TH | EN
TH | EN
หน้าแรกThe MovementNew Product/Serviceแอร์บัส ส่งเครื่องบิน A350F ลดการใช้เชื้อเพลิง และการปล่อยก๊าซคาร์บอน รับขนส่งสินค้าทางอากาศโต

แอร์บัส ส่งเครื่องบิน A350F ลดการใช้เชื้อเพลิง และการปล่อยก๊าซคาร์บอน รับขนส่งสินค้าทางอากาศโต

แอร์บัส โชว์เครื่องบิน A350F ที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงและการปล่อยก๊าซคาร์บอน รับความต้องการการขนส่งสินค้าทางอากาศในเอเชียแปซิฟิกที่เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

แอร์บัสคาดการณ์ว่า ในอีก 20 ปีข้างหน้า ตลาดเอเชียแปซิฟิกจะมีความต้องการเครื่องบินขนส่งสินค้าลำตัวกว้างประมาณ 400 ลำ รวมถึงเครื่องบินที่ผลิตขึ้นใหม่ และที่เข้าโครงการปรับปรุงเครื่องบิน ซึ่งจำนวนนี้คิดเป็นมากกว่า 25% ของความต้องการทั่วโลก ที่มีต่อเครื่องบินขนส่งสินค้าลำตัวกว้างรวมจำนวน 1,490 ลำ ในกลุ่มเครื่องบินที่มีน้ำหนักมากกว่า 40 ตัน

ครอว์ฟอร์ด แฮมิลตัน หัวหน้าฝ่ายการตลาดการขนส่งสินค้าของแอร์บัส กล่าวที่งานสิงคโปร์แอร์โชว์ ว่า บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการตลาดการขนส่งสินค้าทางอากาศด้วยเครื่องบิน A350F ที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด

“ในฐานะที่เป็นเครื่องบินขนส่งสินค้ารุ่นออกแบบใหม่ทั้งหมด เพียงลำเดียวของโลก เครื่องบิน A350F เป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดด้านประสิทธิภาพ ในตลาดการขนส่งสินค้าที่มีการแข่งขันสูง” เขากล่าวเสริมอีกด้วยว่า “A350F จะช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงและการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้มากถึง 40% เมื่อเทียบกับเครื่องบิน 747F รุ่นก่อนหน้า และ A350F เป็นเครื่องบินขนส่งสินค้าลำแรกในตลาด ที่ปฏิบัติตามมาตรฐานการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่เพิ่มขึ้นขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในปี 2570”

เครื่องบิน A350F สามารถบินได้ไกลถึง 4,700 ไมล์ทะเล (หรือ 8,700 กิโลเมตร) ในขณะที่ยังคงรักษาต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำกว่าเครื่องบินขนส่งสินค้าอื่นๆ ที่มีอยู่ในตลาดปัจจุบันอย่างมาก ทำให้สามารถรองรับการให้บริการแก่ตลาดการขนส่งสินค้าหลัก ๆ ทั้งหมดได้ รวมถึงเส้นทางการขนส่งสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกระหว่างฮ่องกง และแองเคอเรจ

เครื่องบิน A350F สามารถรองรับน้ำหนักบรรทุกได้มากถึง 111 ตัน และมีประตูสำหรับห้องบรรทุกสินค้าหลักที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมการบิน ด้วยประตูห้องบรรทุกสินค้าหลักที่กว้างขึ้นถึง 15% เมื่อเทียบกับเครื่องบินของคู่แข่ง ทำให้เครื่องบิน A350F สามารถขนส่งเครื่องยนต์ขนาดใหญ่แบบใหม่ทั้งหมดได้ โครงเครื่องบินทำจากวัสดุขั้นสูงมากกว่า 70% ซึ่งส่งผลให้น้ำหนักขณะบินขึ้นเบากว่าเครื่องบินที่พัฒนาโดยคู่แข่งถึง 46 ตัน

ครอว์ฟอร์ด กล่าวว่า “เนื่องจากเอเชียแปซิฟิกจะกลายเป็นภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุด สำหรับการค้าระหว่างประเทศ ในอีก 20 ปีข้างหน้า เครื่องบิน A350F ซึ่งได้เพิ่มระดับการปรับปรุงด้านประสิทธิภาพ และความสามารถในการบรรทุกที่สอดคล้องกับตลาด รวมถึงพิสัยการบิน ทำให้ได้รับการปรับแต่งมาอย่างสมบูรณ์แบบต่อการพัฒนาการปฏิบัติงานของสายการบินต่าง ๆ ด้วยการตอบโจทย์ความต้องการด้านการบรรทุกสินค้าที่หลากหลาย ในขณะที่เป็นผู้นำสู่อนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้นในการขนส่งสินค้าทางอากาศ”

A350F มีกำหนดเข้าประจำการในปี 2569 โดยการประกอบชิ้นส่วนลำตัวเครื่องบิน A350F ลำแรกจะเริ่มดำเนินการในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

ข้อมูล ณ สิ้นเดือน มกราคม 2567 เครื่องบินตระกูล A350 รุ่นล่าสุด ได้รับคำสั่งซื้อมากกว่า 1,200 รายการจากลูกค้า 57 รายทั่วโลก ซึ่งรวมถึงคำสั่งซื้อ 50 รายการสำหรับเครื่องบินรุ่น A350F จากสายการบินขนส่งสินค้าชั้นนำ 9 ราย สำหรับในประเภทเครื่องบินขนาดกลาง ตระกูล A330neo ยังคงได้รับความต้องการอย่างต่อเนื่อง โดยมีคำสั่งซื้อเกือบร่วม 300 รายการจากลูกค้า 28 ราย

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

DDproperty ชี้ ราคาบ้านพุ่ง สวนทางดีมานด์ ซื้อ-เช่า ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ

Hepmil แต่งตั้ง ‘ฐิศิรักน์ พิตยกูลศาล’ เป็น ผู้จัดการทั่วไปคนใหม่ ลุยการตลาดดิจิทัลไทย

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ