ทรู คอร์ปอเรชั่น ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญในการดำเนินงานตามกลยุทธ์ “One Network” โดยได้ดำเนินการรวมเสาสัญญาณมือถือของทรูและดีแทคเสร็จสมบูรณ์แล้ว พร้อมยกระดับประสิทธิภาพโครงข่ายทั่วประเทศในโครงการ “Power Up” ซึ่งถือเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของไทย และมอบประสบการณ์เครือข่ายที่เหนือชั้นที่สุดให้กับลูกค้าทรูและดีแทค
ซิกเว่ เบรกเก้ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “วันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของความสำเร็จ ในการยกระดับเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ซึ่งเป็นการมอบประสบการณ์เครือข่ายที่เหนือชั้นให้กับลูกค้าของทรูและดีแทค พร้อมทั้งสร้างคุณค่าเพิ่มขึ้นจากการผสานรวมกันแก่ผู้ถือหุ้น ความสำเร็จนี้มาจากความร่วมมืออย่างเต็มที่จากทีมงานผู้เชี่ยวชาญกว่า 3,650 คน ในโครงการ One Network ที่ปฏิบัติงานทุกวัน รวมชั่วโมงทำงานกว่า 17 ล้านชั่วโมง ตลอด 2 ปีครึ่ง”
การรวมพลังโครงข่ายสู่มาตรฐานใหม่ (Network Modernization)
หัวใจสำคัญของโครงการ One Network คือการนำเสาสัญญาณและโครงสร้างพื้นฐานที่ดีที่สุดของทั้งสองแบรนด์มารวมกันเป็นหนึ่งเดียว (Network Modernization) และใช้กลยุทธ์ “Spectrum Pooling” เพื่อผสานคลื่นความถี่เข้าเป็นเครือข่ายเดียวกัน ทำให้ลูกค้าทั้งสองแบรนด์สามารถใช้ทรัพยากรเครือข่ายร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อ ส่งผลให้ได้คุณภาพสัญญาณที่ แข็งแกร่ง ครอบคลุม และมีความเร็วสูงยิ่งขึ้นทั่วประเทศ
ยกระดับ 5G และ 4G อย่างก้าวกระโดด
- 5G เร็วขึ้นชัดเจน: ลูกค้าดีแทคได้รับประโยชน์สูงสุดจากโครงการนี้ ด้วยความเร็ว 5G ที่เพิ่มขึ้นถึง 4.39 เท่า ขณะที่ลูกค้าทรูได้รับความเร็วที่เพิ่มขึ้น 1.09 เท่า โดยเฉพาะการอัปเกรด 5G คลื่น 2600MHz เต็มแบนด์ (90MHz)
- 4G แรงขึ้น: ลูกค้าทรูได้รับประสบการณ์ใช้งาน 4G ที่มีประสิทธิภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้นบนคลื่น 2300MHz
- เทคโนโลยีขั้นสูง: มีการนำเทคโนโลยี Dynamic Spectrum Sharing (DSS) มาใช้ ทำให้สามารถใช้งานคลื่นความถี่ร่วมกันได้อย่างยืดหยุ่นระหว่าง 5G และ 4G บนคลื่น 2600 MHz
- อนาคตของการเชื่อมต่อ: ทรูฯ ยังมีแผนก้าวต่อไปในการนำคลื่น 2300MHz มาทำ 5G ร่วมกับคลื่น 2600 MHz และนำคลื่น 1500 MHz ซึ่งเป็นคลื่นใหม่มาเพิ่มประสบการณ์ใช้งาน 5G และ 4G ที่รวดเร็วและเสถียรยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากความเร็วและความครอบคลุมแล้ว ทรู คอร์ปอเรชั่นยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของลูกค้า ด้วย True CyberSafe ที่ใช้เทคโนโลยี AI ตรวจจับ บล็อก และแจ้งเตือนภัยคุกคามทางไซเบอร์แบบเรียลไทม์
มิติใหม่แห่งความยั่งยืนและความเชื่อมั่นระดับโลก
ความสำเร็จของ Network Modernization ยังส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมีนัยสำคัญ โดยการลดเสาซ้ำซ้อนและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพผ่านเทคโนโลยี AI และ Machine Learning จะช่วย ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลงได้ถึง 15-20% ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของทรู คอร์ปอเรชั่น ที่จะมุ่งสู่การปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2573
ความสำเร็จของการรวมโครงข่ายครั้งนี้ได้รับการยืนยันจากสถาบันระดับโลกอย่าง nPerf ที่จัดอันดับให้ True 5G ครองตำแหน่งเครือข่ายที่ดีที่สุดในประเทศไทย 9 ปีซ้อน เมื่อผนวกเข้ากับจุดเด่นของดีแทคในด้านคุณภาพการใช้งานจริง (Quality of Experience) ทั้งการท่องเว็บและการสตรีมมิ่ง จะยิ่งเสริมให้ลูกค้าทุกคนได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดอย่างแท้จริง
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
AWS เฟ้นหา 40 สตาร์ทอัพ AI ทั่วโลก ร่วมโครงการ Accelerator พร้อมอัดฉีดสูงสุด 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
บิทคับ เปิดตัว ‘แอป Bitkub ใหม่’ ยกระดับเทรดคริปโทฯ ลื่นไหล ปลอดภัยมาตรฐานโลก




