ก่อนหน้านี้ ผลิตภัณฑ์ต่างพยายาม นำความชื่นชอบของผู้บริโภค มาทำการตลาด เช่น มิวสิค สปอร์ต เพื่อสร้าง Brand Engagement การมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ เพราะเชื่อว่า จะเกิดทัศนคติในเชิงบวกต่อแบรนด์ จากที่ไม่เคยเป็นลูกค้าก็จะ เริ่มเป็นลูกค้า และจากลูกค้าขาจร ก็จะกลายเป็นลูกค้าขาประจำ จนในที่สุดจะอยากบอกต่อให้คนอื่น ๆ มาซื้อด้วย
ศิลปะ (Art) ถูกนำมาทำการตลาด เช่นกัน โดยการนำศิลปะเข้ามาช่วยในการทำการตลาด เป็นเครื่องมือที่ช่วยเชื่อมแบรนด์กับลุ่มเป้าหมายเข้าด้วยกัน ซึ่งปกติ ศิลปะถูกแฝงไว้ในผลิตภัณฑ์หรือบริการ ตั้งแต่เรื่องการออกแบบชื่อผลิตภัณฑ์ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ รวมถึงการใช้ลายเส้นและสี ซึ่งเชื่อว่ามีอิทธิพลต่อการซื้อสินค้า ตามที่ผลวิจัยของ WebFX ระบุว่า ผู้บริโภคเกือบ 85% ระบุว่าสี เป็นสาเหตุหลักที่ตัดสินใจซื้อสินค้า
ปกติคนเราจะซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการ จาก Functional Benefit คือ คุณค่าหรือประโยชน์ทางด้านกายภาพ เป็นการตอบสนองความต้องการ (Needs) ของผู้บริโภค แต่ถ้าหากผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีความแตกต่างด้านประโยชน์ เหมือนกันกับคู่แข่ง จนไม่สามารถหาความแตกต่างได้ สิ่งที่แบรนด์ต้องทำคือหาความแตกต่างให้ได้ Emotional Benefits จึงถูกนำมาสร้างความแตกต่างทางคุณค่า ให้ผลิตภัณฑ์หรือบริการ ซึ่ง ศิลปะและงานดีไซน์ ถือเป็น Emotional Benefits อย่างหนึ่ง
น้ำดื่มสปริงเคิล เป็นแบรนด์แรก ๆ ที่ สร้างสรรค์ Art Marketing จากการ Think out of the box ต้องการเปลี่ยนฉลากผลิตภัณฑ์น้ำดื่มทั่วไป ให้กลายเป็น พื้นที่สร้างสรรค์ จนเป็น talk of the town เริ่มจากปี 2561 มีแนวคิดการนำ Art Marketing มาใช้เป็น Sprinkle Unlimited Inspiration และสร้างสรรค์ธีมประจำแต่ละเดือน เช่น กุมภาพันธ์ – Blossom me, เมษายน – Blissful Summer, มิถุนายน – Mona Lisa Art Collection, กรกฎาคม – Van Gogh Art Collection, สิงหาคม – De Stijl Art Collection, ตุลาคม – Autumn, ธันวาคม – Black & White เพื่อให้ผู้บริโภคซื้อและสะสมโดยต้องการสร้างอารมณ์ผู้บริโภคเหมือนซื้อน้ำหอมเพราะขวดสวยก่อน ค่อยดูผลิตภัณฑ์ด้านใน
เดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นเดือนแห่งความรัก ได้การร่วมกับคุณเอิ้น-ศริญญา ลิมป์ทองทิพย์ กราฟิกดีไซเนอร์แถวหน้าของเมืองไทยที่โดดเด่นในเรื่องของการใช้สี เจ้าของแบรนด์ SRINLIM แบรนด์สินค้าตกแต่งบ้าน มาออกแบบบรรจุภัณฑ์สปริงเคิล” ซีรีส์สื่อสารในเชิงอารมณ์ (Emotional) 5 สีกับคอลเลกชั่น “BLOSSOM ME” ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากดอกไม้
เดือนกรกฎาคม น้ำดื่ม Sprinkle Unlimited Inspiration ชุด” Art Collections” เป็น Pop Culture ART ของศิลปินผู้หญิง ที่ชื่อ Aja Kusick ได้สร้างสรรค์ฉลากขวดน้ำ ในธีม “The Starry Night” ราตรีประดับดาว ที่นำเสนอสีสันของท้องฟ้าและแสงดาวยามค่ำคืน โดยใช้สไตล์ฝีแปรงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของศิลปิน วินเซนต์ แวนโก๊ะ มาสร้างสรรค์งานบนฉลากขวดสปริงเคิล
ช่วงหลัง สปริงเคิล เปลี่ยนแนว นำภาพยนตร์มาใช้ในการออกแบบบรรจุภัณฑ์ เช่น Star War, การ์ตูนอนิเมะอย่างเรื่อง ‘One Piece’ ทุกคอลเลกชั่นครั้งเรียกเสียงฮือฮาให้นักสะสมได้ดี
แบรนด์ น้ำแร่เพอร์ร่า ก็เป็นอีกแบรนด์ที่พยายามสร้างสรรค์ น้ำแร่ให้แตกต่างจากแบรนด์อื่นในท้องตลาด ด้วยการวางตำแหน่งแบรนด์เป็น Fashion Brand เริ่มจาก ปี 2559 เพอร์ร่าเริ่มทำ Limited Edition ด้วยแคมเปญ“The Woman Effect” คุณค่าดี ๆ ของผู้หญิง โดยดึง 4 ไทยดีไซน์เนอร์ชั้นนำ มานำเสนอความอ่อนหวาน ความเข้มแข็ง ความน่าค้นหา และความช่างเลือก ทั้ง หมูอาซาว่า พลพัฒน์ อัศวะประภา เจ้าของแบรนด์ ASAVA , โรจน์-ภูวภวิศ กฤตพลนารา ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์ ISSUE, ปฏิญญา เกี่ยวข้อง เจ้าของแบรนด์ PATINYA และ ปุ้น-ชนาภา ตรีรัตนชาติ จากแบรนด์ IRADA มาออกแบบ
แพ็กเกจจิ้งลิมิเต็ด สามารถสร้างยอดขายให้เพอร์ร่า เติบโตแบบก้าวกระโดด จากเดิมที่เติบโตประมาณปีละ 8-10% พุ่งขึ้นเป็น 38-40% ซึ่งขวดน้ำแร่ที่เป็นลิมิเต็ด เอ็ดดิชั่น จะผลิตประมาณ 4 ล้านขวด ในช่วง 2-3 เดือน ดังนั้นจึงมีความร่วมมือกับศิลปิน คิดค้นคอลเลกชั่นพิเศษทุกปี
ในปี 2561 ร่วมกับศิลปินระดับอินเตอร์เนชั่นแนลอย่าง “จี๊ป–ภาสินี คงเดชะกุล” ผู้ก่อตั้งโรงเรียนและสตูดิโอศิลปะ The Factory Studio & Art House และเคยดีไซน์ฉลากคอลเล็กชั่นพิเศษ Louis Vuitton และ Rimowa สรรค์สร้างฉลากขวดด้วยแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ ผ่านมุมมองที่สวยงามทั้ง 3 ฤดูกาล
ในปี 2562 ซึ่งถือเป็นเกียรติและความภูมิใจอย่างสูงสุดของน้ำแร่เพอร์ร่า ที่ได้มีการร่วมมือกับแบรนด์แฟชั่น Sirivannavari Bangkok ดีไซน์ฉลากลวดลาย คอลเล็กชั่นพิเศษ 3 ดีไซน์ ผ่านการผสมผสานสัญลักษณ์ S นกยูง และ บทกวี
ปี 2563 ร่วมมือกับ “Jennifer Bouron” นักออกแบบและนักวาดภาพประกอบชื่อดังชาวฝรั่งเศส ที่มีเอกลักษณ์และสไตล์อันโดดเด่น มีผลงานออกแบบร่วมกับแบรนด์ชั้นนำของยุโรปมากมาย เช่น Lazzari, Lagom design ฯลฯ มาออกแบบคอลเลกชั่นพิเศษ Little Happiness Collection 2020
ปลายปี 2563 เปิดตัว แบรนด์แอมบาสเดอร์ ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต ตัวแม่แห่งวงการแฟชั่นไทย พร้อม 6 ดีไซน์เนอร์คู่ใจ Kloset, Vatanika, Tohns, Theatre, Pony Stone และ Janesuda ทำแคมเปญ “Purra X Chompoo Araya” ในการสร้างสรรค์ฉลากพิเศษ 6 แบบ
ในขณะที่แคมเปญการสื่อสารของน้ำดื่มคริสตัล ก็มีการนำชิมลางศิลปิน“ครูโต” ม.ล.จิราธร จิรประวัติ และหลานชาย จิระ จิรประวัติ ณ อยุธยา ศิลปิน 2 เจเนอเรชัน ได้ออกแบบศิลปะสไตล์ป๊อบอาร์ตสุดสร้างสรรค์ สุดคิ้วต์ 3 ดีไซน์ เป็นฉลากขวดน้ำผลิตจำหน่ายแบบ Limited Edition เพียง 5,000 ขวด ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้บริโภคซื้อเก็บสะสม ทำให้ฉลากขวดน้ำดื่มรุ่นนี้หมดในระยะเวลาอันรวดเร็ว
ปลายปี 2563 น้ำดื่มคริสตัล ต่อยอดการสนับสนุนงานบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2020 (BAB) จับมือคุณยุรี เกนสาคู ศิลปินคลื่นลูกใหม่ของวงการศิลปะร่วมสมัย ร่วมกันสร้างสรรค์ ฉลากบรรจุภัณฑ์คริสตัลเวอร์ชั่นใหม่ Crystal x Yuree 6 ดีไซน์สุดโดน ภายใต้แนวคิด Art for Life เพื่อสร้างคุณภาพสู่ทุกชีวิต จะมี “โกกิ จัง” นางเงือกชุบแป้งทอด วาฬยักษ์ใหญ่ใจดี พะยูนคู่หูแม่ลูก เต่าทะเลนักว่ายน้ำตัวย นกกระเรียนมงกุฎแดงผู้รักใจเดียว แพนด้าสายกิน และกวางสาวหล่าหรือเสาหลาที่ได้ชื่อว่าเป็นยูนิคอร์นแห่งเอเชีย
ค่ายสิงห์ ยังร่วมมือกับ ศิลปินช่างสักจากสหรัฐอเมริกา Mister Cartoon (มิสเตอร์ การ์ตูน) มาร่วม Collaboration สร้างสรรค์ศิลปะลายสัก บนฉลากแบบ Limited Edition ของ โซดาสิงห์ 4 ดีไซน์ HIPHOP, รถ LOW RIDER, ศิลปะและความสงบสุข ภายใต้ แคมเปญ “My Faith Will Never Fade ซ่าตัวจริงไม่มีวันจาง”
ใครเลยจะนึกว่า ศิลปะบนฉลากขวดผลิตภัณฑ์ ที่สร้าง Emotional Benefit จะมีส่วนช่วยให้แบรนด์ประสบความสำเร็จ ถึงขนาดผู้บริโภคบางกลุ่มซื้อสินค้าแต่ไม่บริโภค เก็บวเป็นคอลเลกชัน
