TH | EN
TH | EN
หน้าแรกStartup“ดีป้า” เคาะ 9 โครงการหนุนดิจิทัลสตาร์ตอัพไทย ติดปีกภาคธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลที่ได้มาตรฐาน

“ดีป้า” เคาะ 9 โครงการหนุนดิจิทัลสตาร์ตอัพไทย ติดปีกภาคธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลที่ได้มาตรฐาน

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล รุกขับเคลื่อนดิจิทัลสตาร์ตอัพไทยต่อเนื่อง อนุมัติ 9 โครงการส่งเสริมสนับสนุนจากดิจิทัลสตาร์ตอัพในเทคโนโลยีเป้าหมาย สานต่อการช่วยเหลือผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ค้า เกษตรกร และชุมชนพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิต รับชีวิตวิถีใหม่ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลที่ได้มาตรฐาน พร้อมประเมินว่าจะสามารถสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 100 ล้านบาท

ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า ในปี 2564 ดีป้า ตั้งเป้าส่งเสริมดิจิทัลสตาร์ตอัพสัญชาติไทย จำนวน 50 ราย ผ่านการสร้างศักยภาพ พร้อมสนับสนุนให้เกิดการเติบโตอย่างมั่นคง สามารถขยายตลาดได้อย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือให้เกิดระบบนิเวศ (Digital Startup Ecosystem) ที่เข้มแข็ง นอกจากนี้ ดีป้า ยังสวมบทตัวกลางในการเชื่อมโยงดิจิทัลสตาร์ตอัพกับผู้ใช้บริการ โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ค้า เกษตรกร และชุมชนในชนบทสามารถเลือกใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่ได้มาตรฐานจากดิจิทัลสตาร์ตอัพที่เชื่อถือได้ ก่อนนำมาประยุกต์ใช้แก้ไขปัญหา เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ รับชีวิตวิถีใหม่ (New Normal)

-NIA ตั้งเป้า 3 ปี ปั้นดีพเทคสตาร์ตอัพรองรับอุตสาหกรรมอวกาศ
-สภาดิจิทัลฯ ผนึกกำลังภาครัฐ ปลดล็อกการเข้าถึงแหล่งทุนของสตาร์ตอัพ-SMEs

ล่าสุด ที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาการส่งเสริมและและสนับสนุน มีมติเห็นชอบ 9 โครงการที่ขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนภายใต้มาตรการช่วยเหลือหรือการอุดหนุนเพื่อการเริ่มต้นธุรกิจอุตสาหกรรมดิจิทัล (depa Digital Startup Fund) หลังผ่านการคัดกรองจากคณะทำงานพิจารณาคัดกรองข้อเสนอโครงการที่ขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนผ่านมาตรการดังกล่าว โดยมี นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ และ นางศันสนีย์ ฮวบสมบูรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในคณะทำงาน

ซึ่งโครงการต่าง ๆ จากเหล่าดิจิทัลสตาร์ตอัพครอบคลุมเทคโนโลยีเป้าหมายของประเทศ เช่น เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา (EdTech) เทคโนโลยีเพื่อการเกษตร (AgTech) เทคโนโลยีเพื่อการท่องเที่ยว (Travel Tech) เทคโนโลยีเพื่อการเงิน (FinTech) เทคโนโลยีเพื่อการบริการภาครัฐ (GovTech) เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ (Health Tech) เทคโนโลยีเพื่อการบริการ (Service Tech) ดิจิทัลคอนเทนต์ (Digital Content) เทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) และการจัดการข้อมูลระบบ (Data Platform) รวมมูลค่าการสนับสนุนกว่า 28.7 ล้านบาท ประกอบด้วย

  • Locanation โดย บริษัท โลเคเนชั่น จำกัด ศูนย์รวมข้อมูลเกี่ยวกับการกักตัวและจองสถานที่กักตัวทางเลือกแห่งประเทศไทย
  • Edsy Education made easy โดย บริษัท เอ็ดดูเคชั่น อีซี่ (ไทยแลนด์) จำกัด แพลตฟอร์มสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ให้กับนักเรียนและคุณครูรุ่นใหม่ผ่านระบบ Zoom
  • findTEMP โดย บริษัท บีทูดับบลิว จำกัด แพลตฟอร์มการให้บริการจัดหาพนักงานพาร์ตไทม์แบบอัตโนมัติ
  • insKru Hr Solution for School โดย บริษัท อินสครู จำกัด แพลตฟอร์มสำหรับคุณครูเพื่อใช้ในการพัฒนาตนเอง และสำหรับโรงเรียนในการพัฒนาครู ผ่านการรับ Feedback จากนักเรียน
  • Ling Data Platform เพื่อการเกษตรดิจิทัล โดย บริษัท แอล ไอ เอ็น จี จำกัด แพลตฟอร์มให้บริการเชื่อมโยงกลุ่มคนในภาคการเกษตร ช่วยวางแผนและทำงานร่วมกันบนข้อมูลแผนที่ผ่านโมบายแอปพลิเคชัน
  • Virtual Clinic at Home โดย บริษัท เฮลท์ แอท โฮม จำกัด แพลตฟอร์มให้บริการ Clinic at Home เพื่อผู้สูงวัย
  • Rentini โดย บริษัท ฮอร์แกไนซ์ จำกัด ระบบปล่อยห้องเช่าและจัดหาผู้เช่า เพื่อช่วยเจ้าของกิจการในการทำตลาดให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย และประหยัดต้นทุนในการบริหารจัดการห้องพัก
  • ZTRUS โดย บริษัท แอ็คโคเมท จำกัด โซลูชันช่วยแปลงข้อมูลเอกสารสำคัญจากรูปแบบกระดาษสู่รูปแบบดิจิทัล
  • Project Timeslice (โปรเจคไทม์สไลซ์) โดย บริษัท ยูอาร์นีค สตูดิโอ จำกัด เกมแนว Rougelike ซึ่งเป็นภาค Spinoff จากเกม Timelie โดยมุ่งเน้นไปที่การวางเนื้อเรื่องพื้นหลังแบบ Sci-fi นำเสนอในรูปแบบแอ็กชัน

“สำหรับโครงการฯ ที่ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯ เป็นไปตามแผนการดำเนินงานที่มุ่งเน้นให้คนไทย ‘think faster and live better’ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ค้า เกษตรกร ชุมชนสามารถพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่ตรงตามความต้องการ ยกระดับคุณภาพชีวิต รับยุค New Normal ปูทางสู่การเป็นเมืองน่าอยู่ เพื่อความอยู่ดีมีสุขของภาคประชาชน พร้อมเดินหน้าสู่เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลต่อไป โดยประเมินว่าจะสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 100 ล้านบาท” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ