TH | EN
TH | EN
หน้าแรก Interview 'ปิยธิดา ตันตระกูล' ขายไอที ซีเคียวริตี้ ต้องใช้ศาสตร์และศิลป์ให้ลูกค้าเชื่อใจ

‘ปิยธิดา ตันตระกูล’ ขายไอที ซีเคียวริตี้ ต้องใช้ศาสตร์และศิลป์ให้ลูกค้าเชื่อใจ

เทรนด์ไมโคร (ประเทศไทย) กำลังก้าวสู่ปีที่ 18 และหากย้อนกลับไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว เทรนด์ไมโครในไทยมีการปรับทัพทิศทางธุรกิจที่สำคัญ เปลี่ยนจากงานขายแบบฮาร์ดเซลสู่การเติบโตไปด้วยกันกับพาร์ตเนอร์ และเข้าเป็นที่ปรึกษาให้ลูกค้าโดยตรง รวมถึงการมีผู้จัดการประจำประเทศไทย ‘ปิยธิดา ตันตระกูล’ ที่บอกกับทีมขายเสมอว่า “ปีแรกคุณไม่ต้องเดินเข้าไปขายลูกค้าก่อนนะ คุณเดินเข้าไปรับฟังปัญหาก่อน เข้าไปเจอความท้าทายของลูกค้าว่าเราช่วยอะไรเขาได้บ้าง นี่เป็นกลยุทธ์หนึ่งที่สำคัญเลยที่ทีมขายของเทรนด์ไมโครต้องมี”

งานขายไอที ซีเคียวริตี้ คือ การท้าทายตัวเอง

ปิยธิดา ตันตระกูล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เทรนด์ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Trend Micro  กล่าวกับ The Story Thailand ว่า หลังจากจบปริญญาตรีสาขาวิศวะคอมพิวเตอร์และปริญญาโทสาขาวิชาจิตวิทยาการปรึกษาก็ทำงานด้านไอทีซีเคียวริตี้มาตลอดเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว ซึ่งพื้นฐานงานแรกที่ทำคือการขาย มีหลายคนถามว่าทำไมไม่ทำงานตรงกับที่เรียนมาคืองานด้านเทคนิค ทำไมเลือกทำงานด้านขาย ต้องบอกก่อนว่าเป็นคนชอบท้าทายตัวเอง 

ทั้งนี้มองว่าการทำงานด้านเทคนิคไม่ใช่จุดเด่นของตัวเอง แต่มันอยู่ที่ว่าจะทำตัวเองให้มีประโยชน์มากที่สุดกับคนอื่นจากความรู้ส่วนนั้นยังไง ซึ่งในช่วงแรกของการทำงานลูกค้าส่วนใหญ่คือหน่วยงานภาครัฐ มีความท้าทายมากมายเกิดขึ้น ยิ่งทำให้ต้องค้นหาว่าจะต้องใช้วิธีอะไรเพื่อตอบโจทย์ของลูกค้า จึงทำให้รู้สึกสนุกกับการทำงาน

ส่วนการทำงานที่เทรนด์ไมโครมีความท้าทายตลอดเวลา บางครั้งลูกค้าต้องการความเข้าใจเรื่องการใช้งานที่ไม่ผิดพลาด แต่ในมุมของไอทีซีเคียวริตี้ โซลูชั่นคือตัวช่วยแก้ปัญหาแต่พฤติกรรมการใช้งานไอทีในองค์กรคือส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ถามว่าเรายอมแพ้ไหม เราไม่ยอมแพ้กลับเป็นแรงผลักดันให้เราต้องหาวิธีเพื่อยกระดับองค์กรของลูกค้าให้เข้าใจในเรื่องนี้มากขึ้น โดยการเข้าไปจัดกิจกรรมฝึกอบรมให้ความรู้และมีแบบทดสอบพื้นฐานให้พนักงานในองค์กรนั้นๆ ได้ทำ เพื่อลูกค้าจะได้รู้ว่าองค์กรมีความรู้เรื่องการใช้งานระดับใด

อย่างไรก็ตามประสบการณ์จากงานด้านการขาย14 ปีก่อนมาทำงานที่เทรนด์ไมโครทำให้เข้าใจลูกค้ากลุ่มไอทีว่าต้องการอะไร เราต้องเพิ่มความต่างอย่างไรให้ลูกค้าสนใจและเลือกใช้สิ่งที่กำลังขายอยู่ โดยมองว่าในมุมการทำงานนี้จะต้องใช้หลักจิตวิทยาในการให้คำปรึกษา ซึ่งแต่ละอุตสาหกรรมมีความท้าทายในการเลือกใช้ไอทีซีเคียวริตี้ที่ต่างกัน ประสบการณ์การทำงานด้านนี้ช่วยให้ตัวเองเข้าใจความต้องการของแต่ละอุตสาหกรรมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ ธนาคาร โทรคมนาคม อุตสาหกรรมการผลิต  

ทั้งนี้ในแวดวงของธุรกิจไอทีซีเคียวริตี้การสร้างความน่าเชื่อถือและความมั่นใจเป็นสิ่งสำคัญในการเข้าถึงลูกค้า ซึ่งปัญหาที่องค์กรพบเจอส่วนใหญ่จะมาจากความคิดที่ว่า ปัญหายังไม่เกิดขึ้น องค์กรยังไม่ถูกโจมตีการนำไอทีซีเคียวริตี้เข้ามาใช้ยังไม่จำเป็น แต่เมื่อถูกโจมตีองค์กรก็จะตั้งรับไม่ทัน การมีวิธีแนะนำลูกค้าให้เกิดความตระหนักรู้และเข้าใจบริบทของการนำไอทีซีเคียวริตี้มาใช้จึงจำเป็นที่จะต้องมีจิตวิทยาในการให้คำปรึกษา 

8 ปีกับเก้าอี้ผู้จัดการประจำประเทศไทย

ปิยธิดา กล่าวต่อว่าหากถามว่ามาทำงานที่เทรนด์ไมโครประเทศไทยได้อย่างไร ต้องเล่าว่าปีนี้เทรนด์ไมโครประเทศไทยครบรอบ 18 ปี ซึ่งตัวเองเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการเป็นเวลา 8 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้เทรนด์ไมโครประเทศไทยมีทิศทางการทำธุรกิจแบบการหาพาร์ทเนอร์เพื่อช่วยขายไปยังลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งต่อมามีการขยายตลาดกลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้นในลักษณะการเข้าไปให้คำปรึกษาโดยตรงกับลูกค้าเพื่อให้เข้าถึงสินค้าและบริการของเทรนด์ไมโครมากขึ้น การเปลี่ยนทิศทางการทำธุรกิจในช่วง 8 ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงเดียวกับที่เข้ามารับตำแหน่ง ซึ่งแผนการดำเนินธุรกิจกับรูปแบบการทำงานของตัวเองนั้นสอดรับกัน 

อีกทั้งการทำงานที่เข้าถึงลูกค้าได้โดยตรงช่วยสร้างความเชื่อถือและมั่นใจให้ลูกค้า การรับฟังปัญหาเป็นสิ่งสำคัญในการนำมาเลือกโซลูชั่นที่เหมาะสมให้กับลูกค้าแต่ละราย แน่นอนว่าในช่วงปีแรกของการมารับตำแหน่งผู้จัดการเทรนด์ไมโครประเทศไทยค่อนข้างท้าทายพอสมควร 

ทั้งนี้เนื่องจากโครงสร้างการทำธุรกิจจะต้องมีการปรับเปลี่ยน มีการขยายทีมเข้าถึงลูกค้าโดยตรงในการให้คำปรึกษาทางเทคนิคต่างๆ แต่ยังคงขายผ่านพาร์ทเนอร์ ซึ่งพาร์ทเนอร์อาจมีบ้างที่ไม่เข้าใจในตอนแรก แต่สุดท้ายแล้วเมื่อเวลาผ่านไป 2-3 ปี ได้เห็นการเติบโตของยอดขายก็เข้าใจการวิธีทำตลาดแบบนี้ ซึ่งช่วยให้พาร์ทเนอร์เติบโตไปพร้อมกับเรา 

อย่างไรก็ตามช่วง 8 ปีที่ผ่านมา เราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ไมโครอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่ให้บริการไอทีซีเคียวริตี้แบบมาตรฐานทั่วไป เช่น สินค้ากลุ่มป้องกันไวรัสในอีเมล์ เน็ตเวิร์ก ดาต้าเซ็นเตอร์ เป็นต้น ต่อมามีการทำ Trend Micro Connected Threat Defense หรือ CTD โดยการเปลี่ยนมุมมองการทำงานของทีมใหม่ทั้งหมด 

ด้วยการให้มองทิศทางการขายใหม่แบบภาพใหญ่เป็นหลัก คือ การเข้าไปพูดคุยกับลูกค้าว่าปัญหาที่พบเจอคืออะไรบ้าง พร้อมทั้งเสนอการวางแผนด้านไอทีซีเคียวริตี้ในระยะ 3 ปี ว่าองค์กรต้องเริ่มจากแก้ไขจุดไหนบ้างและต้องวางระบบเพื่อรับมืออย่างไรในอนาคตเพื่อไม่ให้เกิดการโจมตีอีก ซึ่งผลตอบรับการวิธีนี้ค่อนข้างดีมากหลังจากทำมาแล้ว 3-4 ปี มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 3 เท่า 

ทั้งนี้ ช่วง 4 ปีที่ผ่านมาเทรนด์ไมโครเดินหน้าปรับตัวกลุ่มโซลูชั่นให้สอดรับกับเทรนด์ของตลาดไอทีซีเคียวริตี้มากขึ้นมีการเปิดตัว Trend Micro Extended Detection and Response หรือ XDR ที่สามารถช่วยให้โซลูชั่นเดิมที่ลูกค้ามีสามารถทำงานร่วมกับโซลูชันไอทีซีเคียวริตี้ได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็น Email Security, Endpoint Security, Server Security, Cloud Security และ Network Security เพื่อทำการวิเคราะห์และตอบสนองต่อภัยคุกคามไซเบอร์ หรือ Threats ที่ตรวจพบได้อัตโนมัติ แม้ว่า 4 ปีที่แล้วลูกค้ายังไม่เข้าใจว่าทำไมต้องใช้ XDR จนกระทั่งมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ลูกค้าจะต้องนำข้อมูลทั้งหมดขึ้นบน Cloud การตรวจสอบเส้นทางของข้อมูลย้อนหลังจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น โดยปีที่ผ่านมามีบริการเพิ่มเติมคือ XDR Service one เพื่อให้การทำงานของลูกค้าง่ายขึ้น 

อีกทั้งจะเห็นได้ว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา พนักงานส่วนใหญ่ขององค์กรต่างๆ ทำงานจากที่บ้านเป็นลักษณะ Work from home การถูกโจมตีบนออนไลน์จึงมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน ซึ่งในมุมของเทรนด์ไมโครพยายามแก้ไขให้ลูกค้าสามารถทำงานต่อได้ทันทีโดยไม่ต้องเกิดความท้าทายระหว่างทำงานออนไลน์จากที่บ้าน โดยเราปรับมุมมองการทำงานของพนักงานเทรนด์ไมโครให้เน้นการช่วยเหลือ แก้ไขเป็นหลัก ไม่ใช่การเข้าไปเพื่อขายสินค้าเพียงอย่างเดียว เพราะเราต้องการยกระดับองค์กรในไทยให้เข้าใจวิธีทำงานของไอทีซีเคียวริตี้มากขึ้น 

อีกทั้งยังต้องให้องค์กรเหล่านั้นมองเห็นประโยชน์จากการใช้งานไอทีซีเคียวริตี้ เพื่อให้ภาพรวมขององค์กรไทยมีความปลอดภัยด้านข้อมูล ผู้ใช้บริการขององค์กรนั้นๆ จะเกิดความเชื่อใจในการฝากข้อมูลและเข้าใจบริบทความจำเป็นในการใช้ไอทีซีเคียวริตี้เพื่อป้องกันแฮกเกอร์ 

เราไม่ใช่แค่เข้าขายสินค้าและบริการแต่เราสร้างความเข้าใจให้ลูกค้าได้รับรู้ประโยชน์อย่างแท้จริงของไอทีซีเคียวริตี้

ธุรกิจเทรนด์ไมโครในปี 2566

ผู้จัดการเทรนด์ไมโครประจำประเทศไทย กล่าว่าปีนี้เราจะเน้นในส่วนของ Software as a Service หรือ SaaS ในการช่วยองค์กรต่างๆ มอร์นิเตอร์ความผิดปกติตลอด 24 ชม. จากภัยคุกคามไซเบอร์ที่เกิดขึ้นภายในองค์กร ซึ่งบางครั้งมีการแจ้งเตือนแต่ลูกค้าไม่รู้ รวมถึงเรื่อง Cloud Security ซี่งจะมีการทำตลาดที่ชัดเจน โดยปัจจุบันฐานลูกค้าหลักของเทรนด์ไมโครอยู่ที่กลุ่มโทรคมนาคม ธนาคารและหน่วยงานภาครัฐ เป็นสัดส่วนรายได้ไม่ต่ำกว่า 40% ทั้งนี้เรามีพาร์ทเนอร์หลายรายในการดูแลลูกค้ารายในกลุ่มอื่นๆ เช่น กลุ่มค้าปลีก กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต เป็นต้น โดยปีนี้จะมีการเปิดรับพาร์ทเนอร์เพิ่มในลูกค้าบางกลุ่ม และมีการฝึกอบรมให้พาร์ทเนอร์สามารถเข้าพูดคุยให้ความรู้ลูกค้ามากขึ้นซึ่งสัดส่วนรายได้จากกลุ่มพาร์ทเนอร์อยู่ที่ 60% 

ทั้งนี้เรายังคงทำตามมาตรฐานเดิมสำหรับลูกค้ารายใหม่คือ เริ่มจากทำ Health Check เพื่อให้รู้ถึงปัญหาและรับฟังสิ่งที่ลูกค้าต้องการ หลังจากนั้นวางแผนการใช้โซลูชั่นต่างๆ ร่วมกับลูกค้า ในปีแรกสิ่งที่เราทำคือส่งทีมขายเข้าไปรับฟังปัญหา ให้คำปรึกษาและเลือกโซลูชั่นให้ทดลองใช้ฟรี

อีกทั้งลูกค้าบางรายอาจมีกำลังจ่ายในการลงทุนทั้งหมดในครั้งเดียวไม่ได้ เรามีบริการสนับสนุนด้านเงินทุนผ่านพาร์ทเนอร์เพื่อทยอยจ่าย แต่สามารถเข้าใช้บริการโซลูชั่นหลังจากทำสัญญาแล้วได้ทั้งหมด ซึ่งระยะเวลาของสัญญาจะอยู่ที่ 3 ปี แน่นอนว่าการปิดการขายเพื่อทำสัญญากันในแต่ละองค์กรอาจใช้เวลานานกว่าคู่แข่ง แต่ลูกค้าได้ทดลองและเข้าใจการทำงานของไอทีซีเคียวริตี้อย่างแท้จริง และเกิดความเชื่อใจในบริการว่าเราไม่ทิ้งลูกค้าแน่นอน

อย่างไรก็ตาม มองว่าการทำธุรกิจไอทีซีเคียวริตี้ ต้องสื่อสารไปยังระดับผู้นำขององค์กรต่างๆ ให้เข้าใจความสำคัญของการใช้บริการเพื่อปกป้ององค์กรจากการโจมตีทางไซเบอร์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก แต่เทรนด์ไมโครพยายามหาช่องทางการสื่อสารการตลาดไปยังกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง 

BCP แผนรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์

จากข้อมูลรายงานว่า Ransom ware ยังคงมีอัตราเติบโตสูงถึง 75% และใน 6 เดือนแรกของปี2565 มีองค์กรมากกว่า 1,200 องค์กร ที่ตกเป็นเหยื่อของการโจมตี เพราะฉะนั้นสิ่งที่องค์กรควรตระหนักและหันมาให้ความสำคัญมากกว่าการป้องกันการโจมตี คือการเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ การทำ BCP (Business Continuity Planning) ด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้เพื่อให้องค์กรสามารถรับมือกับภัยคุกคามได้ทุกรูปแบบ
ทั้งนี้เทรนด์ไมโครได้เสนอแผนการทำ BCP เพื่อรับมือภัยคุกคามไซเบอร์ สำหรับผู้บริหารระดับสูงทางด้านการรักษาความปลอดภัยให้กับโครงสร้างเครือข่ายและความปลอดภัยข้อมูลสารสนเทศ หรือเรียกว่า CISO ออกเป็น 3 เรื่องหลัก ได้แก่ 

1.สร้างระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง องค์กรจะต้องมีระบบการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง ตั้งแต่การป้องกัน การตรวจจับ ไปจนถึงความรวดเร็วในการหาช่องโหว่และสามารถดำเนินการแก้ไขได้ทันที สำหรับการใช้งานซอฟต์แวร์ต่างๆ จะต้องอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอเพื่อป้องกันช่องโหว่ สำหรับการรักษาข้อมูล ให้ใช้กฎ 3-2-1 คือ ทำ Backup ข้อมูลทั้งหมด 3 ชุด ทำรูปแบบไฟล์ (Format) ให้แตกต่างกัน 2 รูปแบบ และนำข้อมูล 1 ชุด ไปเก็บไว้ในตำแหน่งที่ยากต่อการค้นหา โดยเก็บไว้คนละที่กับข้อมูลหลัก ทั้งนี้ CISO จะต้องทำหน้าที่ประเมินและตรวจสอบการทำงานของไอทีอยู่เสมอ และจะต้องเข้าใจในระบบงานของการรักษาความปลอดภัย ทั้งการหาภัยคุกคาม และ ช่องโหว่ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น 

2.ตรวจสอบการเข้าถึงระบบของทุกคนในองค์กรเพราะการโจมตีในปัจจุบันบางครั้งจะเข้ามาในรูปแบบของการปลอมตัวตน องค์กรจึงควรแบ่งสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูล และชั้นความลับ อย่างชัดเจน รวมถึงการตรวจสอบสถานะผู้ใช้ก่อนเข้าระบบเพื่อยืนยันตัวตน ซึ่งการตรวจสอบอย่างชัดเจนจะทำให้องค์กรมีวิธีการรักษาความปลอดภัยแบบ Zero Trust  

นอกจากนี้องค์กรยังควรนำเทคโนโลยี XDR เข้ามาเป็นตัวช่วยการตรวจจับการโจมตี เพราะปัจจุบันแฮกเกอร์ไม่ได้โจมตีแค่เพียงจุดเดียวอีกต่อไป แต่ทุกการโจมตีนั้นมีสตอรี่ มีที่มาที่ไป ซึ่ง XDR สามารถช่วยปกป้องการโจมตีได้แบบ Cross-Layered threat detection and response คือ จะเก็บรวบรวมข้อมูลจากพฤติกรรมและเส้นทางการโจมตีที่เกิดขึ้น ระหว่าง Endpoint (อุปกรณ์ปลายทาง), Data Center, Network และ Email ทำให้องค์กรเห็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยังสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อคาดการณ์การโจมตีครั้งต่อไปได้อีกด้วย 

3.สร้างวัฒนธรรมองค์กรด้าน Cybersecurity บางครั้งองค์กรมีเครื่องมือที่ดี แต่กลับถูกโจมตีเพราะความผิดพลาดของคน ทำให้ธุรกิจเสียหายทั้งข้อมูล และความเชื่อมั่นจากลูกค้า เพราะฉะนั้นการวางรากฐานวัฒนธรรมองค์กรให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ CISO ควรให้ความสำคัญผ่านการเปลี่ยนแนวคิดพนักงาน ให้เห็นความสำคัญของการฝึกอบรมด้าน Cybersecurity ของแต่ละคนโดยไม่มองว่าเป็นภาระที่เพิ่มขึ้นมาจากการทำงาน และหมั่นตรวจสอบให้แน่ใจว่าการฝึกอบรมนั้นได้ผล ผ่านการวัด KPI (Key Performance Indicator) ของคนในองค์กร เช่น ให้พนักงานเข้าทำทดสอบการทำฟิชชิง (Phishing) 

อีกส่วนหนึ่งคือ การตั้งมาตรฐานด้านความปลอดภัยกับองค์กร เช่น การกำหนดให้พนักงานต้องเปลี่ยนรหัสผ่าน (Password) ทุก 3 เดือน พร้อมสร้างความเข้าใจกับพนักงานถึงความสำคัญของการเปลี่ยนรหัสผ่านว่าจะช่วยรักษาความปลอดภัยให้องค์กรได้อย่างไร 

จุดต่างเทรนด์ไมโครเหนือคู่แข่ง

ปิยธิดา มองว่าสำหรับจุดต่างที่เทรนด์ไมโครมีคือ เราเป็นอันดับ 1 ในมุมของ Zero-day Attack จากทั่วโลกที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดขององค์กรที่ให้บริการด้านไอทีซีเคียวริตี้ ซึ่งจะต้องรู้ความเคลื่อนไหวต่างๆ ก่อน ส่วนจุดเด่นที่สำคัญคือเทคโนโลยีของเทรนด์ไมโครตอบโจทย์กับปัญหาของลูกค้า อะไรเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และจุดแข็งที่เราให้ลูกค้าคือ SaaS ที่รวมเอาโซลูชั่นป้องกันการโจมตีเข้าไว้ด้วยกัน ลูกค้าไม่ต้องลงทุนหลายขั้นตอนในการใช้โซลูชั่น ทั้งนี้กลุ่มสินค้าไฮไลต์ ได้แก่ Endpoint Security ,Cloud One และNetwork One 

“มองว่าเทรนด์ไมโครไม่ใช่สาวสวยเซ็กซี่เราไม่ใช่เซ็กซี่เหมือนเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพราะเทคโนโลยีใหม่เข้ามาไม่นานก็จากไปแต่ว่าเทรนด์ไมโครมีความไม่จากไปไหนดังนั้นแน่ใจได้ว่าเราไม่ทิ้งลูกค้าแน่นอนส่วนตัวแล้วการสร้างทีมไทยแลนด์ขึ้นมาแบบครอบครัวที่ต้องโตไปด้วยกันอยากให้ทุกคนได้โอกาสเหมือนที่ตัวเองเคยได้จนถึงวันที่เติบโต”

อศินา พรวศิน – สัมภาษณ์
นัจกร สุทธิมาศ – เรียบเรียง

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
0ผู้ติดตามติดตาม

Lastest News

โตชิบ้า ยืนยัน ข่าวขายกิจการในต่างประเทศ ไม่กระทบกับการดำเนินธุรกิจในไทย

บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ ส่งจดหมายชี้แจง กรณีที่มีข่าวจากสำนักข่าวต่าง ๆ ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและทั่วโลก เกี่ยวกับ “บริษัท โตชิบา คอร์ปอเรชัน จำกัด ปิดดีล ขายกิจการมูลค่า 2 ล้านล้านเยน

SCB 10X เปิดเวที Hackathon เฟ้นหาทีมนักพัฒนา ขับเคลื่อนนวัตกรรมด้วยบล็อกเชน

เอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) เปิดเวที “BANGKOK BLOCKATHON 2023” ภายใต้แนวคิด “Blockchain for the Next Billion Users”

GRAMMY x RS ตั้งบริษัทร่วมทุน เตรียมจัด 3 คอนเสิร์ตใหญ่ ก.ค.- ต.ค. นี้ เมืองทองธานี

GMM MUSIC และ RS MUSIC ประกาศจัดตั้ง กิจการร่วมค้าอะครอสเดอะยูนิเวิร์ส (Across The Universe Joint Venture) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมจัดซีรีส์คอนเสิร์ตครั้งประวัติศาสตร์

AWS เชื่อมั่นตลาดคลาวด์พุ่งไม่หยุด เล็งเติบโตต่อเนื่อง ล่าสุดส่ง ‘Lift’ ลุย SMB

อัตราการเติบโตของคลาวด์ในประเทศไทย ปี 2023 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นกว่า 30% AWS เชื่อมั่นแผนรับมือที่ดำเนินการมาต่อเนื่อง ทั้งเพิ่มคู่ค้า จัดทีมดูแลลูกค้าเฉพาะกลุ่ม

Blendata เปิดบริการ Analytics as a Service ในรูปแบบ Pay Per Use

เบลนเดต้า (Blendata) เปิดตัวบริการใหม่ Analytics as a Service บริการวิเคราะห์ข้อมูลครบวงจร รองรับทุกความต้องการด้าน Data Analytics ในรูปแบบการคิดค่าบริการตามการใช้งานจริง

เซ็นทรัลพัฒนา ผนึก WeChat Pay จัดแคมเปญใหญ่ ต้อนรับนักท่องเที่ยวจีน

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผนึก WeChat Pay ผู้ให้บริการ E-Wallet รายใหญ่จากประเทศจีน มอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สะดวก รวดเร็ว

ดีป้า จับมือพันธมิตร เปิดตัว Tech Thailand แพลตฟอร์มชุมชนคนสายเทค

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า ร่วมกับ บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด และ บริษัท มิสเตอร์ฟ็อกซ์ จำกัด ร่วมเปิดตัว Tech Thailand

ธ.กรุงเทพ – AIS เปิดตัวบัตรเดบิต “Be1st Digital AIS POINTS” ยิ่งใช้ ยิ่งได้พ๊อยส์

ธนาคารกรุงเทพ ร่วมกับ AIS เปิดตัว Be1st Digital AIS POINTS บัตรเดบิตที่จะมาพลิกโฉมประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์ของลูกค้า ด้วยสิทธิพิเศษจากคะแนนสะสมของ AIS

กสิกรไทย x ธนาคารแมสเปี้ยน เปิดตัว QRIS – QR Code Payment

ธนาคารกสิกรไทยเปิดตัวบริการ QRIS ระบบชำระค่าสินค้าและบริการที่ร้านค้าของธนาคารแมสเปี้ยนเป็นบริการแรก หลังเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นรวมเป็น 67.5%

CP LAND แต่งตั้ง กีรติ ศตะสุข นั่งเก้าอี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

บริษัทซี.พี. แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ CP LAND ประกาศแต่งตั้ง กีรติ ศตะสุข ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ (CSO) ขึ้นดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO)

MUST READ

Google โชว์เคส Google Cloud ส่งมอบประสบการณ์การเดินทางแบบดิจิทัลได้อย่างไร

Google เผยข้อมูลเชิงลึก และโอกาสที่ภาคธุรกิจจะใช้ประโยชน์จากดิจิทัลออนไลน์ เพื่อพัฒนาการฟื้นตัวและสร้างการเติบโตแก่การอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ

โตชิบ้า ยืนยัน ข่าวขายกิจการในต่างประเทศ ไม่กระทบกับการดำเนินธุรกิจในไทย

บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ ส่งจดหมายชี้แจง กรณีที่มีข่าวจากสำนักข่าวต่าง ๆ ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและทั่วโลก เกี่ยวกับ “บริษัท โตชิบา คอร์ปอเรชัน จำกัด ปิดดีล ขายกิจการมูลค่า 2 ล้านล้านเยน

ทาเคดาและคาโอ ร่วมกับกทม. เปิดตัว โครงการ “โรงเรียนติด Guard ห่างไกลไข้เลือดออก”

ทาเคดาและคาโอ ร่วมกับกทม. จัดโครงการ “Dengue-zero School Project โรงเรียนติด Guard ห่างไกลไข้เลือดออก”

NETA นำเข้า “NETA V” 3,600 คัน ทยอยส่งมอบต้นเดือนพฤษภาคม

บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด นำเข้า NETA V รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% สไตล์ City Car จำนวน 3,600 คัน รองรับการเติบโตของตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย

ไฮฟ์กราวนด์ จับมือ ยนต์ผลดี ลุยโมเดลนาข้าวอัจฉริยะด้วยโดรน

ไฮฟ์กราวนด์ เทค สตาร์ตอัพ สัญชาติไทย จับมือ ยนต์ผลดี บูรณาการเกษตรดั่งเดิมเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่และหลักบริหารธุรกิจ นำร่องโมเดลสาธิตนาข้าวอัจฉริยะ 35 ไร่ ใน ต.หนองกรด จ.นครสวรรค์ ใช้เทคโนโลยีโดรน
Newsletter

สนใจรับข่าวสารจาก The Story Thailand อัพเดตก่อนใคร สมัคร Newsletter กับเราเพียงกรอกอีเมลเท่านั้น