TH | EN
TH | EN
หน้าแรกTechnologySAP เผยโฉมนวัตกรรมสุดล้ำ ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าอย่างครอบคลุม

SAP เผยโฉมนวัตกรรมสุดล้ำ ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าอย่างครอบคลุม

เอสเอพี (SAP) ประกาศเปิดตัวนวัตกรรมล่าสุด ส่งมอบคุณค่าและช่วยเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจให้กับลูกค้า โดยยึดหลัก 4 ด้านสำคัญ ได้แก่ ความยืดหยุ่นของซัพพลายเชน ความยั่งยืน การเปลี่ยนแปลงกระบวนการทางธุรกิจ และการพัฒนาแอปพลิเคชันแบบไม่ต้องใช้โค้ด (no-code application) ซึ่งนวัตกรรมทั้งหมดถูกเผยโฉมภายในงาน SAP Sapphire จัดขึ้นที่เมืองออร์แลนโด ประเทศสหรัฐอเมริกา

ผลสำรวจล่าสุดจาก Boston Consulting Group พบว่า บริษัทกว่า 80% หันมาใช้งานโซลูชันดิจิทัลเพื่อจัดการกับความท้าทายทางธุรกิจในปัจจุบัน มีเพียง 30% เท่านั้นที่ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลอย่างแท้จริง

การประกาศเปิดตัวนวัตกรรมเหล่านี้ ถือเป็นการช่วยวางแนวทางให้ลูกค้าเอสเอพีสามารถเร่งเปลี่ยนแปลงเส้นทางการทำงานด้วยโซลูชันบนคลาวด์ ครอบคลุมกระบวนการทางธุรกิจแบบ end-to-end การอัปเดตนวัตกรรมดังกล่าว มีขึ้นในวันแรกของงาน SAP Sapphire ซึ่งเป็นงานแสดงเทคโนโลยีประจำปีสำหรับลูกค้าและพาร์ตเนอร์ระดับโลกของเอสเอพี เชื่อมโยงงานทั้งในรูปแบบออนไลน์ และออนกราวด์ ระหว่างวันที่ 10-12 พฤษภาคม 2565

คริสเตียน ไคลน์ ซีอีโอและสมาชิกคณะกรรมการบริหารของ เอสเอพี เอสอี กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 50 ปีของการดำเนินธุรกิจ การพัฒนาโซลูชันนับเป็นพันธกิจหลักของเอสเอพี ประกอบกับความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอย่างลึกซึ้ง ได้ช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ ทั่วโลกดำเนินงานด้วยศักยภาพสูงสุด จุดยืนของเรามีความแตกต่างและมีเป้าหมายชัดเจนในการช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลกที่รุดหน้าไปอย่างก้าวกระโดด ผ่านการขับเคลื่อน Digital Transformation และระบบการทำงานสู่คลาวด์ เพื่อตอบโจทย์ความท้าทายเร่งด่วนด้านต่างๆ ของลูกค้า ตั้งแต่ความยืดหยุ่นของซัพพลายเชนไปจนถึงด้านความยั่งยืน

เสริมความยืดหยุ่นของระบบซัพพลายเชน

นวัตกรรมของเอสเอพี ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพและความโปร่งใสของระบบซัพพลายเชน เพิ่มความยืดหยุ่นในกระบวนการทำงานและสร้างผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น ภายในงาน เอสเอพีเปิดตัวชุดแอปพลิเคชันใหม่ล่าสุดบนระบบ iOS ที่พลิกโฉมการทำงานในแบบดิจิทัลซัพพลายเชน และเพิ่มขีดความสามารถให้กับพนักงานด้วยเครื่องมือที่ใช้งานง่าย แอปพลิเคชันที่เปิดตัวล่าสุดนี้ได้แก่ SAP Warehouse Operator และ SAP Direct Distribution พร้อมให้บริการและดาวน์โหลดได้ทาง Apple App Store

นอกจากนี้ โซลูชันใหม่ SAP Digital Manufacturing cloud ยังรวบรวมระบบการวิเคราะห์ล่าสุด ผนวกการประมวลผลที่ต้นทาง (Edge computing) ที่ขยับหน่วยประมวลผลมาให้ใกล้กับจุดที่ต้องการใช้งานให้มากที่สุด เข้ากับนวัตกรรมระบบอัตโนมัติสำหรับกระบวนการผลิตแบบ end-to-end ที่ทันสมัย ​​เพื่อช่วยให้ลูกค้าเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ทั้งนี้ เครือข่าย SAP Business Network ยังคงพัฒนาการทำงานอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำการเป็นเครือข่ายธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก และด้วยความร่วมมือเชิงนวัตกรรมกับ Taulia ลูกค้าจะปลดล็อกหรือสามารถเข้าถึงผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นได้จากทุนหมุนเวียนขององค์กร

ขับเคลื่อนความยั่งยืนทางธุรกิจ

กลุ่มผลิตภัณฑ์โซลูชันสนับสนุบงานด้านความยั่งยืนของเอสเอพี ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้บริษัทต่างๆ ขับเคลื่อนแนวคิดที่มีคุณค่าไปสู่การลงมือปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม กับความสามารอันทรงประสิทธิภาพที่ผสานอยู่โซลูชันใหม่ SAP Cloud for Sustainable Enterprises สนับสนุนให้บริษัทต่าง ๆ สร้างสรรค์นวัตกรรมสำหรับการจัดการความยั่งยืนในหลากหลายมิติ รวมถึงโซลูชัน SAP Product Footprint Management ที่ได้ยกระดับการบริการ เพื่อให้ลูกค้าสามารถวางแผนลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ภายในกระบวนการด้านต่างๆ ของการผลิตสินค้า ด้วยการเชื่อมต่อแบบเรียลไทม์ผ่านโซลูชั่น SAP S/4HANA Cloud เช่น ความสามารถในวิเคราะห์ข้อมูลการขนส่งและการเดินทาง

นวัตกรรมผลักดันการเปลี่ยนแปลงกระบวนการทางธุรกิจ

ชุดโซลูชัน RISE with SAP ยังคงได้รับการใช้งานจากลูกค้าทั่วโลก เพื่อออกแบบกระบวนการทางธุรกิจรูปแบบใหม่ ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ใช้งาน ERP ที่คล่องตัวบนระบบคลาวด์ โดยลูกค้าจากบริษัทชั้นนำจะร่วมแชร์เคสการทำ Digital Transformation ในงาน SAP Sapphire เพื่อแบ่งปันแนวทางการใช้งาน RISE with SAP ขับเคลื่อนความสำเร็จทางธุรกิจ

ขณะเดียวกัน พาร์ตเนอร์ได้ร่วมมือกันช่วยให้ลูกค้าปรับใช้นวัตกรรมเหล่านี้ ผ่านแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดและโซลูชันที่ตรงตามความต้องการอย่าง RISE with SAP and SOAR with Accenture พร้อมส่งมอบบริการให้แก่องค์กรธุรกิจสำหรับการเปลี่ยนผ่านบนคลาวด์ อาทิ การจัดการโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ การจัดการแอปพลิเคชัน และบริการสำหรับงาน operation ขณะที่โซลูชัน SAP Service Cloud รุ่นล่าสุด ประกอบด้วย การจัดการเคสแบบไดนามิก ความสามารถในการสร้างแบบจำลองข้อมูล และการผสานรวมกับบริการ Qualtrics® XM Discover และ Microsoft Teams เพื่อปรับปรุงความสามารถขององค์กรในการส่งมอบคุณค่าของแบรนด์ด้วยการมองเห็นภาพรวมทางธุรกิจที่ดีขึ้น ความสามารถที่ครอบคลุมและดำเนินงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ยกระดับนวัตกรรมด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชันแบบ No-Code/Low-Code

SAP AppGyver โซลูชันการพัฒนาแอปพลิเคชั่นระดับองค์กรแบบ No-Code/Low-Code ผสานการทำงานแบบ native integration กับ SAP Service Cloud ที่สามารถใช้งานได้ฟรีภายใต้ Free Tier แอคเค้าท์ ของ SAP Business Technology Platform รวมไปถึงโซลูชั่น SAP Process Automation ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ SAP BTP Free Tier ได้รับการปรับปรุงด้านการจัดการเวิร์กโฟลว์แบบ No-Code และยกระดับการทำงานของระบบอัตโนมัติสำหรับกระบวนการทางธุรกิจ (RPA)

เอสเอพี ยังนำเสนอนวัตกรรมใหม่ที่ขับเคลื่อนโดย SAP AI-powered innovations เพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการทางธุรกิจแบบ end-to-end อย่างชาญฉลาด ไม่ว่าจะเป็น กระบวนการจากการเก็บ lead สู่การชำระเงิน (lead-to-cash), การออกแบบเชื่อมโยงกระบวนการทางธุรกิจตลอดทั้งวงจร (design-to-operate), กระบวนการบริหารคนตลอดทั้งวงจร (recruit-to-retire) และกระบวนการการจัดซื้อจนถึงการจ่ายเงิน (source-to-pay) นอกจากนี้ เอสเอพี ได้เปิดการเข้าถึงโซลูชั่นแบบไม่คิดค่าใช้จ่ายสำหรับนักศึกษา มุ่งสร้างแหล่งการเรียนรู้และเสริมประสบการณ์นอกห้องเรียนในหน้า ‘student zone’ บนพอร์ทัลการเรียนรู้ของ เอสเอพี เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชั่นโดยผู้ใช้งานที่ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค ซึ่ง เอสเอพี ได้เปิดตัวเมนู learning journey ที่ได้รับการปรับปรุง เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่เยาวชน ในการสอบชิง Certification ด้านการพัฒนาแอปพลิเคชั่นแบบ low-code/no-code

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

หัวเว่ยเปิดตัว MatePad 10.4 นิ้ว 2022 และ MateBook 14s พร้อมอัปเกรดครั้งใหญ่ HUAWEI Mobile App Engine Beta Program

T&B เดินหน้าโครงการอาณาจักรโลกเสมือน Translucia Metaverse ผนึกกำลังพันธมิตรระดับโลก สร้างคอนเซ็ปต์จักรวาลสุดล้ำ

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ