เมื่อเร็วๆ นี้ Google News Initiative ได้ร่วมมือกับโคแฟค (ประเทศไทย) จัดงาน “Trusted Media Summit APAC 2022” เป็นงานที่รวมตัวของบุคคลากรที่ทำงานด้านสื่อมาร่วมปาฐกถาและเสวนาในหัวข้อต่าง ๆ ทั้งแนวคิดในการหาความจริงร่วมกันในยุคดิจิทัล การตรวจสอบข้อมูลข่าวสาร การต่อสู้กับข้อมูลเท็จ และการสร้างความไว้วางใจให้กับประชาชน อาทิ “ทำไมต้องมีสื่อที่สังคมเชื่อใจได้ในโลกที่ไม่น่าไว้ใจ” “เทคโนโลยีกับการเข้าถึงวารสารศาสตร์แห่งความจริง” “การกำกับสื่อร่วมสมัย ควรเป็นเช่นไร” “ต้นทุนและทักษะในการนำเสนอข่าวที่น่าเชื่อถือ” “สื่อที่สังคมเชื่อใจในวิกฤติสังคมไทย ทบทวนและทางออก” รวมไปถึง “เสียงสะท้อนจากภาคสังคมในการแสวงหาความจริงร่วมกัน”
ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย “เพราะในสังคมปัจจุบันมีการปล่อยข้อมูลข่าวสารเท็จมากกว่าในอดีต ทั้งการปล่อยเพื่อนัยยะและเพื่อมุ่งโจมตี ดังนั้น การสร้างความน่าเชื่อถือจึงต้องดำเนินการแบบครบวงจร ตรวจสอบและผลิตด้วยข้อมูลรอบด้านอย่างน่าเชื่อถือ ส่วนในการตรวจสอบข่าวปลอมเทคโนโลยีสามารถช่วยได้เพียงบางส่วน เช่น การตรวจสอบข้อมูลระหว่างส่ง แต่หากเป็นข่าวปลอมตั้งแต่ต้น อัลกอริทึมไม่สามารถช่วยได้ จึงยังต้องใช้มนุษย์ ใช้ความเชื่อใจ”
กระบวนการในการสร้างความไว้วางใจในสังคมไม่ได้มีแต่การใช้เทคโนโลยีเพียงวิธีเดียว แต่สามารถทำได้ผ่านกลไกทั้งของภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม และสื่อมวลชน ขณะที่การสร้างสื่อที่เชื่อถือได้ (Trusted Media) ก็เป็นสิ่งจำเป็นและสามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งแม้กระทั่งโลกออนไลน์ที่ถูกมองว่าหาความน่าเชื่อถือไมได้ก็ยังมีสื่อออนไลน์ที่น่าเชื่อถืออยู่ รวมถึงองค์กรอย่างโคแฟคที่ตรวจสอบข้อมูลจริง-เท็จ
ดร.พณชิต กิตติปัญญางาม ประธานกรรมการผู้จัดการใหญ่ และผู้ร่วมก่อตั้ง ZTRUS กล่าวว่า “เพราะการนำเสนอข่าวไม่ได้มีความจริงพื้นฐานที่วัดได้ ดังนั้น เราจึงสร้างขึ้นมาเองโดยใช้กระบวนการและเทคโนโลยี โดยมีการเก็บข้อมูล ตรวจสอบ จัดเรียง และตรวจสอบอีกครั้ง กล่าวคือความเป็นจริงที่พูดถึงจึงอยู่ที่เราและขึ้นอยู่กับคนที่เราจะส่งให้”
Fact-Checking ในปัจจุบันมีปัญญาประดิษฐ์ที่ช่วยตรวจสอบการปลอมแปลงคลิปวีดีโอ ซึ่งพัฒนาขึ้นมาเพื่อตรวจจับเทคโนโลยี Deep Fake หรือ AI ที่ทำคลิปวีดีโอปลอม ไปจนถึงตรวจสอบว่าบทความที่เผยแพร่มีการลอกเลียนผลงานอันเป็นการละเมิดหรือไม่ หรือ Robo-Reporting เทคโนโลยีที่ช่วยเรียบเรียงประเด็นเมื่อผู้สื่อข่าวต้องการเขียนบทความ เพื่อให้บทความที่ออกมาน่าสนใจและตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการสื่อสาร
นอกจากนั้น ยังมีเทคโนโลยีที่ช่วยตรวจการสะกดคำผิด-ถูก เป็นต้น และเทคโนโลยีทั้งหมดนี้ยังถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามไม่มีอะไรที่มีความแม่นยำ100% ดังนั้นแล้วจึงกลับมาที่คำถามว่ามนุษย์จะยอมรับความไม่แม่นยำได้มากน้อยเพียงใด
ความท้าทายสำคัญอีกประการของสื่อ คือ สื่ออยู่ได้ด้วยระบบเรตติ้ง ซึ่งหากยิ่งมีคนติดตามมากรายได้จากโฆษณาก็เข้ามามาก ซึ่งนำมาสู่การเผยแพร่เนื้อหาที่หมิ่นเหม่
ศ.ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการโทรทัศน์ กล่าวว่า “ที่ผ่านมา กสทช. ได้มีการพูดคุยกับองค์กรวิชาชีพสื่อในแนวทางร่วมกันกำกับดูแลมากขึ้น พยายามลดช่องว่างระหว่างกัน และเร็วๆ นี้ กสทช. จะมีการประกาศฉบับใหม่ ว่าด้วยการส่งเสริมเนื้อหาที่มีคุณภาพและเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ก็ต้องถามว่าสื่อไทยให้คำนิยามของคุณค่าผ่านเนื้อหาที่จะส่งไปสู่ประชาชนอย่างไร นิยามของคุณค่าสื่อคืออะไร ซึ่ง กสทช. พร้อมจะทำงานกำกับดูแลร่วมกันซึ่งเป็นโมเดลที่เรามองไว้”
กิตติ สิงหาปัด ผู้ประกาศข่าว รายการข่าว 3 มิติ กล่าวว่า “การนำเสนอข่าวที่ไม่น่าเชื่อถือทำให้เราสูญเสียทรัพยากรนักข่าวโดยไม่สร้างสรรค์ ซึ่งการจะเป็นนักข่าวและนำเสนอข่าวที่น่าเชื่อถือได้นั้นต้องเริ่มจากนักข่าว ซึ่งมีต้นทุนสำคัญมาจากจิตวิญญาณของคนที่ทำอาชีพนี้”
ภายในงานนอกจากสื่อมวลชนจากสำนักข่าวหลักต่างๆ อาทิ Thai PBS และ สำนักข่าวไทย อสมท. (MCOT) รวมถึงนักวิชาการจากภาคส่วนต่างๆ แล้ว ยังมีเสียงสะท้อนจากสื่อมวลชนท้องถิ่นและภาคสังคมมาร่วมพูดคุยในการแสวงหาความจริงร่วมกันอีกด้วย อาทิ ชุมชนหนองหญ้าไซ มูลนิธิสถาบันการจัดการวิถีพุทธเพื่อสุขและสันติ (สกพ.) เครือข่ายสื่อมุสลิม สถาบันครอบครัวเข้มแข็งจังหวัดพะเยา
อนึ่ง เพื่อการพัฒนาการรายงานข่าวและนำเสนอข่าวสารให้ดียิ่งขึ้น Google News Initiative มีหลักสูตรต่าง ๆ สำหรับจัดอบรมหลักสูตรที่เป็นประโยชน์ เพื่อถ่ายทอดให้กับผู้สื่อข่าวและบุคลากรในสำนักข่าวโดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยมีรายละเอียดหลักสูตรดังนี้
1) หลักสูตรการใช้เครื่องมือดิจิทัล (Digital Tools for Journalism): การใช้เครื่องมือ Google ในการค้นหาข้อมูลขั้นสูง สำหรับใช้ในการค้นหาข้อมูลประกอบการรายงานข่าว อาทิ Google Advanced Search, Pinpoint, Google Drive, Google Maps และ Google Earth
2) หลักสูตรการตรวจสอบยืนยันข้อเท็จจริง (Verification): การใช้เครื่องมือดิจิทัลสำหรับการตรวจสอบ และยืนยันที่มาของข้อมูล อาทิ การยืนยันข้อมูลจากสื่อโซเชียล การตรวจสอบตัวตนของแหล่งข่าว การใช้เครื่องมือตรวจสอบที่มาของภาพ คลิปวีดีโอ การยืนยันเวลาและสถานที่เกิดเหตุจากภาพและคลิปวีดีโอ
3) หลักสูตรการวิเคราะห์ข้อมูลบน Google Trends: วิเคราะห์ความนิยมในการค้นหาข้อมูลของผู้ใช้งาน Google ว่านิยมค้นหาอะไร นำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์เพื่อใช้เป็นประเด็นในการนำเสนอข่าว และตรวจสอบความนิยมต่อประเด็น หรือบุคคลที่ประชาชนสนใจในช่วงเวลาต่าง ๆ