Story of Business • Technology • Sustainability
Share on
×

Share

AIS ผนึก อว. – จุฬาฯ เปิดคอร์ส AI Literacy เรียนฟรี – เทียบหน่วยกิตได้ เริ่มก.พ. 69

AIS ผนึก อว. - จุฬาฯ เปิดคอร์ส AI Literacy เรียนฟรี - เทียบหน่วยกิตได้เริ่มก.พ. 69

เมื่อปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน กลายเป็นเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวที่เข้ามาแทรกซึมอยู่ในทุกมิติ ตั้งแต่การอำนวยความสะดวกที่รวดเร็วทันใจ ไปจนถึงกระบวนการทำงานที่ซับซ้อน แม้เทคโนโลยีนี้จะมีข้อดีมหาศาล แต่ความสะดวกสบายดังกล่าวนั้นมาพร้อมกับ “เหรียญสองด้าน” ที่ผู้ใช้งานต้องตระหนัก เพราะภัยคุกคามทางไซเบอร์ในปัจจุบันได้ทวีความซับซ้อนและรุนแรงขึ้น การรู้เท่าทันเทคโนโลยีจึงเป็นทักษะที่ขาดไม่ได้

ด้วยเหตุนี้ เอไอเอส (AIS) จึงจับมือกับพันธมิตรระดับประเทศอย่าง สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดตัวหลักสูตรใหม่ “AI Literacy” ภายใต้โครงการ “อุ่นใจไซเบอร์” เพื่อยกระดับทักษะดิจิทัลของคนไทยให้แข็งแกร่ง พร้อมก้าวสู่โลกอนาคตอย่างมั่นใจ

เดินหน้า “ปีแห่งความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์” สร้างภูมิคุ้มกันดิจิทัลให้คนไทย

สายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านสื่อสารองค์กรและรัฐกิจสัมพันธ์ เอไอเอส ได้ขยายความถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการริเริ่มโครงการนี้ว่า ปัจจุบัน AI เข้ามามีบทบาทลึกซึ้งถึงขั้นการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ทั้งการเรียนและการทำงาน ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ได้เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ทั้งในแง่ของความซับซ้อนของกลลวงและความรวดเร็วในการโจมตี เอไอเอสจึงประกาศขับเคลื่อนนโยบายให้ปีนี้เป็น “ปีแห่งความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์” โดยมีเป้าหมายหลักคือการสร้างภูมิคุ้มกันดิจิทัลให้กับประชาชน

ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากหลักสูตร “อุ่นใจไซเบอร์” ที่เอไอเอสได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2565 ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายหลากหลาย ตั้งแต่นักเรียน นิสิตนักศึกษา ครู บุคลากรทางการศึกษา ไปจนถึงประชาชนทั่วไป โดยปัจจุบันได้รับความสนใจจนมีผู้ลงทะเบียนเรียนไปแล้วกว่า 1 ล้านคน การพัฒนาหลักสูตร AI Literacy เพิ่มเติมบนแพลตฟอร์มดิจิทัลของเอไอเอสในครั้งนี้ จึงมุ่งเน้นไปที่การเสริมทักษะการใช้ AI อย่างมีวิจารณญาณ เตรียมคนไทยให้พร้อมอยู่ร่วมกับเทคโนโลยีได้อย่างมั่นใจ และมีความรับผิดชอบต่อสังคมออนไลน์

จุฬาฯ พลิกโฉมการเรียนรู้ถอดบทเรียนจาก “ชีวิตจริง” สู่เนื้อหาที่จับต้องได้

ในส่วนของการพัฒนาเนื้อหาหลักสูตร ศาสตราจารย์ดร.วิเลิศ ภูริวัชร ประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย และอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้รายละเอียดถึงเบื้องหลังการออกแบบหลักสูตรว่า จุฬาฯ ยึดมั่นในการพัฒนาการเรียนรู้โดยมี “ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง” และต้องเชื่อมโยงกับสถานการณ์จริงบนโลกดิจิทัล คณาจารย์ของจุฬาฯ จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการร่วมออกแบบและผลิตสื่อการสอน โดยใช้วิธีการถอดประสบการณ์จริงที่ผู้เรียนต้องเผชิญในชีวิตออนไลน์ มาแปลงเป็นเนื้อหาที่ย่อยง่าย สามารถทำความเข้าใจและนำไปปรับใช้ได้ทันที

สำหรับหัวข้อ AI Literacy ทางจุฬาฯ ได้วางโครงสร้างการเรียนรู้ให้ครอบคลุมตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงการประยุกต์ใช้ เพื่อให้ผู้เรียนใช้ AI ได้อย่างถูกวิธี โดยเน้นย้ำเรื่องความรับผิดชอบเป็นสำคัญ อาทิ การเรียนรู้วิธีหลีกเลี่ยงการป้อนข้อมูลส่วนตัวที่ละเอียดอ่อนลงในระบบ AI, การตรวจสอบความถูกต้องของผลลัพธ์ที่ได้จาก AI อย่างรอบคอบ ไม่เชื่อถือข้อมูลในทันที ไปจนถึงจริยธรรมในการเคารพสิทธิและผลงานของผู้อื่น เป้าหมายสูงสุดคือการทำให้ AI เป็นเพียงเครื่องมือในการสร้างโอกาสทางการศึกษาและการทำงาน ไม่ใช่ความเสี่ยงที่ย้อนกลับมาทำร้ายผู้ใช้งาน

นโยบายเชิงรุกจากกระทรวง อว. เมื่อห้องเรียนย้ายมาอยู่บนหน้าจอ

ทางด้านภาครัฐ ดร.พันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี ผู้ช่วยปลัดกระทรวง อว. และรักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวง ได้ชี้ให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของกระทรวงที่เล็งเห็นว่า เทคโนโลยีดิจิทัล โดยเฉพาะ AI คือหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม และมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานในทุกภาคส่วน กระทรวง อว. จึงได้วางนโยบายจัดทำแผนผลิตและพัฒนากำลังคนเพื่อรองรับกลุ่มอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ ควบคู่ไปกับการส่งเสริม “การเรียนรู้ตลอดชีวิต” (Lifelong Learning) เพื่อให้คนทุกช่วงวัยเข้าถึงโอกาสในการพัฒนาตนเองได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม

ดร.พันธุ์เพิ่มศักดิ์ กล่าวเสริมอย่างน่าสนใจว่า ในวันที่ “ห้องเรียนย้ายมาอยู่บนหน้าจอ” และโลกออนไลน์หมุนเร็วกว่าห้องเรียนเสมอ ทักษะดิจิทัลจึงต้องถูกนำมาสอนและใช้งานจริงในชั้นเรียน ไม่ใช่เป็นเพียงเนื้อหาเสริมอีกต่อไป ความร่วมมือในการนำบทเรียน AI Literacy เข้าไปใช้ในมหาวิทยาลัยครั้งนี้ จึงเป็นการวางรากฐานสำคัญผ่านการเรียนรู้ 10 โมดูล ที่ครอบคลุมทักษะจำเป็น เช่น การแยกแยะภาพและเสียงที่ AI สร้างขึ้น, การสร้างคอนเทนต์จาก AI อย่างสร้างสรรค์โดยไม่ละเมิดลิขสิทธิ์, การไม่สร้างเนื้อหาที่ก่อให้เกิดปัญหาในสังคม รวมถึงการใช้ AI โดยไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถประยุกต์ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

เรียนฟรีไม่มีพื้นฐานก็เรียนได้ พร้อมระบบ “เครดิตแบงก์” เทียบหน่วยกิต

ความพิเศษของหลักสูตร “อุ่นใจไซเบอร์ : AI Literacy” คือการออกแบบมาให้เป็นมิตรกับผู้เรียนทุกคน โดยไม่เน้นเนื้อหาเชิงเทคนิคที่ซับซ้อนอย่างการเขียนโค้ด (Coding) หรือการเขียนคำสั่งเชิงลึก (Prompt Engineering) แต่จะเน้นไปที่มิติของการใช้งานอย่างมีจริยธรรม รับผิดชอบ และปลอดภัย เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงได้

ที่สำคัญ หลักสูตรนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสามารถสะสมชั่วโมงการเรียนรู้และนำไป “เทียบเป็นหน่วยกิต” ในระบบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยได้จริง ซึ่งถือเป็นการเชื่อมต่อระบบการเรียนรู้นอกห้องเรียนเข้าสู่ระบบการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม โดยหลักสูตรจะเปิดให้เรียนฟรีอย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์ 2569 ผู้สนใจสามารถเข้าเรียนได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านหลากหลายแพลตฟอร์มดิจิทัล ทั้ง LearnDi for Thais (https://aunjaicyber.ais.th), แอปพลิเคชัน อุ่นใจ CYBER, แพลตฟอร์ม Thai MOOC และแพลตฟอร์มออนไลน์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

Centaur Marketing: สูตรลับมนุษย์ ‘ขี่’ AI

AIS SIAM ผนึก PMCU เนรมิตสยามสแควร์สู่ ‘ถนนแห่งความฝัน’ จัดใหญ่เคานต์ดาวน์ปี 2026

×

Share

ผู้เขียน