วงการครีเอเตอร์ไทย กำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตการณ์ครั้งสำคัญที่ประกอบด้วย 4 ความท้าทายใหญ่ คือ สภาวะเศรษฐกิจที่บีบคั้น การเข้ามาของ AI ที่เปลี่ยนภูมิทัศน์การแข่งขัน เทรนด์ที่ผันผวนรวดเร็ว และวิกฤติสุขภาพใจที่ลุกลาม
ขจร เจียรนัยพานิชย์ บรรณาธิการบริหาร RAiNMaker และผู้จัดงาน iCreator Conference และ ธเนศ จารุธรรมาวงศ์ ผู้จัดการแผนกการตลาดผลิตภัณฑ์กล้องดิจิทัลอิมเมจิ้ง จาก โซนี่ ไทย ในฐานะผู้สนับสนุนหลัก ร่วมกันปลอกเปลือยภาพความจริงของวงการ พร้อมชี้ทางรอดและอนาคตของวงการ ซึ่งชี้ชัดว่าครีเอเตอร์ต้องปรับตัวครั้งใหญ่โดยมุ่งเน้นที่การสร้างคอนเทนต์คุณภาพสูง, เรียนรู้ที่จะใช้ AI เป็นเครื่องมือสำคัญ, และรวมพลังสร้าง “คอมมูนิตี้” ที่แข็งแกร่งเพื่อความยั่งยืนในระยะยาว
เผชิญหน้าความจริง: 4 Pain Points ใหญ่ที่กำลังกัดกินวงการ
ขจรกล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่วงการครีเอเตอร์ต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน ซึ่งเป็นที่มาของธีมงานที่ต้องการเป็นแสงสว่างให้กับทุกคน โดยมี 4 ประเด็นหลักที่น่ากังวลที่สุดในรอบหลายปี 1) สภาพเศรษฐกิจและรายได้ที่ลดลง นี่คือปัญหาใหญ่ที่สุดที่ครีเอเตอร์แทบทุกคนสัมผัสได้โดยตรง สภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ไม่สู้ดีนัก ส่งผลให้แบรนด์และผู้สนับสนุนงบประมาณต้องรัดเข็มขัด ทำให้รายได้ของครีเอเตอร์จำนวนมากลดลงอย่างน่าใจหาย. แม้จะมีบางกลุ่มที่รายได้เติบโตสวนกระแส แต่ภาพรวมส่วนใหญ่กำลังประสบปัญหานี้อย่างหนัก
2) การมาถึงของ AI ที่เปลี่ยนภูมิทัศน์ จากปีที่แล้วที่คอนเทนต์จาก AI ยังถูกตั้งคำถามและไม่เป็นที่ยอมรับ ปีนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง คอนเทนต์ที่สร้างจาก AI ได้รับการยอมรับมากขึ้น จนมีตัวอย่างของช่อง YouTube ที่สร้างจาก AI 100% อย่าง “My Best Cat” สามารถติดอันดับ Top 100 ของโลกได้สำเร็จ สิ่งนี้สะท้อนว่า AI ไม่ใช่แค่กระแสชั่วคราว แต่เป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาเปลี่ยนวิธีการทำงานและการแข่งขันในวงการอย่างถาวร
3. เทรนด์ที่ปรับเปลี่ยนเร็วเกินไป การเปลี่ยนแปลงที่ก้าวกระโดดของเทคโนโลยี ทั้งเรื่อง AI, Metaverse และแพลตฟอร์มต่าง ๆ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ ความเร็วนี้สร้างแรงกดดันมหาศาล ทำให้ครีเอเตอร์จำนวนมากตามไม่ทันและรู้สึกว่าต้องวิ่งไล่ตามเทรนด์ใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลาเพื่อความอยู่รอด
4. วิกฤติสุขภาพใจและภาวะหมดไฟ นับเป็นครั้งแรกที่ประเด็นเรื่องสุขภาพใจถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นปัญหาที่น่าเป็นห่วงที่สุด คุณขจรระบุว่าไม่เคยเห็นครีเอเตอร์ในวงการมีสุขภาพใจที่ย่ำแย่เท่าปีนี้มาก่อน หลายช่องต้องเผชิญกับภาวะหมดไฟ (Burnout) รู้สึกว่าตัวเองกำลังดาวน์ลง และเหนื่อยล้าจากแรงกดดันรอบด้าน นี่คือปัญหาที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความสำเร็จและยอดวิวที่หลายคนมองไม่เห็น
สมรภูมิใหม่ของคลิปสั้น: เมื่อ “Quality” คือผู้ชนะ
ในยุคที่การทำคลิปสั้นกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของวงการ สนามแข่งขันได้เปลี่ยนจากการเน้นแค่ความ “เรียล” หรือการใช้มือถือถ่ายแบบง่าย ๆ ไปสู่สมรภูมิของคุณภาพ (Quality) อย่างเต็มตัว
ขจรได้ให้ข้อสังเกตที่น่าสนใจจากการพูดคุยกับ TikTok Expert ว่า แม้เราจะเคยเชื่อว่าคลิปสั้นต้องดูดิบ ๆ เพื่อให้เข้าถึงง่าย แต่เทรนด์ปัจจุบันได้เปลี่ยนไปแล้ว หากลองสังเกตในแพลตฟอร์มอย่าง IG Reels หรือ YouTube Shorts ในปัจจุบันจะพบว่าคลิปที่โดดเด่นมักเป็นงานที่มีโปรดักชันสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ครีเอเตอร์หลายคนเริ่มใช้กล้องตัวใหญ่ที่ให้คุณภาพไฟล์ดีกว่า มีการใช้อุปกรณ์เสริมอย่างไมค์ลอยเพื่อให้เสียงคมชัดและมีการตัดต่อที่เฉียบคม มีมุมมองการเล่าเรื่องที่น่าสนใจไม่ต่างจากการทำคลิปยาว กระบวนการผลิตแทบไม่ต่างจากการทำโปรดักชันใหญ่ เพียงแค่ย่อส่วนลงมาอยู่ในฟอร์แมตคลิปสั้นเท่านั้น
ขจรย้ำว่า “พอการทำคลิปสั้นกลายเป็นมาตรฐาน ทุกคนก็จะเริ่มแข่งกันที่คุณภาพ” ซึ่งทางโซนี่ ในฐานะแบรนด์เทคโนโลยีชั้นนำ ก็มองเห็นเทรนด์นี้ชัดเจน และได้พัฒนาเครื่องมือที่ตอบโจทย์ครีเอเตอร์ยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นกล้องที่มี AI ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานและให้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพสูงขึ้น เพื่อสนับสนุนให้ครีเอเตอร์สามารถสร้างสรรค์ผลงานที่โดดเด่นและแตกต่างในสนามแข่งขันที่ดุเดือดนี้ได้
AI ไม่ใช่ศัตรู: เรียนรู้ที่จะใช้เพื่อปลดล็อกศักยภาพ
สำหรับบทบาทของ AI ที่หลายคนยังคงกังวล ขจรให้มุมมองที่น่าสนใจว่า สิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจคือ “AI ไม่มีหัวใจเหมือนพวกเรา” แก่นแท้ที่ AI ไม่สามารถทดแทนได้คือ อินเนอร์ (Inner) ความรู้สึก และการสื่อสารผ่านสายตาอย่างจริงใจ ซึ่งเป็นหัวใจของการเชื่อมต่อระหว่างมนุษย์ด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม ในอีกมุมหนึ่ง AI คือเครื่องมือสำคัญที่จะเข้ามาปลดล็อกศักยภาพการทำงานของครีเอเตอร์อย่างมหาศาล
ขจรยกตัวอย่าง วงการครีเอเตอร์ในจีนที่ล้ำหน้าไปกว่าไทยประมาณ 2 ปี ว่าปัจจุบัน AI ได้แทรกซึมเข้าไปเป็นผู้ช่วยในทุกขั้นตอนการผลิตคอนเทนต์ ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ว่าจะเป็นขั้น Pre-production AI สามารถช่วยเรียบเรียงข้อมูลและสคริปต์ให้มีความสละสลวยและน่าสนใจมากขึ้นขั้นProduction AI ช่วยค้นหาซอร์สของภาพหรือวิดีโอประกอบที่ไม่ติดลิขสิทธิ์ ทำให้ครีเอเตอร์ทำงานได้ง่ายและปลอดภัย และขั้น
Post-production นี่คือส่วนที่น่าทึ่งที่สุดเมื่อครีเอเตอร์สามารถนำคลิปยาว 1 ตัว โยนเข้า AI เพื่อให้ซอยย่อยออกมาเป็นคลิปสั้นคุณภาพดีได้ถึง 11 คลิป
“ยิ่งไปกว่านั้น AI สมัยใหม่ยังสามารถเรียนรู้สไตล์การตัดต่อที่เป็นเอกลักษณ์ของเราได้อีกด้วย หากเราสอนมันว่าชอบตัดต่อแบบไหน ใส่ไฮไลท์อย่างไร AI ก็จะช่วยวิเคราะห์และตัดต่อคลิปใหม่ออกมาในสไตล์เดียวกัน ทำให้เราเหลือเพียงหน้าที่ตรวจสอบและปรับแก้เล็กน้อยเท่านั้น”
ขจรได้ทิ้งท้ายด้วยคำเตือนที่ชัดเจนว่า “ภายใน 3 ปีข้างหน้า หากใครไม่เข้าใจเรื่องการนำ AI มาช่วยทำคอนเทนต์ก็จะตามคนอื่นไม่ทัน” ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่าการเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกับ AI ไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นทักษะจำเป็นเพื่อความอยู่รอดและเติบโตในวงการ
สร้างตัวตนให้โดดเด่น: กุญแจสู่การร่วมงานกับแบรนด์ใหญ่

ในยุคที่ครีเอเตอร์มีอยู่ล้นตลาด คำถามสำคัญคือ “ทำอย่างไรให้แบรนด์เลือกเรา” เรื่องนี้ต้องมองจากสองมุม ทั้งฝั่งแบรนด์ที่กำลังมองหา และฝั่งครีเอเตอร์ที่ต้องสร้างตัวตน
ในมุมของแบรนด์ ธเนศกล่าวว่า สิ่งที่มองหาคือ ความสดใหม่ ความคิดสร้างสรรค์ และที่สำคัญที่สุดคือ ความเข้าใจในสิ่งที่ต้องการจะสื่อสาร แบรนด์เชื่อว่าครีเอเตอร์ที่เข้าใจในตัวผลิตภัณฑ์หรือหัวข้อที่ทำอย่างลึกซึ้งจะสามารถถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติและจริงใจต่อผู้ติดตาม ซึ่งจะสร้างความน่าเชื่อถือและผลลัพธ์ที่ดีกว่า
ขจรกล่าวว่า การพยายามเป็นเหมือนคนที่ประสบความสำเร็จอาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดในระยะยาว ไม่มีใครอยากเห็นคุณเป็น ‘พี่เคน นครินทร์’ เบอร์สอง หรือ ‘พี่บี้ เดอะสกา’ เบอร์สอง” แบรนด์และผู้ชมต่างมองหาคนที่เป็นตัวของตัวเอง
ดังนั้น กุญแจสำคัญคือการหาซิกเนเจอร์ (Signature) หรือเอกลักษณ์ของตัวเองให้เจอ ซึ่งซิกเนเจอร์นี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่หน้าตาหรือรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสไตล์การนำเสนอ วิธีการเล่าเรื่อง หรือมุมมองที่ไม่เหมือนใคร การมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนนี้เองคือสิ่งที่ทำให้แบรนด์และผู้ชมจดจำ และเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ครีเอเตอร์หน้าใหม่สามารถเติบโตและได้รับโอกาสในการร่วมงานกับแบรนด์ใหญ่ ๆ ได้ แม้ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง
อนาคตของวงการ: พลังของ “คอมมูนิตี้” ที่ต้องสร้าง
อนาคตของวงการครีเอเตอร์ไทยจะแข็งแกร่งและยั่งยืนได้ ต้องเกิดจากการรวมตัวกัน ขจรกล่าวว่า อาชีพครีเอเตอร์เป็นอาชีพที่แปลกมากเมื่อเทียบกับสื่อแขนงอื่น ในขณะที่นักข่าวมีสมาคมนักข่าวฯ สื่อวิทยุมีสมาคมสื่อวิทยุฯ แต่ครีเอเตอร์ซึ่งเป็นสื่อยุคใหม่กลับยังไม่มีการรวมกลุ่มกันอย่างเป็นทางการ การขาดพลังของคอมมูนิตี้ที่เข้มแข็งนี้ ทำให้ขาดอำนาจในการต่อรองและผลักดันวงการในภาพรวม
“เม็ดเงินโฆษณาประมาณ 27,000 ล้านบาท ได้หายไปไหน?” ในอดีตเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เม็ดเงินก้อนนี้เคยอยู่ในมือของสื่อดั้งเดิมที่ใหญ่ที่สุดของไทย แต่ปัจจุบันได้ไหลออกไปสู่แพลตฟอร์มต่างชาติอย่าง YouTube, TikTok และ Facebook ผ่านการซื้อโฆษณาโดยตรง คำถามสำคัญคือ “ทำไมเราไม่นำเม็ดเงินเหล่านั้นกลับมาสู่ครีเอเตอร์ไทย เพื่อให้วงการของเราเติบโตมากขึ้น”
เป้าหมายของการสร้างคอมมูนิตี้ที่แข็งแรงจึงไม่ใช่แค่การพบปะสังสรรค์ แต่คือการสร้างพลังร่วมกันเพื่อผลักดันให้อุตสาหกรรมเติบโต และดึงเม็ดเงินกลับมาหล่อเลี้ยงอีโคซิสเต็มของครีเอเตอร์ไทย
ในมุมของแบรนด์ ธเนศกล่าวว่า ทางโซนี่เองให้ความสำคัญและพยายามผลักดันให้เกิดคอมมูนิตี้มาโดยตลอดผ่านการจัดกิจกรรมและให้การสนับสนุนครีเอเตอร์หลากหลายกลุ่ม ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงมืออาชีพ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับวงการ
ดังนั้น งาน iCreator Conference จึงเป็นมากกว่าแค่งานสัมมนา แต่คือจุดเริ่มต้นสำคัญของการสร้างพื้นที่ให้ครีเอเตอร์ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนความรู้ และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
โดยภายในงานปีนี้จะมีไฮไลต์อย่าง iCreator Clinic ที่เปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานได้ปรึกษาปัญหากับสปีกเกอร์ชั้นนำแบบตัวต่อตัว และโซนกิจกรรมจากแบรนด์ต่าง ๆ รวมถึงบูธของโซนี่ที่มีทั้ง Product Hands-on และโซนให้คำปรึกษาโดยเฉพาะ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างคอมมูนิตี้ให้เกิดขึ้นจริง
งาน iCreator Conference 2025 Presented by Sony จะจัดขึ้นในวันพุธที่ 26 พฤศจิกายน 2568 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (BHIRAJ HALL 1-3 & AMBER HALL 1-3) รวมถึงภายในงานยังมีบูธกิจกรรมให้ได้ร่วมสนุกโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกิจกรรม Sony Creator Clinic ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานได้พบปะพูดคุยกับครีเอเตอร์คนโปรดแบบเอ็กซ์คลูซีฟ พร้อมทั้งยังมีกิจกรรม Workshop ให้ค้นหาแรงบันดาลใจพร้อมเก็บเกี่ยวความรู้กลับบ้านกว่า 9+ Workshops อีกด้วย
ผู้ที่สนใจสามารถซื้อบัตรเข้าร่วมงานได้ที่:https://www.eventpop.me/e/103906-icreator-conference-2025?aff=Media-Press-Con
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
iCreator Report 2025: พลิกโฉมภูมิทัศน์ครีเอเตอร์ไทย
MarTech x AI: เมื่อเทคโนโลยีต้องขับเคลื่อนด้วย ‘คน’ เบื้องหลังกลยุทธ์การตลาดแห่งอนาคต