สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) ร่วมกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดตัวโครงการแข่งขันรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงเพื่อธุรกิจแห่งอนาคต ครั้งที่ 2 (2nd EVAT x EGAT Electric Motorcycle Conversion Contest for Business Opportunity)
โครงการแข่งขันรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงเพื่อธุรกิจแห่งอนาคต (2nd EVAT x EGAT Electric Motorcycle Conversion Contest for Business Opportunity) จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ชิงถ้วยรางวัลชนะเลิศจากนายกรัฐมนตรี และเงินรางวัลรวมมูลค่าสูงสุดกว่า 450,000 บาท การเเข่งขันจะมีขึ้นในวันที่ 5 – 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา จังหวัดชลบุรี (รอการอนุมัติอย่างเป็นทางการ)
กฤษฎา อุตตโมทย์ นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย กล่าวว่า “สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยเล็งเห็นถึงโอกาสในการพัฒนาบุคลากรด้านยานยนต์ไฟฟ้าในไทย ที่ปัจจุบันจำนวนผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศเพิ่มสูงขึ้นกว่าเท่าตัว สิ่งที่ต้องพัฒนาต่อยอด คือ การพัฒนาบุคลากรในประเทศให้มีความรู้ความสามารถ เพื่อรองรับอนาคตและเปิดโอกาสให้เกิดการสร้างงานและสร้างอาชีพใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า
สำหรับการจัดการเเข่งขันรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงเพื่อธุรกิจแห่งอนาคตในครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้มีผู้สมัครเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 73 ทีม แบ่งเป็น ประเภททีมสถาบันการศึกษา 58 ทีม และประเภททีมประชาชนทั่วไป 15 ทีม ซึ่งทางสมาคมฯ ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ อาทิเช่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กรมการขนส่งทางบก สถาบันยานยนต์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี สมาคมเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานไทย (TESTA) ศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอีเล็กทรอนิกส์ (PTEC) บริษัท อีทราน (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัท อินโนวาแพค จำกัด และบริษัท โมโตอีวี จำกัด จัดอบรมในหัวข้อต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงกฎกติกา การแข่งขัน สำหรับทีมที่สมัครเข้าร่วมการแข่งขันเมื่อวันที่ 12 – 13 มกราคมที่ผ่านมานี้”
ด้านสมศักย์ ปรางทอง ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารด้านการใช้ไฟฟ้าและกิจการเพื่อสังคม กฟผ. เผยว่า “สำหรับโครงการแข่งขันรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงเพื่อธุรกิจแห่งอนาคต ครั้งที่ 2 กฟผ. เล็งเห็นว่าเป็นโครงการที่มีประโยชน์ สามารถนำมาขยายผลใช้งานภายใน กฟผ. ได้ รวมถึงเป็นการสร้างความตระหนักรับรู้ให้กับนักเรียน นักศึกษา และเป็นโอกาสในการเเสดงศักยภาพการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงตามหลักวิศวกรรมและความปลอดภัย ที่สามารถต่อยอดเป็นแนวทางในการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต ตลอดจนเป็นการสร้างโมเดลทางธุรกิจด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าให้เกิดขึ้นภายในประเทศ ก่อให้เกิดการพัฒนาระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular economy) และโมเดลธุรกิจ BCG ที่จะช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต”
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
SPRC เข้าซื้อธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมของเชฟรอนในประเทศไทย
วอลโว่ ฉลองยอดขายในไทยโต 71% เผยแผนจำหน่ายเฉพาะรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบในปี 2025