บริษัท ฮุนได มอเตอร์ จัดพิธีเปิดดำเนินการก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งใหม่ ณ ศูนย์อุตสาหกรรมในเมืองอุลซาน ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์ขนาดใหญ่ของประเทศเกาหลีใต้ โดยโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะแห่งใหม่นี้ จะเป็นรากฐานสำคัญเพื่อการเติบโตในอนาคตของบริษัทในยุคแห่งพลังงานไฟฟ้า และสานต่อปณิธานของประธานผู้ก่อตั้งโรงงานแห่งแรกของฮุนได มอเตอร์ เมื่อกว่าครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา
โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งนี้ถูกออกแบบให้คำนึงถึงผู้คนเป็นหลัก โดยใช้นวัตกรรมแพลตฟอร์มการผลิตแนวใหม่ในการสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมการปฏิบัติงานที่เหมาะสมกับพนักงานมากที่สุด โดยโรงงานเมืองอุลซานถูกกำหนดให้เป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ของฮุนไดในยุคพลังงานไฟฟ้า ซึ่งจะกลายกลายเป็นฐานการผลิตยานยนต์หลักแห่งอนาคต
จอง อึยซอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า “โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งใหม่ในเมืองอุลซาน คือจุดเริ่มต้นของอนาคตอันสดใสในอีก 50 ปีข้างหน้าและเป็นก้าวแรกของยุคแห่งพลังงานไฟฟ้า ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้ร่วมแบ่งปันความฝันของเราในการเป็นบริษัทที่มีอายุยาวนานถึง 100 ปี ณ ที่แห่งนี้”
จาง ยองจิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงาน กล่าวแสดงความยินดีว่า “ผมเชื่อว่าบริษัทฮุนได มอเตอร์ จะกลายเป็นผู้เล่นที่มีความโดดเด่นในวงการยานยนต์ไฟฟ้าจากการลงทุนครั้งมหาศาลนี้ โดยรัฐบาลจะเน้นย้ำสนับสนุนการปรับปรุงเงื่อนไขการลงทุนธุรกิจ รวมถึงสร้างมาตรการจูงใจทางภาษีที่ชัดเจน และขจัดกฎระเบียบที่ขัดขวางการเติบโตทางเศรษฐกิจต่อไป”
หวังสร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วโลก
โรงงานรถยนต์ไฟฟ้าในอุลซานพัฒนาขึ้นบนวิสัยทัศน์ของ จอง จูยอง ประธานผู้ก่อตั้งฮุนได มอเตอร์ (ค.ศ. 1915-2001) ซึ่งเชื่อว่าอุตสาหกรรมรถยนต์จะกลายเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจเกาหลีและการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ และเมื่อครึ่งศตวรรษก่อน เขาได้เลือกเมืองอุลซานในการสร้างวิสัยทัศน์ให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้น และตระหนักถึงความฝันด้านธุรกิจยานยนต์ของเกาหลี ในปัจจุบัน โรงงานรถยนต์ไฟฟ้าแห่งนี้พร้อมต่อยอดความสำเร็จจากรากฐานดังกล่าว เพื่อสร้างแรงกระเพื่อมไปสู่วงการรถยนต์ทั่วโลก
โรงงานฮุนได มอเตอร์ในเมืองอุลซานเริ่มต้นจากการเป็นโรงงานประกอบรถยนต์ในปี 1968 และเติบโตแบบก้าวกระโดดในระยะเวลาอันสั้นอย่างน่าประทับใจ โดยรถยนต์รุ่นแรกที่บริษัทผลิตในจำนวนมากคือรุ่น Pony ในปี 1975 ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นและแรงผลักดันอันเหลือเชื่อของพนักงานบริษัทในการพัฒนารถยนต์ขึ้นเองโดยอิสระเป็นคันแรกของเกาหลีใต้ให้เกิดขึ้นจริง พวกเขาสามารถบรรลุเป้าหมายได้แม้สภาพการณ์ภายในประเทศกำลังดุเดือดและเกิดความกังขาขึ้นมากมาย หากด้วยแรงหนุนจากความฝันอันยิ่งใหญ่ ทำให้สามารถเปิดตัวรถยนต์เกาหลีสู่ตลาดโลกได้ในที่สุด
การผลิตรถยนต์รุ่น Pony ยังเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอิสรภาพทางเทคโนโลยี นำไปสู่การผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศ ซึ่งในอดีตต้องพึ่งพาตลาดต่างประเทศมาโดยตลอด ทั้งยังก่อให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตรถยนต์ในประเทศตามมาอีกมากมาย
นอกจากนี้ จอง มงกู ประธานกิตติมศักดิ์ ยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการคุณภาพ ซึ่งเป็นที่มาของการเปลี่ยนแปลงบริษัทฮุนได มอเตอร์ ไปสู่แบรนด์ระดับโลก ซึ่งสร้างชื่อเสียงในตลาดยานยนต์โลก นอกเหนือจากเฉพาะในเกาหลีใต้
ตลอดเวลากว่าครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา โรงงานฮุนไดในอุลซานถือเป็นโรงงานการผลิตเชิงเดี่ยวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก นับเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์แบบครบวงจรของบริษัทและเป็นแหล่งกำเนิดของอุตสาหกรรมยานยนต์ในภาพรวมของเกาหลี
กำหนดผู้คนเป็นศูนย์กลาง บนพื้นฐานปรัชญามนุษยนิยมในยุคแห่งพลังงานไฟฟ้า
โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งนี้จะเป็นโรงงานใหม่แห่งแรกของฮุนได มอเตอร์ ในเกาหลีในรอบ 29 ปี หลังจากการเปิดโรงงานที่เมืองอาซานในปี 1996 โดยฮุนไดพร้อมก้าวเป็นผู้นำในยุคแห่งพลังงานไฟฟ้า เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สูงเกินความคาดหวังของลูกค้า และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับฐานอุตสาหกรรมในประเทศ
“ในช่วงครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา โรงงานเมืองอุลซานของฮุนไดพัฒนาไปอย่างมาก เนื่องจากทีมช่างสายการผลิตได้เรียนรู้ สร้างสรรค์ และท้าทายสิ่งใหม่ ๆ มาอย่างต่อเนื่อง” จาง แจฮุน ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮุนได มอเตอร์ กล่าว “ฮุนไดจะมุ่งสู่การเป็นผู้บุกเบิกรายแรกในยุคแห่งพลังงานไฟฟ้า บนพื้นฐานของความภาคภูมิใจและความรับผิดชอบในการสร้างสรรค์นวัตกรรมการเดินทางสำหรับผู้คน”
ประจุพลังสู่การเดินทางแห่งยุคอนาคต
โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเมืองอุลซาน จะเป็นส่วนหนึ่งของไซต์งานขนาด 548,000 ตร.ม. มีกำลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 200,000 คันต่อปี ด้วยงบการลงทุนราว 2 ล้านล้านวอน (1.53 พันล้านดอลลาร์) โดยจะเริ่มการก่อสร้างเต็มรูปแบบในไตรมาส 4 ของปีนี้ กำหนดแล้วเสร็จในปี 2025 และเริ่มการผลิตในไตรมาสแรกของปี 2026 โดยกำหนดจะผลิตรถเอสยูวีไฟฟ้า Genesis ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับหรูของฮุนได มอเตอร์ กรุ๊ป เป็นรุ่นแรก
โรงงานตั้งอยู่บนพื้นที่การทดลองเดิมของฮุนได มอเตอร์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่บริษัทมองเห็นอนาคตและกำหนดทิศทางการสร้างสรรค์นวัตกรรมต่าง ๆ พื้นที่การทดลองถูกใช้งานครั้งแรกในช่วงทศวรรษ 1980 เมื่อบริษัทพยายามขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง ผ่านการพัฒนายานพาหนะที่สามารถทนทานต่อลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลายและสภาพอากาศที่รุนแรงได้ทั่วโลก
ฮุนได มอเตอร์พัฒนารถยนต์ประสิทธิภาพสูงระดับโลกมากมายในสถานที่แห่งประวัติศาสตร์นี้ เช่น Sonata, Accent และ Elantra (ใช้ชื่อแบรนด์ Avante ในเกาหลีใต้) และในที่นี้เองที่การวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและการขับขี่อัตโนมัติได้ถือกำเนิดขึ้น บนความฝันของการสร้างสรรค์ยานพาหนะคุณภาพระดับโลก
ปี 1991 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Sonata (Y2) ซึ่งเป็นต้นแบบรถไฟฟ้ารุ่นแรกของฮุนได มอเตอร์ ได้ถูกพัฒนาขึ้น และในปีต่อมา รถยนต์ไร้คนขับคันแรกก็ประสบความสำเร็จในการทดสอบครั้งแรกบนสนามทดสอบ Belgian Road
ศูนย์ทดสอบทางวิศวกรรมแบบครบวงจร ซึ่งเป็นสถานที่ถือกำเนิดของรถยนต์ฮุนได มอเตอร์ หลายรุ่น และยังเป็นแหล่งบ่มเพาะการวิจัยยานยนต์ จนนำไปสู่ความสำเร็จของรถยนต์ไฟฟ้าในเวลาต่อมา ไม่ว่าจะเป็น IONIQ 5 และ IONIQ 6 ซึ่งได้รับการยกย่องด้านความเป็นเลิศทางเทคโนโลยีไปทั่วโลก
นวัตกรรมแพลตฟอร์มการผลิตรูปแบบใหม่ และไซต์งานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ฮุนได มอเตอร์วางแผนใช้นวัตกรรมแพลตฟอร์มการผลิตแบบใหม่ ซึ่งพัฒนาโดยศูนย์นวัตกรรมกลุ่มฮุนได มอเตอร์ ในสิงคโปร์ (HMGICS) ที่โรงงานเมืองอุลซานแห่งนี้ เพื่อรองรับการทำงานแห่งอนาคตและยกระดับความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และประสิทธิภาพของพนักงาน
นวัตกรรมแพลตฟอร์มการผลิตของ HMGICS ประกอบด้วยระบบควบคุมอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์แปรผันตามความต้องการของงาน ซึ่งเป็นแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและคาร์บอนต่ำเพื่อให้โรงงานมีความเป็นกลางทางคาร์บอนและการรับรองมาตรฐาน RE100 (การใช้พลังงานหมุนเวียน 100%) รวมถึงการติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นมิตรต่อมนุษย์ เพื่อส่งเสริมการทำงานที่มีความปลอดภัยและเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ
ฮุนได มอเตอร์ จะใช้แนวทางนี้เพื่อสร้างระบบโลจิสติกส์อัจฉริยะ รวมถึงการลำเลียงชิ้นส่วนอัตโนมัติที่โรงงาน โดยจะใช้ระบบการผลิตที่ยืดหยุ่นที่เอื้อต่อการผลิตรถยนต์ได้หลากหลายรุ่น ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดโลก และทำให้โรงงานประกอบชิ้นส่วนเป็นระบบอัตโนมัติ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและคุณภาพการผลิตในภาพรวม
บริษัทยังวางแผนสร้างสถานที่ปฏิบัติงานที่ปลอดภัย รัดกุม และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผ่านการใช้เทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรม เช่น หุ่นยนต์ ระบบโลจิสติกส์อัจฉริยะ และปัญญาประดิษฐ์ เพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงาน การออกแบบพื้นที่ที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติเพื่อลบภาพจำของโรงงานที่ปิดทึบแบบเดิมๆ ซึ่งจะช่วยสร้างความตระหนักรู้ถึงปรัชญาการผลิตรถยนต์รุ่นต่อไป ในฐานะแหล่งผลิตยานยนต์แห่งอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยสมบูรณ์
โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งนี้จะมีการออกแบบที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ เพื่อลดความเหนื่อยล้าของพนักงาน และส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน เพื่อให้ทุกคนหลุดพ้นจากสภาพโรงงานเครื่องจักรกลหนักอันน่าเบื่อหน่ายเช่นในอดีต โดยจะมีการดึงแสงธรรมชาติเข้าสู่โรงงานให้มากที่สุด เพื่อให้คนงานได้สัมผัสถึงความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ ส่วนเลาจ์ของกลุ่มคนทำงานซึ่งจะถูกใช้เป็นทั้งพื้นที่พักผ่อนและสำนักงาน จะถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่เปิด เพื่อให้ผู้คนสามารถรวมตัวกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ
สวนสาธารณะ (Central Park) ของโรงงานซึ่งนำธรรมชาติของอุลซานมาไว้ภายในนั้น ถูกคาดหมายให้เป็นพื้นที่เพื่อการพักผ่อนและศูนย์กลางเชื่อมต่อแต่ละอาคารอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ แผงพลังงานแสงอาทิตย์และแผงคอนกรีตอัปไซเคิลจะถูกนำไปติดตั้งบนส่วนตกแต่งด้านหน้าของอาคาร เพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นโรงงานบนแนวคิดยั่งยืนที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนอย่างชัดเจน
ข่าวอื่น ๆ ที่ไม่
ตัว RÊVER Group กลุ่มธุรกิจใหม่ สร้างระบบนิเวศอีวีในไทย
กรุงศรี ออโต้ ชู ‘Go Green – AI – MaaS – Ecosystem’ กำหนดทิศทางตลาดสินเชื่อยานยนต์ปี 67
