TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessออร์บิกซ์ (orbix) แอปเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลครบวงจรในเครือธนาคารกสิกรไทย ที่มีความน่าเชื่อถือ ใช้งานง่าย และช่วยแก้ปัญหาของลูกค้า

ออร์บิกซ์ (orbix) แอปเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลครบวงจรในเครือธนาคารกสิกรไทย ที่มีความน่าเชื่อถือ ใช้งานง่าย และช่วยแก้ปัญหาของลูกค้า

หลังจากธนาคารกสิกรไทย* จัดตั้งบริษัท ยูนิต้า แคปิทัล จำกัด เข้าซื้อกิจการบริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท ออร์บิกซ์ เทรด จำกัด เพียงไม่ถึงหนึ่งเดือนเต็ม ธนาคารกสิกรไทยเดินหน้าเปิดตัว “ออร์บิกซ์” (orbix) ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) ตั้งเป้าขึ้นเป็น TOP3 ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) ที่เน้นเหรียญคุณภาพ พร้อมปริมาณการซื้อขายและจำนวนผู้ใช้งานภายใน 3 ปี

ชาญวิทย์ รุ่งเรืองลดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออร์บิกซ์ เทรด จำกัด กล่าวว่า ภารกิจหลักของออร์บิกซ์ เทรด คือการสร้างบริการที่มีความมั่นคงปลอดภัยให้กับลูกค้าและการส่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่ง่ายและปลอดภัย ออร์บิกซ์ (orbix) เป็นกระดานเทรดสินทรัพย์ดิจิทัล ที่มุ่งเน้นสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานเมื่อใช้งานออร์บิกซ์ (orbix) รู้สึกไว้ใจได้ สบายใจได้ ว่าสินทรัพย์และบริการต่าง ๆ ที่ได้รับมีการดูแลและปกป้องลูกค้าเป็นอย่างดี 

“เราต้องการเปิดประสบการณ์ใหม่ของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ทั้งง่าย ปลอดภัย น่าเชื่อถือ และฉลาดตอบโจทย์ความต้องการ เราจึงสร้างให้ “ออร์บิกซ์” (orbix) เป็นแอปเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความน่าเชื่อถือ ใช้งานง่าย รวมถึงมีฟีเจอร์ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยแก้ปัญหา (Pain point) ของลูกค้า” ชาญวิทย์ กล่าว

ออร์บิกซ์ (orbix) ต้องการเข้ามาเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นในตลาดที่จะรองรับการเติบโต และมีส่วนในการช่วยผลักดันการพัฒนาสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในไทยมีโอกาสที่จะเติบโตสอดคล้องกับทิศทางการลงทุนตลาดโลก จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พบว่า มูลค่าการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในไทยเดือนตุลาคม 2566 อยู่ที่ประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท ตั้งแต่ต้นปี 2566 เป็นต้นมา สินทรัพย์ดิจิทัลกลุ่มที่ได้รับความนิยมสูงสุดสามารถให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน 

กลยุทธ์หลัก 4 ด้านของออร์บิกซ์ (orbix)

กลยุทธ์ในดำเนินธุรกิจของออร์บิกซ์ (orbix)  มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับ 4 ด้าน ด้านแรก คือ การกำกับดูแลที่ดี (Good Governance) การกำกับดูแล มีกระบวนการต่าง ๆ ที่สอดคล้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของผู้กำกับดูแล ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) หรือธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพราะออร์บิกซ์ (orbix) เป็นบริษัทในเครือธนาคารกสิกรไทยซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับของธปท.อีกชั้นหนึ่ง 

ด้านต่อมาคือ การจัดการความเสี่ยงที่ดี (Risk Management) มีการนำเฟรมเวิร์กที่เป็นมาตรฐานสากลเข้ามาปรับใช้ในกระบวนการทำงานของบริษัท เช่น ISO ที่เกี่ยวกับการดูแลรักษาความปลอดภัยที่เกี่ยวกับสารสนเทศ ISO 27001:2013 หรือ ISO ที่เกี่ยวกับการดูแลข้อมูลส่วนบุคคล ISO 27701:2019 เป็นต้น

การนำการบริหารงานระดับธนาคารเข้ามาปรับใช้ในการบริหารงานภายในออร์บิกซ์ (orbix) ทำให้มั่นใจว่า ออร์บิกซ์ (orbix) จะมีการกำกับดูแลที่ดี มีการบริหารความเสี่ยงที่ดี เพื่อประโยชน์ของลูกค้า 

กลยุทธ์ต่อมา การวางบทบาทออร์บิกซ์ (orbix) เป็นแพลตฟอร์มที่มีความรับผิดชอบต่อลูกค้า (Prudent Product Selection) ตั้งแต่การเป็นกระดานเทรดที่มีหน้าที่พิจารณาว่าเหรียญใดที่จะนำเข้ามาอยู่กระดาน เพื่อให้ลูกค้าเทรดได้ ไม่ได้วางตำแหน่งทางการตลาดว่าจะต้องมีจำนวนเหรียญมากที่สุด แต่จะช่วยคัดเลือกเหรียญที่มีคุณภาพเข้ามาอยู่ในกระดานเทรดเพื่อให้ลูกค้าไว้วางใจ สบายใจได้ว่าเหรียญที่ผ่านการคัดเลือกให้เข้าอยู่กระดานเทรดของออร์บิกซ์ (orbix) เป็นเหรียญที่มีคุณภาพ เป็นความรับผิดชอบต่อลูกค้าในการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ 

แพลตฟอร์มกระดานเทรดมีความปลอดภัยในการใช้งานและมีความน่าเชื่อถือ (reliability) และมีความสเถียร (stability) เพื่อทำให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้งานได้รับความสะดวก ถือเป็นความรับผิดชอบของบริษัทที่สร้างเป็นคุณค่าหลักให้กับลูกค้า

กลยุทธ์สุดท้าย คือ การใช้งานจะต้องมีฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์และใช้งานง่าย (Unique Features & UX/UI) ความเชื่อว่าลูกค้าไม่ได้ซื้อขายเพียงแค่สินทรัพย์ดิจิทัล ในอนาคตจะเริ่มเห็นบริการอื่น ๆ เพิ่มเติม อาทิ ในเครือธนาคารกสิกรไทยมีบริษัท Kubix ที่เป็น ICO Portal ช่วย issuer ในการออกเหรียญ (Token) ต่าง ๆ ซึ่งเปรียบเสมือนตลาดแรก (Primary Market) หลังจากที่ลูกค้าจองซื้อเหรียญในตลาดแรกแล้ว สามารถนำเหรียญนั้นมาเทรดต่อในตลาดรอง หรือที่ออร์บิกซ์ (orbix) ได้ ความเชื่อมโยงลักษณะแบบนี้ ทำให้บริษัทมุ่งสร้าง seamless connectivity ไม่เฉพาะกับออร์บิกซ์ (orbix) เท่านั้น แต่จะสร้างกับคนอื่น ๆ ที่อยู่ในระบบนิเวศ เพื่อทำให้ลูกค้าสะดวกสบายและสามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหล 

“การออกแบบ UX/UI ของแอป orbix ได้ Beacon Interface ซึ่งเป็นนักออกแบบ UX/UI ในเครือ KBTG ที่เคยได้รับรางวัล Red Dot Awards ส่งทีมเข้ามาออกแบบแอปทำให้ลูกค้าใช้งานง่าย” ชาญวิทย์ กล่าว

3 จุดเด่น ของ orbix 

มุ่งเน้นฟีเจอร์ให้ตอบโจทย์ลูกค้าอยู่ 3 ด้านหลัก คือ  

1. ความง่าย (Easy) สัมผัสกับโลกแห่งการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ง่าย ทั้งในเรื่องซื้อ-ขาย-โอนเหรียญ และสมัครใช้งานง่ายได้ด้วยตนเอง ทุกที่ ทุกเวลา ที่ orbix ให้ความสำคัญ ตั้งแต่การออกแบบแอปพลิเคชัน ให้พันธมิตรธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องการออกแบบ UX/UI เข้ามาออกแบบบเพื่อให้ลูกค้าใช้งานง่าย

นอกจาก UX/UI ที่ใช้งานง่ายแล้ว ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ลูกค้าใช้ง่ายสะดวกตั้งแต่ขั้นตอนการสมัครใช้บริการ สำหรับลูกค้าทั่วไปสามารถสมัครใช้งานและยืนยันตัวตนผ่าน NDID และสำหรับลูกค้าธนาคารกสิกรไทย สามารยืนยันตัวตนด้วย K +

การสมัครใช้บริการจะต้องทำการยืนยันตัวตนหรือ eKYC โดยปกติจะต้องทำการยืนยันตัวตนผ่าน NDID ซึ่งแอป orbix นอกจากจะให้ยืนยันตัวตนผ่าน NDID ได้แล้ว ยังให้ลูกค้าสามารถยืนยันตัวตนผ่านแอป KPLUS ได้ ลูกค้าของธนาคารกสิกรไทยและใช้ KPLUS จะสามารถใช้การยืนยันด้วยวิธินี้ ซึ่งข้อดีของการยืนยันตัวตนผ่าน KPLUS คือลูกค้าไม่ต้องเข้าออกแอป orbix แต่เป็นการใช้งานแบบ app-to-app มีการสลับเข้าออกแอปอัตโนมัติระหว่างแอป orbix และ KPLUS ทำให้ประสบการณ์การสมัครใช้บริการลื่นไหลต่อเนื่อง รวดเร็ว มีขั้นตอนที่ลดลง 

“orbix มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะให้บริการการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความมั่นคงปลอดภัยซึ่งเป็นพื้นฐานของธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ทำอย่างไรให้ลูกค้าได้รับบริการที่มีความปลอดภัยเป็นหัวใจที่เราให้ความสำคัญ และเรามุ่งเน้นเรื่องการสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับลูกค้า” ชาญวิทย์ กล่าว

ปัจจุบัน ออร์บิกซ์ (orbix) มีลูกค้า (ที่มาจากการซื้อกิจการ) มีจำนวน 200,000 ราย ทั้งหมดมีการยืนยันตัวตน (eKYC) แล้ว แต่มีทั้งระดับความน่าเชื่อถือของไอเดนทิตี หรือ Identity Assurance Level (IAL) 2.1 และ 2.3 พันธกิจในช่วงแรกนี้คือต้องยกระดับความปลอดภัยในการยืนยันตัวตน (eKYC) ให้เป็น IAL 2.3 

2. ความปลอดภัย (Security) ในการใช้งาน เชื่อว่าลูกค้าที่ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก จึงสร้างฟีเจอร์เพื่อมาตอบโจทย์เรื่องความปลอดภัยในการใช้งานให้กับลูกค้า ฟีเจอร์ Wallet Lock ระบบการล็อกกระเป๋าสองชั้น เป็นเมนูที่สามารถให้ผู้ใช้สามารถเลือกเปิด-ปิด wallet ได้ ช่วงที่ปิด wallet เหรียญจะไม่สามาถรถูกถอนออกไปได้ เป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานได้เพิ่มเติมมากขึ้นอีกชั้นหนึ่ง ซึ่ง orbix เป็นเจ้าแรกที่มีฟีเจอร์นี้ในประเทศไทย 

“Security ความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญในโลกของสินทรัพย์ดิจิทัล เราจึงพัฒนาฟีเจอร์ Wallet Lock ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบการล็อกกระเป๋าสองชั้น เป็นการช่วยป้องกันการถอนเหรียญ โดยลูกค้าสามารถตั้งค่าเปิด-ปิด Wallet Lock ได้ด้วยตนเอง และยังเป็นรายแรกในประเทศไทยที่ยืนยันการถอนเหรียญด้วยการสแกนใบหน้า (Face Scan)” 

3. ความฉลาด (Smart) นักลงทุนต้องการผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุน การมีเครื่องมือที่ช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้ทันทวงที ถูกจังหวะ ถูกเวลามากขึ้น เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ของนักลงทุน oibix มีฟีเจอร์ด้าน smart ที่ชื่อว่า ฟีเจอร์ Price Alert ที่มีความพิเศษ ช่วยให้นักลงทุนไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ ลูกค้าสามารถเลือกตั้งการแจ้งเตือนได้หลายรูปแบบ โดยสามารถเลือกเหรียญและเงื่อนไขที่จะให้ alert ได้ (customization) ตามรูปแบบการเทรดและการใช้งานของแต่ละคน orbix เชื่อว่าฟีเจอร์นี้จะช่วยคืนเวลาในการเฝ้าจอให้กับลูกค้า ตอนนี้สามารถตั้งค่าได้สูงสุด 10 รูปแบบบการเทรด ในอนาคตจะมีเพิ่มมากขึ้น

“Price Alert เปรียบเสมือนเครื่องมือและข้อมูลที่ช่วยตัดสินเรื่องการลงทุนได้อย่างแม่นยำขึ้น ตั้งเตือนราคาที่ใช่ ไม่ต้องเฝ้าจอ ไม่พลาดทุกโอกาสการซื้อขาย โดยสามารถเลือกเหรียญที่ต้องการให้แจ้งเตือนได้ด้วยตนเอง” ชาญวิทย์ กล่าว 

และฟีเจอร์ orbix balance ระบบช่วยคำนวณต้นทุนเหรียญแบบอัตโนมัติ ทำให้รู้กำไรขาดทุนทุกเหรียญ โดยไม่ต้องเสียเวลาคำนวณ เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถบริหารพอร์ต (portfolio) และการซื้อขายเหรียญได้ดีมากขึ้น จะให้บริการภายในเดือนธันวาคม 2566 ฟีเจอร์นี้ช่วยให้นักลงทุนไม่ต้องจดต้นทุนและคำนวณกำไรขาดทุนเองอีกต่อไป ฟีเจอร์นี้จะช่วยบอกกำไร-ขาดทุนของแต่ละเหรียญได้ relatime ทำให้นักลงทุนมีข้อมูลในการตัดสินใจได้ทันท่วงทีมากขึ้นเป็นประโยชน์ให้กับลูกค้า 

ภาพตลาดรวมสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย

จากผลสำรวจในปี 2023 ของ Chain Analysis ประเทศไทยติด Top10 ในการจัดอันดับ Global Digital Asset Adoption Index แสดงให้เห็นว่าสินทรัพย์ดิจิทัลประเทศไทยเป็นตลาดที่มีความน่าสนใจ แต่ละประเทศมีนโยบายการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลแตกต่างกัน บางประเทศอาจจะส่งเสริมด้วยการเปิดเสรี บางประเทศจะต้องมีกระบวนการต่าง ๆ มาควบคุมที่เข้มข้น แต่ในภาพรวมทุกประเทศกำลังอยู่ในช่วงกำลังวางกฎกติกาเรื่องสินทรัพย์ดิจิทัลให้กับผู้ประกอบการและผู้ใช้ให้มีความชัดเจนและสามารถนำไปสู่การใช้งานที่มากขึ้น 

และเริ่มเห็นผู้เล่นระดับใหญ่ระดับโลกเข้ามาเป็นผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลรวมถึงมีผู้เล่นหลายรายที่มาจากฝั่งอุตสาหกรรมการเงินดั่งเดิมเริ่มเข้ามาขออนุญาตการทำธูรกิจเกี่ยวกับคริปโทมากขึ้น จิ๊กซอว์แต่ละชิ้นกำลังเกิดขึ้นและกำลังจะถูกรวมร่างเข้าด้วยกันเป็นภาพใหญ่ และจะสร้างให้เกิดเป็นระบบนิเวศขนาดใหญ่ เกิดการใช้งานที่มากขึ้น 

นอกจากเริ่มเห็นผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาในตลาดแล้วจะเริ่มเห็นการใช้งานใหม่ ๆ (used cases) เข้ามาในตลาดมากขึ้นเช่นกัน เริ่มเห็นความชัดเจนของกรอบกติกาเกี่ยกวับสินทรัพย์ดิจิทัลเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น และปี 2024 จะมีเกิดเหตุการณ์สำคัญ คือ Bitcoin Halving ซึ่งเชื่อว่าปัจจัยทั้งหมดนี้จะช่วยส่งเสริมให้แนวโน้มการขยายตัวของตลาดตลาดรวมสินทรัพย์ดิจิทัลเติบโต เพียงแต่ว่าการเติบโตหลังจากนี้อาจจะมีความแตกต่างจากการเติบโตช่วงที่ผ่านมาที่มีความหวือหวา การเติบโตหลังจากนี้จะไม่หวือหวาเท่าในอดีต เพราะจากการที่มีการออกกฎกติการที่ชัดเจนรัดกุมมากขึ้น การเติบโตของตลาดรวมสินทรัพย์ดิจิทัลจะเป็นการเติบโตของการใช้งานจริง (real used cases) และสร้างให้เกิดความยั่งยืนในการขยายตัวของสินทรัพย์ดิจิทัลที่แท้จริงมากขึ้น

* ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทย เป็นผู้ถือหุ้นบริษัท ยูนิต้า แคปิทัล จำกัด เท่านั้น ซึ่งเป็นบริษัทลูกในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารฯ สำหรับ “orbix” เป็นการให้บริการและบริหารจัดการโดยบริษัท ออร์บิกซ์ เทรด จำกัด 

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ