สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงเป็นผลมาจากการใช้ทรัพยากรธรรมชาติของทุกคนบนโลก เพียงแต่จะใช้มาก หรือน้อย แตกต่างกันไป ซึ่งตามที่ทราบกันยิ่งเมืองใหญ่ ยิ่งเผาผลาญทรัพยากรมาก ซึ่งล่าสุด หลากหลายภาคส่วนได้ร่วมกันจัดงาน Bangkok Climate Action Week (BKKCAW) หรือเทศกาลสภาพภูมิอากาศใหม่ของกรุงเทพฯ ระหว่าง 28 กันยายน – 4 ตุลาคม 2568 เพื่อกระตุ้นการดำเนินการร่วมกันในสังคมไปสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและครอบคลุมมากขึ้น
ลีโอ ฮอร์น-พัธโนทัย ผู้ดำเนินงานหลัก BKKCAW ให้ข้อมูลว่า BKKCAW ที่มีต้นแบบมาจาก London Climate Action Week (LCAW) ไม่ใช่งานที่จัดขึ้นในช่วงระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น และไม่ใช่เพียงการแสดงความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ หรือการนำโซลูชันไปปฏิบัติแบบแยกส่วน
BKKCAW จะเป็นเวทีที่มีชีวิตชีวาเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในสังคมทั้งพลเมือง ชุมชน และสถาบันต่าง ๆ มาร่วมสร้างอนาคตสีเขียวที่ครอบคลุมสำหรับทุกคนรวมถึงนักสร้างสรรค์ และผู้ผลักดันการเปลี่ยนแปลงทางสังคมทั่วทั้งภูมิภาคในการสร้างอนาคตที่ครอบคลุมและมุ่งหาแนวทางแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศที่เน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน
หัวใจของ BKKCAW คือการเฉลิมฉลองพลังของการลงมือทำร่วมกัน ความคิดสร้างสรรค์ และความเข้มแข็งของชุมชน โดยออกแบบงานในรูปแบบของเทศกาลระดับเมือง ที่เชิญชวนชุมชนท้องถิ่น นักสร้างสรรค์ เยาวชน นักวิทยาศาสตร์ ผู้กำหนดนโยบาย นักกิจกรรม และสังคมในการร่วมสร้างสรรค์แนวทางแก้ไขปัญหาภูมิอากาศที่ทุกคนมีส่วนร่วม สนุกสนาน และยืดหยุ่น พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงในอนาคตต่อไปได้
ประเด็นหลักประจำปีคือ โลกร้อน เรารุก โลกลุก เราเปลี่ยน (Living the Impacts, Leading the Change) เน้นบทบาทของผู้คนในฐานะกลไกสำคัญของเรื่องเรื่องราวด้านสภาพภูมิอากาศ
“การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อทุกคน และเราทุกคนต้องลงมือกันจัดการ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสำหรับนักวิชาการเท่านั้น จุดมุ่งหมายของ BKKCAW คือการกระตุ้นและเสริมพลังให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงสู่อนาคตสีเขียว ซึ่งหมายถึงการให้คนเป็นศูนย์กลาง ยกระดับเสียงสะท้อนและแนวทางของชุมชนท้องถิ่นเพื่อสร้างพื้นที่ที่ผู้มีบทบาทในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถร่วมกันกำหนดอนาคตได้”
ดึงทุกคนเข้าร่วม-ทำต่อเนื่อง-สร้างรายได้
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร บอกว่า กทม. สนับสนุนการจัดงาน โดยมีสถานที่ให้ และความช่วยเหลือที่ไม่ใช่จำนวนเงิน
พร้อมกันนี้ ได้ฝากมุมมอง Climate Action อย่างยั่งยืน มี 3 ปัจจัยหลัก คือ 1. ทุกคนมีส่วนร่วมจากที่ผ่านมามักจะเป็นการดำเนินการของบริษัทขนาดใหญ่ 2. ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ยาวนาน ไม่ใช่กิจกรรมในช่วงเวลาสั้นๆ แล้วจบ เช่น นโยบายการปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้นของ กทม. ที่เดิมมีแต่คนหัวเราะ แต่ผ่านไป 3 ปี ปลูกได้ 1.8 ล้านต้น กำลังจะครบ 2 ล้านต้นต่อไป
3. ทำแล้วสร้างรายได้ เพื่อดึงดูดทุกคนเข้ามามีส่วนร่วม ไม่ใช่มีแต่ค่าใช้จ่ายเท่านั้น ยกตัวอย่าง ขยะของ กทม. ที่ใช้งบประมาณ 7,000 ล้านบาทนำไปฝังกลบ ทั้ง ๆ ที่ขยะมีมูลค่า แต่ต้องแยกขยะให้ถูกวิธี
BACC สถานที่จัดกิจกรรม
หนึ่งในสถานที่จัดงานคือ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) จะจัดกิจกรรมหลายรายการของ BKKCAW ในฐานะผู้นำด้านวัฒนธรรมที่จัดนิทรรศการและกิจกรรมเชิงปฏิสัมพันธ์ โดยใช้พลังของศิลปะเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นการมีส่วนร่วมของสาธารณชนในการขับเคลื่อนด้านภูมิอากาศ
อดุลญา (คิม) ฮุนตระกูล ผู้อำนวยการหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า BKKCAW เป็นมากกว่างานเทศกาล แต่เป็นพื้นที่สำหรับจินตนาการที่หลากหลายมารวมกัน การร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานนี้ทำให้หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครได้สร้างความแตกต่างข้ามกรอบกำแพงงานศิลปะได้เชื่อมโยงเรื่องราวด้านสภาพภูมิอากาศกับชีวิตประจำวันผ่านมุมมองด้านศิลปะ
ขณะเดียวกันยังมีโครงการพลังงานสะอาด เข้าถึงได้และมั่นคงสำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Clean, Affordable, and Secure Energy for Southeast Asia: CASE) ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) และสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ที่กำลังพัฒนาประสบการณ์เสมือนจริงเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับพลังงานสะอาดให้เข้าถึงผู้คนในวงกว้าง โดยเน้นนวัตกรรมและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการเปลี่ยนผ่านพลังงานของประเทศไทย
เปิดรับไอเดียเพิ่ม
พร้อมกันนี้ ผู้จัดการได้เชิญชวนผู้ต้องการมีส่วนร่วมกับเทศกาล BKKCAW 2025 ไม่ว่าจะนำเสนอไอเดียการจัดกิจกรรม หรือมีพื้นที่ที่ใช้จัดกิจกรรมได้ โดยเฉพาะกิจกรรมที่สอดคล้องกับประเด็นหลักของปีนี้ ให้เข้าเว็บไซต์ทางการ ที่ https://www.bangkokclimateactionweek.org/get-involved จากนั้นเลือกหัวข้อ “Submit an event” (ส่งข้อเสนอกิจกรรม) และ “Offer a venue” (เสนอพื้นที่จัดงาน) เพื่อกรอกรายละเอียดในแบบฟอร์มใบสมัคร ซึ่งเปิดรับถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568
ทั้งนี้ ผู้จัดกิจกรรมจะต้องรับผิดชอบด้านการจัดงานและโลจิสติกส์เอง โดยผู้จัดงานจะให้การสนับสนุนด้านการประชาสัมพันธ์ โดยกิจกรรมที่นำเสนอเข้ามาจะได้รับการพิจารณาและอนุมัติโดยคณะผู้จัดงาน BKKCAW ร่วมกับคณะกรรมการขับเคลื่อนดำเนินงาน (Steering Committee) ก่อนที่จะประกาศการจัดงานบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ หากผู้จัดงานต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเสนอกิจกรรม ทางผู้จัดจะติดต่อกลับไปยังผู้เสนอกิจกรรมโดยตรง
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
‘เติมเนเจอร์’ เติบโตอย่างยั่งยืน คืนกำไรสู่สังคมและเกษตรกร
SIG และ WWF ร่วมมือฟื้นฟูระบบนิเวศและพัฒนาชุมชนไทยอย่างยั่งยืน
