กลุ่มดุสิตธานีขยายธุรกิจโรงแรมสู่ตลาดตะวันออกกลางอย่างต่อเนื่องเผยล่าสุดได้เข้าบริหารโรงแรม “ดุสิตดีทู นาซีม รีสอร์ท จีเบล อักห์ดาร์” ซึ่งเป็นโรงแรมแห่งแรกของเครือดุสิตในประเทศโอมาน ผ่านการลงนามในสัญญากับบริษัทพัฒนาการท่องเที่ยวโอมานซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารของสุลต่านเพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวพร้อมเปิดให้บริการแล้ววันนี้
ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มดุสิตธานี รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสบริหารโรงแรมที่โอมาน ซึ่งโรงแรมแห่งนี้แสดงให้เห็นถึงมรดก วัฒนธรรม และความงดงามของประเทศโอมานในรูปแบบที่โดดเด่นอย่างแท้จริง โดยมีการมอบบริการเต็มรูปแบบตั้งแต่ประสบการณ์สุขภาพแบบองค์รวมและการรับประทานอาหารที่น่าตื่นเต้นไปจนถึงกิจกรรมผจญภัยมากมาย เมื่อการเดินทางเริ่มขึ้นอีกครั้ง ดุสิตดีทู นาซีม รีสอร์ท จีเบล อักห์ดาร์ จะเป็นโรงแรมที่ทำให้วันหยุดพักผ่อนเป็นที่น่าจดจำสำหรับผู้มาเยือนทุกวัยอย่างแน่นอน
สำหรับโรงแรมดุสิตดีทู นาซีม รีสอร์ท จีเบล อักห์ดาร์ รีสอร์ท เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่โดดเด่นภายในอาณาเขตแอดเวนเจอร์ปาร์คแห่งใหม่ของโอมาน ที่มีขนาด 8,000 ตร.ม. ในบริเวณ จีเบล อักห์ดาร์ ห่างจากแกรนด์แคนยอนแห่งตะวันออกกลางเพียง 5 นาที และห่างจากสนามบินนานาชาติมัสกัต 2 ชั่วโมงโดยรถยนต์ โดยภายในโรงแรมประกอบด้วยห้องพักและห้องสวีทที่ตกแต่งอย่างทันสมัยและสวยงามจำนวน 252 ห้อง มีทำเลอยู่บนภูเขาอันเป็นเอกลักษณ์ และมีห้องพักที่กว้างขวางซึ่งผสมผสานอย่างลงตัวกับธรรมชาติโดยรอบ
- บี.กริม เพาเวอร์ ประกาศ 7 ยุทธศาสตร์ สู่ผู้ผลิตพลังงานชั้นนำระดับโลก
- ประกันสังคม พัฒนา แอปพลิเคชัน “KnowQ” สมาร์ทคิวอัฉริยะ
สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ร้านอาหารที่เปิดให้บริการตลอดทั้งวัน ฟิตเนส สระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่ คิดส์คลับ ห้องประชุมที่สามารถรองรับลูกค้าได้ถึง 150 คน และ “น้ำ” สปา ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแผนไทยโบราณ พร้อมการบริการแบบดุสิตเวลเนส ที่นำเสนอแนวคิดใหม่ของการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมเพื่อสานองค์ประกอบความเป็นอยู่ที่ดีให้กับลูกค้าตลอดการเข้าพัก ด้วยการมุ่งเน้นไปที่ความมีชีวิตชีวาทางร่างกายและสุขภาพจิต ผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น การวิ่งบนภูเขา โยคะ พิลาทิส มวยไทย การฝึกสมาธิ และกิจกรรมอื่นๆ ที่ใช้ประโยชน์จากธรรมชาติ ความยั่งยืน และการผจญภัย เพื่อมอบความสนุกสนานและดีต่อสุขภาพทั้งสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก นอกจากนี้ดุสิตยังมอบบริการเสริมอย่าง “ดุสิตแคร์” ที่ออกแบบมาเพื่อมอบความสะดวกสบาย ประสบการณ์ และความคุ้มค่าที่เพิ่มขึ้นในขณะที่เพิ่มความปลอดภัยสูงสุด เช่น การเช็คอินที่ยืดหยุ่น อาหารเช้าทุกเวลา และวิธีการชำระเงินผ่านมือถือ
นอกจากทิวทัศน์อันตระการตาที่สามารถมองเห็นจากห้องพักแล้ว ลูกค้ายังจะได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมบริเวณใกล้เคียงโรงแรม เช่น สวนสนุกแอดเวนเจอร์ที่มีกำหนดจะเปิดให้บริการในช่วงปลายปีนี้ ที่จะนำเสนอความบันเทิงที่น่าตื่นเต้นมากมาย เช่น ซิปไลน์หรือการโหนสลิงที่ทำให้เห็นทิวทัศน์ของหุบเขาโดยรอบ สวนสัตว์ขนาดเล็กและศูนย์วิทยาศาสตร์สำหรับลูกค้ารุ่นเยาว์ นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถเพลินเพลินกับการเดินป่าเพื่อการศึกษา ขี่จักรยาน และทัวร์จักรยานสี่ล้อไปยังป้อมโบราณ ตลาดดั้งเดิม และเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่นอื่นๆ เช่น เมืองประวัติศาสตร์ของนิสซ์วา ที่รู้จักกันในนาม ‘ไข่มุก’ ของศาสนาอิสลาม
ด้านเกอร์ฮาร์ด สตุทซ์ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมดุสิตดีทู นาซีม รีสอร์ท จีเบล อักห์ดาร์ กล่าวว่า การผสมผสานเอกลักษณ์การบริการที่มีเอกลักษณ์อย่างไทยของดุสิตเข้ากับขนบธรรมเนียมและประเพณีท้องถิ่นของโอมาน พร้อมด้วยทำเลที่ตั้งที่โดดเด่นรายล้อมไปด้วยทิวทัศน์อันตระการตาของภูเขาและหุบเขา ทำให้โรงแรมแห่งนี้สามารถมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำอย่างแท้จริง และด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปเยือนยังจะช่วยเอื้อประโยชน์ให้กับชุมชนในวงกว้างอีกด้วย
ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2491 ปัจจุบันดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ กลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศไทย ที่เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจด้านการบริการท่องเที่ยวและโรงแรม ดำเนินกิจการครอบคลุม 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท ธุรกิจการศึกษา ธุรกิจอาหาร ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการต้อนรับ
ธุรกิจหลักของกลุ่มได้แก่ ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ทและวิลล่าหรู ภายใต้ 6 แบรนด์ ได้แก่ ดุสิตธานี, ดุสิตเดวาราณา, ดุสิตดีทู, ดุสิตปริ๊นเซส, อาศัย และอีลิธฮาเวนส์ ในจุดหมายปลายทางชั้นนำกว่า 300 แห่งใน 14 ประเทศทั่วโลก
และธุรกิจการศึกษา ซึ่งประกอบด้วย โรงเรียนสอนประกอบการทำอาหาร วิทยาลัยการโรงแรมทั้งในประเทศไทยและฟิลิปปินส์ ในขณะที่กลุ่มธุรกิจอาหาร ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจให้บริการอื่นๆ เป็นกลุ่มธุรกิจใหม่ที่บริษัทเพิ่งเริ่มกระจายการลงทุนไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตามแผนกลยุทธ์การเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ที่ประกอบด้วย 3 ด้านได้แก่ การสร้างความสมดุล การเติบโต และการกระจายความเสี่ยง
