TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessเซ็นทรัล รีเทล กางแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ทุ่มงบแสนล้านนำเซ็นทรัลสู่เบอร์หนึ่งค้าปลีกแห่งเอเชีย

เซ็นทรัล รีเทล กางแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ทุ่มงบแสนล้านนำเซ็นทรัลสู่เบอร์หนึ่งค้าปลีกแห่งเอเชีย

เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น หรือ ซีอาร์ซี (CRC) กางแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี (2565-2569) จัดงบลงทุนกว่า 100,000 ล้านบาท ยกเครื่องพัฒนาครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจในเครือ ตอบโจยท์โลกค้าปลีกอนาคตในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล พร้อมมองหาลู่ทางสร้างธุรกิจใหม่ ตั้งเป้าดันรายได้ให้เติบโต 2.5 เท่า เดินหน้าขับเคลื่อนสู่การเป็นองค์กรค้าปลีกอัจฉริยะอันดับหนึ่งของภูมิภาคเอเชียอย่างเต็มรูปแบบ ควบคู่ไปกับการเติบโตอย่างยั่งยืน

ญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจค้าปลีกนับจากนี้จะค่อย ๆ ทยอยฟื้นตัวอย่างช้า ๆ และจะมาพร้อมกับการแข่งขันกันอย่างดุเดือด แม้สภาวะเงินเฟ้อจะทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น ฉุดกำลังซื้อให้ลดลง กระนั้น กลุ่มเป้าหมายหลักของ เซ็นทรัล รีเทล ที่เป็นกลุ่มตลาดระดับกลางบนขึ้นไป ยังคงมีกำลังซื้อที่อยู่ในระดับดีอยู่ และสินค้าในหมวดอุปโภคบริโภค อาหาร ตลอดจนสิ่งของเครื่องใช้ที่ต้องใช้ในการทำงานและการดำรงชีวิตยังคงสามารถเติบโตต่อไปได้

สำหรับในช่วงปี 2565-2569 นี้ เซ็นทรัล รีเทล ตั้งเป้าผลประกอบการในปี 2569 จะเติบโตในทุกมิติ ด้านรายได้เติบโต 2.5 เท่า ผลกำไร (EBITDA) เพิ่มขึ้น 3.5 เท่า และ Market Cap เพิ่มขึ้น 2.5 เท่า ด้วยงบลงทุน 100,000 ล้านบาท ด้วยรากฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของ Next-Gen Omni Retail ผนวกกับ CRC Data Ecosystem โดยในงบลงทุนแสนล้านนี้ จะแบ่งเป็นการรุกคืบขยายสาขาให้ครอบคลุมไทยและภูมิภาคอาเซียน 70% ส่วนอีก 30% เป็นการลงทุนในด้านเทคโนโลยี นวัตกรรมและซอฟต์แวร์ต่าง ๆ

ทั้งนี้ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เซ็นทรัล รีเทล มีการปรับตัวครั้งใหญ่ด้วยการเปลี่ยนวัฒนธรรมของธุรกิจค้าปลีกด้วยการเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงจากช่องทางห้างสรรพสินค้า เป็นช่องทางแพลตฟอร์มออนไลน์ที่หลากหลาย ที่เรียกว่า ออมนิแชนแนล (Omnichannel) และเชื่อมโยงฐานข้อมูลให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงเซ็นทรัล รีเทลและได้สัมผัสประสบการณ์แบบไร้พรมแดนและไร้ขีดจำกัด

ช่วงปี 2564 ที่ผ่ามา ยอดขายผ่านออมนิแชนแนลของเซ็นทรัล รีเทลโตถึง 20% ขณะเดียวกันก็เดินหน้าปรับปรุงรีโนเวตพื้นที่ห้างสรรพสินค้า และรุกคืบขยายกิจการค้าปลีกไปในเวียดนาม ตลอดจนลงทุนในนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่นำไปสู่การสร้างระบบนิเวศค้าปลีกอัจฉริยะ หรือ CRC Retailligence Ecosystem เพื่อมุ่งหน้าสู่การเป็นศูนย์กลางชีวิตของผู้คน หรือ Central to Life ต่อไป

ณนน์ ยังใช้โอกาสนี้เปรียบเทียบว่า ผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมาทำให้เซ็นทรัล รีเทล ไม่ต่างอะไรจากเสือที่ถูกล่ามโซ่ไว้ คือไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหน แต่ช่วงเวลาที่ถูกล่ามนี้ เซ็นทรัลก็ไม่ได้อยู่นิ่งเฉยแต่อย่างใด เห็นได้จากการดำเนินการเตรียมความพร้อมในหลาย ๆ ด้าน อย่างการสร้างแพลตฟอร์ม เพื่อให้ตนเองแข็งแรง ซึ่งขณะนี้ โซ่ล่ามที่เรียกว่าโควิดได้หลุดไปแล้ว ดังนั้น เซ็นทรัล รีเทล ต่อจากนี้ก็คือเสือติดปีกที่พร้อมจะโจนทะยานเติบโตต่อไป

สำหรับแผนยุทธศาสตร์ใน 5 ปีข้างหน้านี้ ณนน์อธิบายว่า เป็นแผนที่จัดทำขึ้นตามเทรนด์การเปลี่ยนแปลงสำคัญของโลกที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคและเทคโนโลยี ซึ่งประกอบด้วย 5 เทรนด์หลัก ๆ คือ 

1. A New Consumer Paradigm: พฤติกรรมของผู้บริโภคจะพลิกไปสู่รูปแบบใหม่ทั้งในโลกจริงและโลกเสมือนจริง ซึ่งแตกต่างจากรูปแบบเดิมอย่างสิ้นเชิงและรวดเร็ว และเซ็นทรัลต้องตอบสนองความต้องการและนำสิ่งที่ดีที่สุดมาให้กับลูกค้า

2. Scaling in the Era of Digital Acceleration: โลกจะพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยมีเทคโนโลยีและดิจิทัลเป็นตัวเร่ง ผู้บริโภคจะพึ่งพาเทคโนโลยีดิจิทัลมากขึ้น

3. The Future of Wellness: ผู้บริโภคจะให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้นในการดูแลสุขภาพ และการใช้ชีวิตให้ถูกสุขลักษณะ โดยจะมีเทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวเชื่อม ตอบโจทย์การดำเนินชีวิตได้ครบวงจร

4. Partnership for Inclusive Growth: การร่วมมือกันระหว่างพันธมิตรทางธุรกิจ จะมุ่งเน้นไปที่ความสำเร็จและการเติบโตไปด้วยกัน

5. Sustainability Agenda for All: การมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสังคมและดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน เป็นเรื่องสำคัญของทุกคนและทุกภาคส่วน ความยั่งยืนทั้งในแง่ของคน สังคม และสิ่งแวดล้อม เป็นสิ่งที่ไม่อาจละเลยเพิก เฉยได้อีกต่อไป

เซ็นทรัล รีเทล จะเป็นผู้นำอีกครั้งหนึ่งในการปรับรูปร่างอุตสาหกรรมค้าปลีก (Reshape Retail Industry) ผ่าน CRC Retailligence และมี CRC Data Ecosystem มาเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั้งในโลกจริงและโลกเสมือนจริง

“นำเสนอสินค้าและบริการในรูปแบบ Hyper-Personalization บนฐานข้อมูลที่เจาะลึก Customer Insight ด้วยการมอบประสบการณ์ “Now Moment” ให้กับลูกค้าแบบเรียลไทม์ เข้าไปมีส่วนร่วมและสร้างแรงบันดาลใจให้กับลูกค้า พร้อมมอบประสบการณ์ที่เชื่อมต่อโลกทั้งสองใบผ่าน Next-Gen Omni Retail เราจะเป็นคนที่รู้จักและรู้ใจลูกค้าอย่างดีที่สุดเซ็นทรัล รีเทล จะสร้างโลกใหม่ของค้าปลีกแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน” ญนน์ กล่าว

ในส่วนของแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ณนน์ อธิบายว่า เซ็นทรัล รีเทล จะเดินหน้ายกระดับใน 4 ส่วนหลัก ๆ ประการแรกคือ การยกระยกระดับแพลตฟอร์มออมนิแชนแนล (Reinvent Next-Gen Omni Retail ) ผ่านการเชื่อมโลกจริงและโลกเสมือนจริง โดยใช้เทคโนโลยีและดิจิทัลใหม่ ๆ เพื่อมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งเหนือระดับในทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งฟู้ด แฟชั่น ฮาร์ดไลน์ พร็อพเพอร์ตี รวมถึงกลุ่มธุรกิจใหม่ ๆ ครอบคลุมทั่วประเทศทั้งในไทย เวียดนาม และอิตาลี

ประการต่อมา คือ การเร่งขับเคลื่อนและสร้างการเติบโตในกลุ่มธุรกิจหลักของ เซ็นทรัล รีเทล (Accelerate Core Leadership) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในระดับสากล

สำหรับประการที่สามคือ การเดินหน้าสร้างธุรกิจใหม่ (Build New Growth Pillars) โดยเริ่มจากกลุ่ม Wellness รวมถึงเซ็กเมนต์อื่น ๆ ที่เป็นไปตามเทรนด์ของโลกและความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งที่ผ่านมาเซ็นทรัล รีเทล มีการรุกคืบเข้าไปในธุรกิจด้านพร็อพเพอร์ตีบ้างแล้ว

และประการสุดท้ายคือการขยายธุรกิจภายใต้แนวคิดที่ให้ความสำคัญครอบคลุมทุกฝ่ายว่าต้องสามารถเติบโตไปด้วยกัน (Inclusive Growth) เป็นการสร้างความสำเร็จร่วมกันกับพาร์ทเนอร์เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน (Drive Partnership, Acquisition and Spin Off)

“ตอนนี้ถือเป็นช่วงเวลาฟ้าหลังฝนที่เริ่มมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์กันบ้างแล้ว และเซ็นทรัลก็พร้อมเดินหน้าเสริมสร้างจุดแข็งของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่อาจจะต้องขอให้รัฐบาลกำหนดนโยบายในการบริหารประเทศให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไทยล่าช้ากว่านานาประเทศ โดยสิ่งที่เป็นห่วงในขณะนี้ก็คือการเข้ามาของธุรกิจค้าปลีกออนไลน์และมาร์เก็ตเพลสออนไลน์จากต่างชาติ ที่อาจทำให้ผู้ประกอบการรายเล็กของไทยอยู่ไม่ได้ จึงอยากฝากให้ภาครัฐช่วยเขามากำกับดูแลเพื่อทำให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม” ณนน์กล่าว

ขณะที่ในส่วนของเซ็นทรัล รีเทล ณนน์ย้ำว่า ผลสำเร็จของกลยุทธ์ New Central New Retail ที่ทำให้องค์กรก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของผู้ค้าปลีกออมนิแชนแนลในภูมิภาค (Regional Omnichannel Retailer) ตามเป้าที่ตั้งไว้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ถือเป็นบทพิสูจน์ว่าดีเอ็นเอของ เซ็นทรัล รีเทล ในวันนี้ว่ามีความแข็งแกร่งและเปี่ยมด้วยศักยภาพ

“เราพร้อมที่จะก้าวสู่ CRC Retailligence ที่ยังคงยึดหลักความใส่ใจในสิ่งแวดล้อม สังคม และหลักธรรมาภิบาล (ESG) เป็นสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ มุ่งหวังสร้างผลกระทบที่ดีต่อสังคม พร้อมกับสร้างสรรค์คุณค่าร่วมกันระหว่างธุรกิจของ เซ็นทรัล รีเทล และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ทั้งผู้บริโภค ภาครัฐ พันธมิตร คู่ค้า ตลอดจนพนักงานทุกคน และจากการที่ในช่วงที่ผ่านมาเซ็นทรัลได้ดำเนินการติดอาวุธจนครบมือ ทำให้เรามั่นใจว่าจะสามารถสร้างการเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ในอีก 5 ปี ข้างหน้าได้อย่างแน่นอน” ญนน์ สรุปปิดท้าย

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เซ็นทรัลเวิลด์ ติด Top 10 จาก 30 อันดับ ห้างสรรพสินค้าระดับไฮเอนด์ที่ดีที่สุดของโลก ในปี 2565

เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล เปิดตัว ‘THE BAKER’ พรีเมียมเบเกอรี่ช็อป ขยายฐานกลุ่มมิลเลนเนียล

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ