TH | EN
TH | EN
หน้าแรกLifeTikTok ประกาศระงับให้บริการในฮ่องกง หลังฮ่องกงเตรียมล้วงข้อมูลผู้ใช้งานโซเชียลมีเดีย

TikTok ประกาศระงับให้บริการในฮ่องกง หลังฮ่องกงเตรียมล้วงข้อมูลผู้ใช้งานโซเชียลมีเดีย

สัปดาห์ที่แล้ว เขตบริหารพิเศษฮ่องกง ออกฎหมายเพิ่มอำนาจให้ทางการ หรือ สำนักงานตำรวจเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งานโซเชียลมีเดีย หรือการบล็อกการใช้งาน และสามารถเข้าไปตรวจค้นสำนักงานของผู้ดำเนินธุรกิจสื่อออนไลน์อย่างเช่น เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ กูเกิล รวมถึงสามารถสั่งให้ลบข้อความที่ปรากฎบนสื่อได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีขอหมายศาล ซึ่งหากไม่ปฏิบัติตามจะต้องเจอโทษปรับ 1 แสนดอลลาร์ฮ่องกง หรือ จำคุก 2 ปี

จากกรณีนี้ สื่อออนไลน์ที่มาแรง ไม่แพ้ความนิยมในการใช้งานของทั่วโลกในขณะนี้อย่าง TikTok และเป็นค่ายที่ชาวจีนเป็นเจ้าของด้วย ล่าสุดตัดสินใจประกาศระงับการใช้แอปพลิเคชันที่ฮ่องกงทันที ตัดหนทางไม่ต้องถูกขอเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้งาน

ขณะที่ Telegram ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันแชท ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่อังกฤษ เป็นสื่อออนไลน์เจ้าแรกที่ออกมาแสดงจุดยืนในเรื่องนี้ โดยประกาศยุติการให้ความร่วมมือทางการฮ่องกงชั่วคราวก่อน โดยย้ำถึงสิทธิส่วนบุคคลของผู้ใช้งานในฮ่องกง

ด้านเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ กูเกิล ก็เคลื่อนไหวเหมือนกัน คือ ขอระงับการให้ความร่วมมือก่อน โดยทางเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นเจ้าของทั้ง Messenger, WhatsApp และ Instagram บอกว่าคงต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนด้วย ขณะที่ทวิตเตอร์กับกูเกิล บอกว่าในรายละเอียดของกฎหมายนี้ยังมีความไม่ชัดเจนให้หลาย ๆ จุด

ทั้งนี้เฟซบุ๊กเปิดเผยว่าทางการฮ่องกงทำเรื่องขอข้อมูลผู้ใช้งานของทั้งเฟซบุ๊ก โดยปีที่แล้วทำเรื่องขอ 384 คำขอและปี 2018 ทำเรื่อง 386 คำขอ

ในตอนนี้สื่อออนไลน์คงทำได้เพียงสงวนท่าที แม้ว่าจะไม่เห็นด้วยกับกฎหมาย และคงหาทางไม่ให้ทางการฮ่องกงเอาข้อมูลผู้ใช้งานไปง่าย ๆ เพราะจะกระทบธุรกิจอย่างเลี่ยงไม่ได้แน่นอน

ด้านองค์กรตรวจสอบการเซ็นเซอร์ บอกว่าหากบริษัทสื่อโซเชียลมีเดีย มีท่าทีไม่เห็นด้วยกับกฎหมายนี้ เชื่อว่าทางการจีนและทางการฮ่องกงคงจะใช้วิธีการพูดคุยกับบริษัทเหล่านี้ ในการที่ขอให้เช็นเซอร์ข้อมูล หรือข้อความที่มีความอ่อนไหวและสร้างความแตกแยก ต่อต้านรัฐบาล เองก่อน ซึ่งหากไม่มีข้อความเหล่านี้ปรากฎและสร้างความยุ่งยากให้รัฐบาลก็คงจะไม่เข้าไปยุ่งกับการดำเนินการของสื่อสังคมออนไลน์

คงจะจำภาพภาพการลุกฮือประท้วงต่อต้านรัฐบาลจีนของชาวฮ่องกงเมื่อปีที่แล้ว ปรากฎแทบจะทุกสื่อทั่วโลก สะท้อนการต่อต้าน ความรุนแรง และความยืดเยื้อ จนมีการเปรียบเทียบการประท้วงครั้งนั้นกับประเทศไทยในหลายแง่มุม

โดยการประท้วงในหมู่ชาวฮ่องกง เมื่อปี 2562-2563 สื่อโซเชียลมีเดียเป็นช่องทางสำคัญของการสื่อสารของกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาล

การประท้วงปะทุขึ้น เพราะชาวฮ่องกงไม่พอใจการออกกฎหมายด้านความมั่นคงของฮ่องกง ที่เปิดทางคนหนีคดีจากฮ่องกงเข้าไปในจีน การประท้วงยืดเยื้อยาวนานหลายเดือน โดยที่ตอนแรกไม่รู้ว่าจะยุติลงไป อยู่ ๆ ก็หายเงียบไปจากพื้นที่สื่อ ไม่ใช่เพียงเพราะมาตรการการปราบปรามของรัฐบาล แต่มาเจอการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ทั้งฮ่องกง และจีน หันมาให้ความสำคัญกับการป้องการระบาด

ตอนนั้นผู้ประท้วงคงหวังว่าการประท้วงครั้งใหญ่นี้ จะชนวนเปลี่ยนแปลงโค่นการครอบงำการปกครองฮ่องกงได้ หลังจากฮ่องกงอยู่กลับคืนมาอยู่ใต้ปีกจีนมากว่า 20 ปี ตั้งแต่ปี 1997 ได้ แต่ก็ไม่สำเร็จ

คำสัญญาที่ทางการจีนให้กับกับชาวฮ่องกง ในวันที่อังกฤษคืนฮ่องกงกลับคืนสู่อ้อมอกจีน คือ “เสรีภาพ” ทั้งด้านการเมืองและสังคม ที่ไม่เหมือนกับชาวจีนที่อยู่ใต้กฎเกณฑ์ข้อบังคับจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน

แต่จากฎหมายล่าสุดเพื่อเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้งานโซเชียลมีเดีย จะกลายไฟประท้วงกำลังจะลุกขึ้นอีกครั้งหรือเปล่าก็ไม่รู้ได้ ซึ่งดันไปแตะเรื่อง การแสดงความคิดเห็นที่เป็น “สิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน”

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ