บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKPower (CKP) หนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรายใหญ่ของภูมิภาค โชว์ผลการดำเนินงาน 9 เดือนของปี 2568 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน (Core Net Profit) สูงถึง 1,643 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1,151 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดถึงร้อยละ 234 ขณะที่ผลงานเฉพาะไตรมาส 3/2568 มีกำไรสุทธิ 1,227 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 110
ธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ CKPower เปิดเผยว่า ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนผลการดำเนินงาน มาจาก “สองปัจจัยบวก” สำคัญ คือ ปริมาณน้ำที่มหาศาล และ ต้นทุนทางการเงินที่ลดลง
อานิสงส์ “น้ำ” ดันยอดขายไฟพุ่ง
ปัจจัยหลักที่ส่งผลบวกโดยตรงคือปริมาณน้ำที่ไหลผ่านโรงไฟฟ้าพลังน้ำในเครือ โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี (XPCL) ที่มีปริมาณน้ำอยู่ในระดับที่เหมาะสม ทำให้สามารถเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าได้โดยไม่หยุดพักตลอด 9 เดือน ส่งผลให้ปริมาณการขายไฟฟ้าของ XPCL ในช่วง 9 เดือน เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 27 เมื่อเทียบกับปีก่อน
ขณะเดียวกัน บริษัท ไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด (NN2) ก็มีรายได้จากการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น จากปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในเดือนกรกฎาคม 2568 ซึ่งมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างฯ สูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ ทำให้ปริมาณการขายไฟฟ้า 9 เดือน มากกว่าปีก่อนร้อยละ 26
“NN2 ได้รับประโยชน์จากปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างฯ ที่ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะไตรมาส 3 ที่ผ่านมา จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน ‘วิภา’” นายธนวัฒน์กล่าว
“ดอกเบี้ยขาลง” หนุนต้นทุนการเงินลด
นอกเหนือจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น ปัจจัยบวกที่สำคัญอีกประการคือ “ต้นทุนทางการเงิน” โดยเฉพาะต้นทุนทางการเงินของ XPCL ที่ปรับตัวลดลงตามแนวโน้มดอกเบี้ยโลก ส่งผลให้ CKPower รับรู้ส่วนแบ่งกำไรสุทธิจากการดำเนินงานของ XPCL ในช่วง 9 เดือน สูงถึง 1,125 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,110 ล้านบาทจากปีก่อน
ธนวัฒน์ ยังคาดการณ์ว่า แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐอเมริกาและประเทศไทย จะช่วยลดต้นทุนทางการเงินและหนุนผลการดำเนินงานของ CKPower ต่อเนื่องไปในปี 2569
ฐานะการเงินแกร่ง-โครงการใหม่คืบหน้า
ณ สิ้นไตรมาส 3 (30 กันยายน 2568) CKPower มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 จากสิ้นปี 2567 ส่วนหนึ่งมาจากเงินสดรับจากการออกหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และเงินสดจากการดำเนินงาน ซึ่งใช้ในการลงทุนเพิ่มเติมใน บริษัท หลวงพระบาง พาวเวอร์ จำกัด (LPCL)
บริษัทตอกย้ำความแข็งแกร่งด้วยความสามารถในการชำระหนี้ โดยมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยจ่ายสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวม (Net IBD/E) อยู่ในระดับต่ำเพียง 0.53 เท่า และอัตราส่วนความสามารถในการชำระดอกเบี้ยที่ 6.50 เท่า
สำหรับความคืบหน้าโครงการไฟฟ้าพลังน้ำ หลวงพระบาง ณ สิ้นเดือนกันยายน 2568 มีความคืบหน้าการก่อสร้างอยู่ที่ร้อยละ 59 ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้
มุ่งสู่ Net Zero ปี 2593
ธนวัฒน์ กล่าวย้ำว่า CKPower ยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนการเติบโตผ่านการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน และเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงาน พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการนำประเทศไทยก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ พัฒนานวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้า และเดินหน้าสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
กลยุทธ์ Tofusan: SME ชนะยักษ์ใหญ่ ไม่สู้ราคา แต่หา Pain Point
SCB WEALTH เบรก ‘อย่าจับจังหวะ’ ซื้อกองทุนภาษีชี้เน้น ‘เวลา-วินัย’ สู้ผันผวน




