Story of Business • Technology • Sustainability
Share on
×

Share

‘คนใช้ AI ไม่เป็นจะถูกแทนที่’ แนะธุรกิจใช้เป็น ‘สมองที่สอง’ เพิ่มประสิทธิภาพ

ภัยคุกคามที่แท้จริงไม่ใช่การที่ AI จะมาแทนที่มนุษย์ แต่คือ “คนที่ใช้ AI ไม่เป็น” ต่างหากที่จะถูกแทนที่ พร้อมแนะให้ภาคธุรกิจประยุกต์ใช้ AI ในฐานะ “สมองที่สอง” เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและประสิทธิภาพการดำเนินงานทางการตลาด

ดร.ศรีหทัย พราหมณี ผู้จัดการโครงการเพื่อธุรกิจ SMEs กล่าวในหัวข้อ “AI for Business : Marketing Made Efficient การประยุกต์ใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตลาดและการดำเนินงาน” ในงาน SITE 2025 ว่า AI ไม่ใช่เทคโนโลยีที่จะเข้ามาแทนที่มนุษย์ แต่เป็น “สมองที่สอง” (Exocortex) ที่จะช่วยเสริมศักยภาพการทำงานของสมองมนุษย์ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น พร้อมแนะให้ทุกภาคส่วนปรับกระบวนทัศน์ (Mindset) ให้ความสำคัญกับการพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จาก AI ในการสร้างความสำเร็จทั้งในระดับบุคคลและระดับองค์กร

ท่ามกลางยุคที่ข้อมูลบนโลกอินเทอร์เน็ตมีปริมาณมหาศาล และความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว องค์กรต่าง ๆ ประสบปัญหาขาดผู้เชี่ยวชาญ (Area Expert) ที่จะกลั่นกรองข้อมูลเพื่อตอบสนองลูกค้าได้อย่างทันท่วงที AI จึงเข้ามาเป็นโซลูชันสำคัญเมื่อทำงานร่วมกับระบบอัตโนมัติ (Automation) เพื่อสร้างความคล่องตัวทางธุรกิจ (Business Agility)

AI เทคโนโลยีที่ไม่ใหม่ แต่ต้องเข้าใจให้ทัน

ดร.ศรีหทัย กล่าวว่า AI ไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยผลงานวิจัยของเธอเองที่เกี่ยวข้องกับ AI ได้รับการตีพิมพ์ในต่างประเทศมาแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003-2007 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า AI ถูกพัฒนามาอย่างยาวนาน คำถามสำคัญในวันนี้จึงไม่ใช่ว่า AI คืออะไร แต่คือเราจะวิ่งตามและนำเทคโนโลยีนี้มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร

ในศาสตร์ที่เรียกว่า Human-Computer Interaction (HCI) ซึ่งว่าด้วยการปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และคอมพิวเตอร์ ดร.ศรีหทัย อธิบายว่า การสื่อสารระหว่างคนและ AI คือการทำงานร่วมกันของสมองสองส่วน คือ สมองมนุษย์ (Endocortex) และสมองคอมพิวเตอร์ (AI หรือ Exocortex) ซึ่งมีความสามารถร่วมกัน 3 ประการ ได้แก่ การขยายหน่วยความจำ (Expandable Memory) สามารถเรียนรู้และบันทึกข้อมูลใหม่ได้ การใช้พลังงาน (Energy Requirement) มนุษย์ต้องการอาหาร คอมพิวเตอร์ต้องการพลังงานไฟฟ้า และการประมวลผลข้อมูล (Data Processing) สามารถรับและแปลงข้อมูลเพื่อนำไปใช้งานต่อได้

อย่างไรก็ตาม สมองมนุษย์ยังมีความซับซ้อนสูงกว่า โดยมีการทำงาน 3 ระดับชั้น คือ 1) สมองส่วนสัญชาตญาณ (Instinct) เพื่อการเอาตัวรอด 2) สมองส่วนจิตใต้สำนึก (Subconscious) และ 3) สมองส่วนตรรกะและเหตุผล (Logic) ซึ่งในทางจิตวิทยา การตัดสินใจของมนุษย์มักเกิดจากสองชั้นล่าง (Unconscious Bias) ก่อนที่จะใช้เหตุผลมาสนับสนุนในภายหลัง (Confirmation Bias)

ในขณะที่ AI ในปัจจุบันยังคงทำงานได้ดีที่สุดในระดับตรรกะและเหตุผล แต่ยังไม่สามารถก้าวไปถึงระดับจิตใต้สำนึกหรือสัญชาตญาณได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งตอกย้ำว่าศักยภาพของมนุษย์ยังคงมีความพิเศษและจำเป็นอย่างยิ่ง

Mindset First และหลักการ 3H สู่การใช้งาน AI อย่างมีประสิทธิภาพ

ดร.ศรีหทัย เน้นย้ำว่า ก่อนจะมุ่งไปที่เครื่องมือใด ๆ สิ่งแรกที่ต้องให้ความสำคัญคือ “Mindset First” ซึ่งหมายถึงการปรับกระบวนทัศน์และความคิดให้ถูกต้องก่อน โดยต้องตอบคำถามว่า “ทำไมเราจึงต้องใช้” (How come) ให้ได้ก่อนที่จะไปสู่ “จะใช้งานอย่างไร” (How to) พร้อมกันนี้ ได้ยก หลักการ 3H จากสถาบัน MIT มาเป็นแนวทาง คือ Heart (ใจรัก) ความหลงใหลในสิ่งที่ทำ Head (ความคิด) การใช้สมองวางแผนและกลยุทธ์อย่างมีประสิทธิภาพ และ Hand (ลงมือทำ) การปฏิบัติตามขั้นตอนและกระบวนการ ปัญหาที่พบบ่อยคือคนส่วนใหญ่มักจะข้ามขั้นตอน “Head” คือเมื่อมีใจรักแล้วก็ลงมือทำทันที ทำให้ขาดการวางแผนเชิงกลยุทธ์เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ในภาคธุรกิจ การใช้ AI ควบคู่กับ Marketing Automation คือกุญแจสำคัญในการสร้างผลการดำเนินงานทางธุรกิจ (Business Performance) ที่ดีขึ้น เป้าหมายที่แท้จริงไม่ใช่เพียงการได้ผลผลิต (Output) ที่มากขึ้นจากการเพิ่มทรัพยากรบุคคล ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดข้อผิดพลาดของมนุษย์ (Human Error) แต่คือการเพิ่มผลิตภาพ (Productivity) โดยใช้ทรัพยากรที่จำกัดและลดข้อผิดพลาดให้ได้มากที่สุด ซึ่ง AI สามารถเข้ามาตอบโจทย์ในส่วนนี้ได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยผลการวิจัยชี้ว่าองค์กรที่สามารถใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพจะสามารถสร้างการเติบโตทางธุรกิจ (Business Gain) เพิ่มขึ้นถึง 50%

ท้ายที่สุด ดร.ศรีหทัย สรุปว่า สำหรับทุกคนที่ต้องการพัฒนาตนเองและสร้างความสำเร็จ AI อาจไม่ได้ย่อมาจาก Artificial Intelligence แต่คือ Always Improving หรือการพัฒนาปรับปรุงอย่างไม่หยุดยั้ง

“ไม่ว่าคุณจะใช้ AI ในระดับใด ขอให้มี AI ที่เป็น Always Improving สำหรับตัวคุณเอง พัฒนาตัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แล้ววันหนึ่งคุณก็จะสามารถทำในสิ่งที่คุณอยากเห็นได้ ไม่ว่าจะเป็นในเชิงธุรกิจหรือเทคโนโลยี” ดร.ศรีหทัย กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

จาก Co-pilot สู่ Co-worker: KBTG ชี้ ‘Agentic AI’ คือคลื่นลูกใหม่แห่งการปฏิวัติธุรกิจ

ดร.พัทน์ ภัทรนุธาพร ถอดรหัสอนาคต AI ที่ไม่ได้มาเพื่อแทนที่ แต่มาเพื่อส่งเสริม ‘ความเป็นมนุษย์’

×

Share

ผู้เขียน