LINE MAN Wongnai จับมือ LINE Thailand ซื้อหุ้น Rabbit LINE Pay โดยการซื้อหุ้นในครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 2 ของปี พ.ศ.2566 หลังจากซื้อกิจการ FoodStory โดยมี LINE MAN Wongnaiเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ การเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของ Rabbit LINE Pay ในครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอว์สำคัญที่จะเข้ามาช่วยในการส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจ
Rabbit LINE Pay เติมเต็ม ECO SYSTEM
ยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า Rabbit LINE Pay เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดที่จะมาอำนวยความสะดวกให้กับบริการต่างๆของ LINE MAN WONGNAI รวมไปถึงการทำธุรกรรมของทาง LINE ทำให้ในส่วนของการทำธุรกรรมต่าง ๆ ง่ายขึ้น ครบถ้วนมากขึ้น โดยที่ธุรกิจอื่น ๆ ที่เชื่อมต่อกับ Rabbit Line Pay อยู่แล้วก็ยังคงเชื่อมต่อต่อไป แต่จะมีการเสริมด้วยธุรกิจของ LINE MAN Wongnai (ซึ่งเป็นบริษัทเทคสตาร์ตอัพที่มีมูลค่าบริษัทมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังการระดมทุนซีรีส์บีที่นำโดย GIC และ LINE บริษัทตั้งเป้าสู่การเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซด้านบริการครบวงจร ได้แก่ ส่งอาหารและสินค้า แท็กซี่ เมสเซนเจอร์ รีวิวสำหรับธุรกิจท้องถิ่น และโซลูชันสำหรับร้านอาหาร บริษัทขับเคลื่อนโดยพนักงานกว่า 1,000 คน) และ LINE Group เช่น LINE SHOPPING, LINE VOOM, LINE STICKERS, LINE MELODY, LINE TODAY, LINE OPENCHAT, LINE for Business and LINE Official Account, LINE MAN, LINE GAME, LINE WEBTOON, LINE BK และ Rabbit LINE PAY ทั้งนี้ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน (MAU) ในไทยรวม 54 ล้านคน (ข้อมูล ณ มิถุนายน 2566) เพิ่มเข้าไปอีกมากมาย
ดร.พิเชษฐ์ ฤกษ์ปรีชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE Thailandกล่าวว่า LINE มีหลายจิ๊กซอว์ในระบบนิเวศมีการให้บริการที่หลากหลาย และในเกือบทุกการให้บริการของ LINE จะมีการทำธุรกรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยทางส่วนใหญ่จะพัฒนาขึ้นไปในเรื่องของผู้ใช้บริการเป็นหลัก ดังนั้นการซื้อหุ้น Rabbit LINE Pay จะมีส่วนช่วยให้การทำงานร่วมกันลงตัวมากขึ้น
ตลาด E Payment ส่งผลต่อโอกาสเติบโตของ Rabbit LINE Pay
ยอด ชินสุภัคกุล กล่าวว่า ณ ตอนนี้ภาพรวม e-payment ในประเทศไทย เกิดการเปลี่ยนแปลงและเติบโตขึ้นเยอะมากจากเมื่อก่อน และกลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวัน จึงเป็นโอกาสที่จะทำให้ Rabbit LINE Pay เกิดการเติบโตมากยิ่งขึ้นในตลาด e-payment
นอกจากนี้จากการเติบโตของ Rabbit LINE Pay ในตลาด e-payment ไม่ใช่แค่ประโยชน์ต่อธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่ยังสร้างประโยชน์ให้กับผู้บริโภคอีกด้วย
ณ ตอนนี้ตลาด e-payment มีขนาดที่ค่อนข้างกว้างมาก ตลาด e-payment ในประเทศไทยมีลักษณะเด่นอยู่ 2 สิ่ง คือ
1. พร้อมเพย์ เป็นหนึ่งในช่องทางการทำธุรกรรมออนไลน์ที่ดี ทำให้หลาย ๆ การทำธุรกิจ open มากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็สร้างความสงสัยและข้อข้องใจให้กับผู้ใช้บริการในส่วนของค่าธรรมเนียมที่อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ปัญหานี้จึงเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของวงการธุรกรรมออนไลน์ทั้งหมด
2. เป๋าตัง มีความคล้ายคลึงกับพร้อมเพย์ที่เป็นทั้งโอกาสและความท้าทาย มี government wallet แต่ก็ยังคงสร้างข้อสงสัยว่าในอนาคตจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหนบ้าง แต่ด้วยสวัสดิการเหล่านี้จากทางภาครัฐ ส่งผลการใช้ mobile payment ในประเทศไทยเติบโตอย่างรวดเร็วในรอบหลายปีที่ผ่านมา
ซึ่งในตอนนี้แนวโน้มของตลาด e-payment คาดว่าจะมีแนวโน้มในทางที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีการหันมาปรับใช้ธุรกรรมดิจิทัลมากขึ้น ถึงแม้จะไม่สามารถคาดการแนวโน้มของจำนวนผู้ใช้งาน e-payment ในอนาคตได้ แต่คาดว่าตลาด e-payment คงไม่มีแนวโน้มที่จะเล็กลงกว่าเดิม
การเชื่อมระหว่าง LINE MAN Wongnai กับ Rabbit LINE Pay ส่งเสริมการเติบโตทางธุรกิจ
ก่อนหน้านี้ LINE MAN มีการเชื่อมเข้ากับ Rabbit LINE Pay อยู่แล้ว แต่หลังจากการเข้าซื้อหุ้นของ Rabbit LINE Pay ในครั้งนี้ จะทำให้การเชื่อมต่อแนบแน่นมากยิ่งขึ้น และส่งผลให้เกิดการพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ รวมไปถึงแนวโน้มของธุรกิจและการให้บริการที่ดียิ่งขึ้นในอนาคต
Rabbit LINE Pay (RLP) คือ ผู้ให้บริการระบบการชำระเงินแบบออนไลน์และออฟไลน์ โดยให้บริการครอบคลุมทั้งกระเป๋าเงินดิจิทัล บริการช่องทางชำระเงินที่ง่ายและปลอดภัย สามารถจ่าย โอนเงิน หรือเติมเงิน ที่สามารถใช้ได้กับเครือข่ายระบบขนส่งมวลชน การชำระค่าสินค้าและบริการจากแบรนด์พันธมิตร รวมถึงชำระค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ
ส่วนถ้ามองในเรื่องของ payment option ก่อนหน้านี้ทาง Rabbit LINE Pay จะเน้นไปทางบัตรเครดิต และ wallet มากกว่า ซึ่งในปัจจุบันก็มีการพัฒนามากขึ้น มี option อื่น ๆ มากขึ้น QR code payment และ option ต่าง ๆ ซึ่งทาง LINE MAN Wongnai และ LINE คาดว่าจะมีการปรับปรุงให้ตอบโจทย์ของธุรกิจในแต่ละอุตสาหกรรมได้
นอกจากนี้ สินค้าและบริการของ Rabbit LINE Pay ก่อนและหลังการควบรวมกิจการจะยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่ทาง LINE MAN Wongnai ก็ได้มีการวางแผนอยากจะพัฒนาสินค้าและบริการให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นในอนาคต
โดยการพัฒนาต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นหลังการควบรวม ผลประโยชน์จะไม่ได้อยู่แค่ที่ผู้ใช้เท่านั้น แต่รวมไปถึงร้านค้า และคนขับหรือไรเดอร์ ให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น มี สินค้าและบริการที่ดีขึ้น เพื่อให้ทุก ๆ ฝ่ายได้เติบโตไปพร้อมกัน
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
กระแส “ปังชา” ทำโซเชียลระอุ พูดถึงกว่า 19,000 ข้อความ และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
5G กับการช่วยสร้างเมืองน่าอยู่แบบดิจิทัล (Digital Livable Cities)
