุนกับสินค้าเทคโนโลยีที่ตอบสนองการใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ โดยเรื่องที่ให้ความสำคัญ ได้แก่ สุขภาพและการมีชีวิตที่ดี การใช้ชีวิตอยู่กับบ้าน และกิจกรรมบนโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นโอกาสของสินค้ากลุ่มสมาร์ทโฮม ที่สามารถเชื่อมต่อกันได้ด้วยเทคโนโลยี IoT (Internet of Things) และจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า รวมไปถึงสินค้าในเซกเมนต์พรีเมียมที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งปัจจัยหลักคือการเพิ่มขึ้นของดีมานด์สินค้าที่ส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตเมื่อต้องใช้เวลาอยู่กับบ้านมากขึ้น
