Story of Business • Technology • Sustainability
Share on
×

Share

LINE GIFT เปลี่ยน ‘แชต’ เป็น ‘ของขวัญ’ ปั้นเศรษฐกิจจากความใส่ใจ

LINE GIFTเปลี่ยน ‘แชต’ เป็น ‘ของขวัญ’ ปั้นเศรษฐกิจจากความใส่ใจ

ในโลกที่เทคโนโลยีมักถูกมองว่าเป็นสิ่งที่เข้ามาแทนที่ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ แต่สำหรับบริบทของสังคมไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เทคโนโลยีกลับกำลังทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมความรู้สึกเหล่านั้นให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น LINE GIFT คือกรณีศึกษาที่น่าสนใจที่สุดในขณะนี้ ของการหยิบยกเอารากเหง้าทางวัฒนธรรมเรื่อง “การให้” ของคนไทย มาผสานเข้ากับพฤติกรรมบนโลกดิจิทัล จนเกิดเป็นบริการที่ไม่ได้สร้างแค่ยอดขาย แต่กำลังสร้าง “ประสบการณ์ที่น่าประทับใจ” (WOW Moment) ในทุกบทสนทนา

ถอดรหัสพันธุกรรม “การให้” ของคนไทย: ภาษาของความสัมพันธ์ในยุคดิจิทัล

รากฐานความสำเร็จของบริการนี้เกิดจากการทำความเข้าใจบริบททางสังคมไทยอย่างลึกซึ้ง คนไทยเติบโตมากับวัฒนธรรมของการหยิบยื่นสิ่งเล็ก ๆ น้อยๆ ให้แก่กัน ไม่ว่าจะเป็นของฝากจากการเดินทาง ขนมสำหรับเพื่อนร่วมงาน หรือของใช้เล็กๆ น้อยๆ ที่ส่งให้กันในวันที่อีกฝ่ายเหนื่อยล้า ข้อมูลเชิงลึกสะท้อนให้เห็นความจริงที่น่าสนใจว่า พฤติกรรมเหล่านี้เกิดขึ้นถี่กว่าที่หลายคนคาดคิด โดยในช่วงเวลาเพียง 3 เดือน คนไทยกว่า 96% มีการให้ของขวัญอย่างน้อยหนึ่งครั้ง

สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าตัวเลขปริมาณคือ “เจตนา” ของการให้ ผลสำรวจระบุว่ากว่า 88% ของการให้เหล่านั้นเกิดขึ้นเพื่อสื่อสารความรู้สึก มากกว่าการรอให้ถึงวาระโอกาสพิเศษหรือเทศกาลสำคัญ สิ่งนี้บ่งบอกว่าสำหรับคนไทยแล้ว การให้ของขวัญคือ “ภาษาของความสัมพันธ์” (Language of Relationship) ที่ใช้ดูแลกันแบบเรียบง่ายแต่จริงใจ และเมื่อประชากรไทยกว่า 56 ล้านคนย้ายบทสนทนามาอยู่บนแพลตฟอร์ม LINE พื้นที่แห่งนี้จึงกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่เปลี่ยนความปรารถนาดีที่เป็นนามธรรม ให้กลายเป็นของขวัญที่จับต้องได้ในทันที

ถอดรหัสพันธุกรรม “การให้” ของคนไทย: ภาษาของความสัมพันธ์ในยุคดิจิทัล

จาก “ความเกรงใจ” สู่ “ความเข้าใจ”: การออกแบบที่ทลายกำแพงการส่งของขวัญ

โจทย์ใหญ่ที่ LINE GIFT เข้ามาแก้ไขคืออุปสรรคในโลกความจริงที่ขัดขวางการให้ บริการนี้ถูกออกแบบมาด้วยแนวคิดที่ต้องการให้การส่งของขวัญเป็นเรื่องง่ายและเป็นธรรมชาติที่สุด สอดคล้องกับพฤติกรรมการแชตของคนไทย ผู้ใช้งานสามารถส่งของขวัญได้ทันทีโดยไม่ต้องออกจากหน้าบทสนทนา และที่สำคัญคือการปลดล็อกข้อจำกัดเรื่อง “ที่อยู่” ผู้ส่งไม่จำเป็นต้องทราบที่อยู่ของผู้รับ ซึ่งเป็นจุดที่สร้างความสะดวกสบายใจ (Pain Point) ในอดีต ทำให้การส่งของขวัญทำได้ง่ายและรวดเร็วเสมือนการส่งสติกเกอร์ไลน์

ความง่ายดายนี้ก่อให้เกิดพฤติกรรมใหม่ที่เรียกว่า “การให้ของขวัญเชิงอารมณ์” (Emotional Gifting) เช่น การกล่าวขอบคุณ การให้กำลังใจ หรือเพียงแค่ต้องการสร้างความใกล้ชิด และของขวัญในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม (F&B) คิดเป็นกว่า 77% ของการส่งของขวัญในโอกาสธรรมดา ๆ โดยมีแบรนด์ที่ผู้บริโภคคุ้นเคยอย่าง Starbucks ทำหน้าที่เป็นประตูเชื่อม (Gateway) สำคัญ ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานเริ่มต้นส่งของขวัญชิ้นแรกได้อย่างไม่เคอะเขิน ส่งผลให้การให้ของขวัญกลายเป็นส่วนหนึ่งของโมเมนต์ในชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง

ดัชนีชี้วัดความสำเร็จ: เมื่อความใส่ใจแปรเปลี่ยนเป็นความมั่นคงทางธุรกิจ

ในมุมมองทางธุรกิจ ตัวเลขสถิติของ LINE GIFTสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มที่แข็งแกร่ง แม้จะเป็นบริการที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน แต่สามารถสร้างอัตราการเปลี่ยนการมองเห็นเป็นการซื้อ (Conversion Rate) จากเมนูในห้องแชต (Chatroom Plus Menu) ได้สูงถึง 20% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่โดดเด่นมากในอุตสาหกรรม

ความแม่นยำในการตอบโจทย์ผู้ใช้งานยังสะท้อนผ่านตัวเลขคุณภาพการให้บริการ โดยมีอัตราการยกเลิกคำสั่งซื้อต่ำเพียง 0.4% และที่น่าประทับใจคืออัตราคูปองที่ไม่ถูกนำไปใช้งาน (Unused Voucher) มีสัดส่วนเพียงแค่ 2% เท่านั้น ตัวเลขเหล่านี้ยืนยันว่าผู้รับมีความพึงพอใจและได้ใช้ประโยชน์จากของขวัญจริง ในขณะเดียวกัน ฝั่งผู้ประกอบการก็ให้การตอบรับอย่างดีเยี่ยม โดยมีร้านค้าที่เปิดใช้งานอย่างต่อเนื่องกว่า 70% แสดงให้เห็นว่า LINE GIFT สามารถสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืนและสร้างมูลค่าทางธุรกิจได้ตั้งแตปีแรกของการดำเนินการ

เจาะขุมทรัพย์การตลาด: โอกาสใหม่ของแบรนด์ในการเข้าถึงนักช้อปทรงพลัง

การเติบโตของ LINE GIFT ไม่ได้หยุดอยู่แค่พฤติกรรมของผู้ใช้ แต่ยังเป็นการเปิดน่านน้ำใหม่ให้กับแบรนด์ไทยในการทำการตลาด โดยเฉพาะการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้หญิงอายุ 25–34 ปี ซึ่งถือเป็นผู้ตัดสินใจซื้อหลัก (Key Decision Maker)

ผลลัพธ์ที่ตามมาคือการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของสินค้าหลายหมวด โดยเฉพาะหมวดความงาม (Beauty) ที่มีสัดส่วนยอดขายรวม (GMV) เพิ่มขึ้นจาก 5% เป็น 7% ภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือน นอกจากนี้ “วันเกิด” (Birthday) ยังคงครองแชมป์เป็นโอกาสการให้ที่ใหญ่ที่สุด โดยคิดเป็น 38% ของจำนวนการคลิกเข้าดู LINE GIFT ทั้งหมด เมื่อแบรนด์สามารถเชื่อมต่อข้อมูลเหล่านี้เข้ากับเครื่องมือทางการตลาดในระบบนิเวศของ LINE เช่น LINE Ads หรือการแจ้งเตือน (Trigger & Reminders) ย่อมสามารถสร้างจุดสัมผัสทางอารมณ์ (Emotional Touchpoint) ที่เปลี่ยนลูกค้าขาจรให้กลายเป็นลูกค้าประจำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อก้าวเข้าสู่ช่วงปลายปี ซึ่งเป็นห้วงเวลาสำคัญที่ผู้คนต่างต้องการส่งต่อความรู้สึกดี ๆ ให้แก่กันมากที่สุด LINE GIFT พร้อมแล้วที่จะรองรับทุกความต้องการด้วยรูปแบบการให้ที่หลากหลายและเข้าถึงง่าย ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลของขวัญ (Gift Festival) การให้ของขวัญแบบกลุ่ม (Group Gift) หรือชุดของขวัญที่คัดสรรมาเป็นพิเศษตามฤดูกาล (Seasonal Curated Sets) เพื่อตอบโจทย์ทุกโอกาสของการสื่อความหมาย ความสำเร็จในปีแรกของการเปิดตัวไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวเลขทางธุรกิจ แต่คือเครื่องยืนยันว่าบริการนี้ได้เปลี่ยน “การให้” ให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตประจำวันของผู้ใช้งานชาวไทยได้อย่างรวดเร็ว และในอนาคต บริการนี้จะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาต่อไป เพื่อทำให้การให้กลายเป็น “ภาษาของความสัมพันธ์” (Language of Relationship) ที่ง่ายที่สุด สะดวกที่สุด และเปี่ยมไปด้วยความหมายที่สุดสำหรับคนไทยในทุกช่วงเวลาของปี

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

สุขภาพจิตยุคใหม่…เริ่มง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว เช็กสุขภาพใจ ได้ตลอดเวลา ผ่าน LINE HEALTH

AIS SIAM ผนึก PMCU เนรมิตสยามสแควร์สู่ ‘ถนนแห่งความฝัน’ จัดใหญ่เคานต์ดาวน์ปี 2026

×

Share

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ผู้เขียน