TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessKBank Private Banking ชูกลุยทธ์ 3S: ผลักดันเศรษฐกิจให้ก้าวหน้า เปลี่ยนโลกให้ยั่งยืน และสร้างสังคมที่มีความสุข

KBank Private Banking ชูกลุยทธ์ 3S: ผลักดันเศรษฐกิจให้ก้าวหน้า เปลี่ยนโลกให้ยั่งยืน และสร้างสังคมที่มีความสุข

ตลอด 2 ปีที่เกิดการระบาดของโควิด-19 นอกจากจะทำให้เกิด “Disruption” ขึ้นทั่วโลกแล้วยังทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่า “Uncertainties หรือ ความไม่แน่นอน ทั้งนี้ การจัดการวิกฤติการระบาดที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ ส่งผลต่อศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจและผลตอบแทนในตลาดหุ้นที่แตกต่างกัน

ล่าสุด KBank Private Banking ได้ร่วมกับ Lombard Odier และพันธมิตรทางธุรกิจอีก 5 ราย ได้สำรวจความคิดเห็นกลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูง หรือ High-net-worth individual (HNWIs) จำนวน 620 ราย ใน 8 ประเทศ ทั่วเอเชียแปซิฟิก ใน 3 เรื่อง ได้แก่ การลงทุนและเศรษฐกิจโลก ประเด็นด้านครอบครัว และความยั่งยืน 

การศึกษาพบว่า สิ่งหนึ่งที่ชัดเจน คือ HNWIs มีความเชื่อมั่นที่ชัดเจนและมีทัศนคติที่ดีต่อการลงทุนอย่างยั่งยืนและเร่งด่วนในการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจ Net Zero Economy ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์

การลงทุนและเศรษฐกิจโลก: สำหรับนักลงทุนไทยนั้น มีความกังวลต่ออัตราเงินเฟ้อว่าจะเพิ่มสูงขึ้นและตลาดหุ้นอาจจะกําลังร้อนแรงเกินไป แต่พวกเขายังยินดีที่จะรับความเสี่ยงมากขึ้นในการกระจายพอร์ตลงทุน 

HNWIs ไทยเห็นความสำคัญของการกระจายพอร์ตการลงทุนไปยังต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม HNWIs ไทย คาดหวังคำแนะนำที่เหมาะสมจากธนาคารเพื่อมีทางเลือกในการลงทุนในต่างประเทศแบบ Global Offerings และต้องการพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนมาช่วยดูแลพอร์ตมากขึ้นในสถานการณ์เช่นนี้ นอกจากนี้ HNWIs ไทยส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะมอบอํานาจในการบริหารพอร์ตการลงทุนให้กับธนาคารมากขึ้น HNWIs ไทยต้องการคำแนะนำด้านการลงทุนจากธนาคารเพื่อปรับพอร์ตลงทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยเฉพาะในช่วงสภาวะที่ตลาดมีความผันผวนเช่นปัจจุบัน

ความยั่งยืน: จำนวน HNWIs ไทยที่สนับสนุนประเด็นด้านความยั่งยืนมีมากที่สุดในภูมิภาค อีกทั้งยังเชื่อว่าการพิจารณาปัจจัยด้านความยั่งยืนจะช่วยให้ผลตอบแทนเหนือกว่า และได้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนอย่างยั่งยืนในพอร์ตแล้ว และมีแนวโน้มจะเพิ่มสัดส่วนในอนาคตอีก และยังคาดหวังให้ธนาคารเข้ามาช่วยแนะนำในการจัดโครงสร้าง ติดตาม และบริหารจัดการอย่างจริงจังเพื่อสร้างพอร์ตการลงทุนให้มีความยั่งยืน 

ธนาคารเป็นสะพานที่สำคัญที่จะเชื่อมต่อระหว่างนักลงทุนและการลงทุนอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในช่วงที่เทรนด์ด้านการลงทุนอย่างยั่งยืนเพิ่งเริ่มต้น เพราะนักลงทุนแต่ละคนมีความรู้ควาเข้าใจและความตระหนักในเรื่องนี้แตกต่างกัน

ผลการศึกษาที่น่าสนใจ คือ HNWIs ผู้หญิงในประเทศไทยมีความเขื่อมั่นมากกว่าผู้ชายว่าการพิจารณาด้านความยั่งยืนจะนำไปสู่ผลตอบแทนของการลงทุนที่เหนือกว่า นอกจากเรื่องการลงทุนแล้วผู้หญิงมักจะใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากกว่าผู้ชายทั้งเรื่องการตัดสินใจซื้อของและพฤติกรรมการเดินทาง

ด้านครอบครัว: สำหรับมิติของการบริหารจัดการทรัพย์สินครอบครัว มีเพียงครึ่งหนึ่งของนักลงทุนไทยที่คิดทบทวนการจัดโครงสร้างด้านทรัพย์สินครอบครัว และมีเพียง 37% ที่ได้ดำเนินการตามคำแนะนำ ดังนั้นจึงยังมี HNWIs ไทยอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้ตัดสินใจเรื่องการบริหารจัดการทรัพย์สินครอบครัว ดังนั้น ยังมีช่องว่างให้ธนาคารสามารถเข้ามาให้ความรู้ เน้นย้ำประโยชน์และความจำเป็นเร่งด่วนของการบริหารจัดการทรัพย์สินของครอบครัว ซึ่งจุดนี้เป็นทั้งโอกาสที่สำคัญและความมรับผิดชอบของธนาคารในการเข้ามามีบทบาทด้วยการให้คำแนะนำและช่วยผลักดันให้นักลงทุนเริ่มลงมือในเรื่องนี้

ทั้งนี้ การศึกษาความต้องการของ HNWIs พบว่าในแต่ละตลาดต้องอาศัยวิธีการดำเนินการและแนวทางการให้บริการที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นจุดแข็งของการมีพันธมิตรทางธุรกิจระหว่าง Lombard Odier และสถาบันการเงินในแต่ละประเทศ

และแม้ว่า HNWIs ไทยยังไม่มีความเห็นที่เป็นไปในทางเดียวกันว่าตลาดจะไปในทิศทางไหน แต่พวกเขากำลังมองหาโอกาสท่ามกลางบรรยากาศการลงทุนที่ไม่แน่นอนนี้ ทั้งยังต้องการธนาคารที่มีผลิตภัณฑ์จากทั่วโลกมานำเสนอโดยเน้นบริการแบบมอบอำนาจการลงทุนที่ตรงกับความต้องการรายบุคคล 

ธนาคารที่มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและมีความสามารถในการช่วยให้เข้าถึงบริการด้านวาณิชธนกิจเป็นอีกสองปัจจัยสำคัญสำหรับนักลงทุนไทยจะมอบความไว้วางใจ 

Business Strategy ของ KBank Private Banking ปี 2565

จิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ Private Banking Group Head ธนาคารกสิกรไทยกล่าวว่า “ในฐานะที่ KBank Private Banking เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการลงทุน มีการให้นำแนะนำในการจัดการความมั่งคั่งอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการเก็บ การสร้างความเติบโต การส่งต่อ ทรัพย์สินและความมั่งคั่งของลูกค้า HNWIs ทำให้ลูกค้าปราศจากความกังวล โดยการลงทุนเน้นการดูความเสี่ยงให้ลูกค้า”

“นอกจากเรื่องผลตอบแทน เป้าหมายคือสร้าง ความมั่งคั่งที่ปราศจากความกังวล (wealth with happiness) ให้กับลูกค้า นี่คือสิ่งที่เราทำมาตลอด” จิรวัฒน์ กล่าว

การลงทุนสามารถสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติและให้กับโลกได้ กองทุนดี ๆ กรณีศึกษาของกองทุนดี ๆ มีส่วนในการสร้างความก้าวหน้าให้กับเศรษฐกิจ สร้างความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อม และสร้างสังคมที่มีความสุขได้ 

ทั้งหมดขมวดอยู่ใน 3S Strategy ได้แก่ S-Curve การนำการลงทุนใหม่ ๆ (Mega-Trend Theme) ลงทุนในธุรกิจที่จะเปลี่ยนโลก เพื่อสร้างการเติบโตใหม่ S-Curve ตัวใหม่ การลงทุนเรื่อง Sustainability มาสร้างสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น โดยเฉพาะในไทยที่มีความรู้เรื่องนี้น้อย การศึกษาผ่านกองทุนจะมีประโยชน์อย่างยิ่ง และเรื่องของ Sharing การสร้างสังคมที่มีความสุขเป็นสิ่งที่ต้องการทำ

S-Curve: โลกกำลังก้าวสู่สิ่งที่เรียกว่า เศรษฐกิจใหม่ คือ เศรษฐกิจที่ยึดโยงกับภาคบริการ (ที่เกี่ยวกับ information technology เกี่ยวกับนวัตกรรมเกี่ยวกับ artificial intelligence) เพราะฉะนั้นการนำเอากองทุนที่ประกอบด้วยบริษัทที่อยู่ในเศรษฐกิจใหม่ไม่ว่าจะเป็น ONEUGG หรือกองทุนหุ้นนอกตลาด อย่าง PETECH หรือ K-HIT ที่เรียกว่า High Impact Thematica Fund ที่ KBank Private Banking ระดมทุนไปแล้วเกือบ 20 ล้าน นำมาเป็นตัวอย่าง 

Sustainability: KBank Private Banking มี Event ร่วมกับ Lombard Odier ชื่อว่า “The Race to Net Zero: A Sprint or a Marathon” การแข่งขันเพื่อสร้างให้เกิด Net Zero การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ คือ การพยายามที่จะปล่อยให้น้อย พยายามดูดซับ แก้ไขให้เยอะ เป็น Prime Banker ที่มีผลชัดเจนเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่เพียงพูด แต่มีการจัดตั้งกองทุนที่เกี่ยวกับเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2562 อาทิ กองทุน K CHANGE กองทุนเปลี่ยนโลก ซึ่งวันนี้ระดมทุนไปแล้ว 15,000 ล้านบาท K-CLIMATE TRANSITION ที่เกี่ยวโดยตรงกับเรื่องของการเปลี่ยนแปลงภาวะโลกร้อน อีก 3,000 ล้านบาท และออก K-SUSTAIN ที่ระดมทุนไปได้ 380 ล้านบาท 

เม็ดเงินลงทุนของทั่วโลกประกอบด้วยเม็ดเงินลงทุนที่มาจากสถาบัน ประมาณ 60-70% ที่เหลือเป็นของรายย่อย ซึ่งเชื่อว่าประมาณ 60-70% ของเงินลงทุนในตลาดหุ้นโลกจะลงทุนในหุ้น sustainable

เช่นเดียวกันในส่วนของ KBank Private Banking ที่สนับสนุนโปรโมทเรื่องนี้ค่อนข้างมาก ปีนี้คิดว่า ประมาณ 50-60% ของพอร์ตการลงทุนจะเกี่ยวข้องกับการลงทุนในเรื่องของหุ้นยั่งยืน

S-Sharing: KBank Private Banking ไม่เพียงแต่นำปรัชญาในการดำเนินธุรกิจ เพื่อส่งมอบ Perfect Wealth หรือความมั่งคั่งที่สมบูรณ์ให้กับลูกค้าเท่านั้น แต่ยังนำปรัชญาในการดำเนินธุรกิจนี้ ให้เกิดกับประเทศ ให้เกิดกับโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจก้าวหน้า สิ่งแวดล้อม ยั่งยืน และสังคมที่มีความสุข 

“เราเชื่อว่าสังคมของเราจะมีผู้ชนะอยู่เพียงหยิบมือไม่ได้ ลูกค้า HNWIs จะเป็นผู้ชนะอยู่คนเดียวไม่ได้ คนในสังคมต้องชนะไปด้วยกัน การเข้าไปช่วยองค์กรสาธารณกุศลซึ่งเป็นองค์กรที่มีส่วนสำคัญในการที่จะผลักดันให้เกิดการช่วยเหลือผู้คนที่ด้อยโอกาสในสังคม เราเข้าไปช่วยเหลือกองทุนของมูลนิธิเหล่านี้ ทำให้เขามีความเข้าใจในเรื่องของกฎหมาย เรื่องของความยืดหยุ่นในการลงทุนมากขึ้น เรื่องของความรู้ในการทำการตลาด การรับบริจาคเงินในโลกยุคดิจิทัลมากขึ้น การนำเอาวิธีปฏิบัติของมูลนิธิ องค์กรการกุศลระดับโลก มาใช้ในประเทศไทย เราสามารถที่จะให้คำแนะนำกับองค์กรสาธารณกุศลไปแล้วมากกว่า 100 องค์กร” จิรวัฒน์ กล่าว

ในปี 2565 สิ่งที่จะทำเพิ่มขึ้นจากเดิมคือ การนำเอา International Practice ด้วยความช่วยเหลือของ Lombard Odier ติดต่อองค์กรสาธารณกุศลระดับโลก มูลนิธิอย่าง Bill & Miranda Gate หรือ Red Cross ซึ่งมีการจัดการอย่างเป็นระบบ มีการลงทุนในระยะยาว ลงทุนที่เทคความเสี่ยงมากขึ้น เขาจะเข้ามาพูดให้องค์กรสาธารณกุศลในไทยให้สามารถเข้าใจว่าแนวทางการจัดการเรื่องการแบ่งปันในต่างประเทศก้าวหน้าไปขนาดไหนเพื่อให้เดินไปในมาตรฐานสากลได้ 

KBank Private Banking เป็น Private Banker ที่ได้รับรางวัลมากที่สุดในประเทศไทยติดต่อกันหลายปี จากสถาบันระดับอินเตอร์ระดับโลกทั้งสิ้น 

14 รางวัลจาก 9 World-class Rating Institute สถาบันจัดอันดับทั่วโลก

  • 8 รางวัลที่เป็น Overall Private Banking Service and Client Experience เป็น Private Banking ยอดเยี่ยม 
  • 4 รางวัลที่เกี่ยวกับ Digital and Innovationการ นำเอา Digital Technology and innovation มาสื่อสารกับลูกค้า สร้างการสื่อสารกับลูกค้าในช่วงโควิดให้ใช้เทคโนโลยี Digital 
  • และ 2 รางวัลที่เกี่ยวกับ ESG: Environmental, Social  และ Governance  เรื่องของ sustainability   การได้รับรางวัลในภาพที่กว้างและครอบคลุมทุกมิติ 

ผลการดำเนินงานในปี 2564

จิรวัฒน์ กล่าวว่า ผลการดำเนินงาน KBank Private Banking ในปี 2564 ถือว่าเป็นปีที่ดีปีหนึ่ง มีลูกค้าประมาณ -13,000 ราย เพิ่มขึ้น ประมาณ 3% ทรัพย์สินรวม 906,000 ล้านบาท บวกเพิ่มขึ้น ประมาณ 6% เป้า AUM ปี 2565 คาดว่าจะเติบโตประมาณ 5-6%

นอกจากการให้คำแนะนำด้านการลงทุนแล้ว อีกหนึ่งบริการที่โดดเด่นอีก  คือ Family Wealth Planning Service ซึ่งได้รับความนิยมมาก KBank Private Banking ให้คำแนะนำเรื่องการวางแผนทรัพย์สินครอบครัวไปกว่า 120 ครอบครัว ในส่วนของเรื่องของการทำการจัดโครงสร้างการถือครองทรัพย์สินของลูกค้า (Asset Holding Structure) ให้คำแนะนำไปมากกว่า 250 ครอบครัว ซึ่งเป็นครอบครัวขนาดใหญ่ทั้งสิ้น 

ในส่วนของการให้คำปรึกษาเบื้องต้น อาทิ ภาระภาษี ภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง ภาษีมรดกต่าง ๆ รวมถึงการจัดการค่าใช้จ่ายอื่น ๆ จากการถือครองทรัพย์สินในอนาคต ได้ให้คำปรึกษาไปมากกว่า 270 ครอบครัว 

“เรื่องของ Charity เราได้ให้คำแนะนำการลงทุน การปรับตัวองค์กรสาธารณกุศล มากกว่า 70 องค์กร ถือว่าเป็นผลงานที่โดดเด่นที่เราเข้าไปมีส่วนร่วมช่วยในเรื่องของการจัดการ Wealth นอกจากเรื่องการลงทุนก็คือการวางแผนการลงทุนหรือความแผนความมั่งคั่งด้วย” จิรวัฒน์ กล่าว

ในส่วนที่สอง คือ Real Estate Advisory Service ทรัพย์สินสำคัญของลูกค้า นอกจาก financial asset จะมีสินทรัพย์ที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ค่อนข้างมาก ในปี 2564 KBank Private Banking สามารถให้บริการลูกค้า กว่า 100 ราย และมีจำนวนที่ดินเพิ่มขึ้น 650 แปลง รวมที่ดินที่ดูแลลูกค้า 3,000 แปลง มีโฉนดเข้ามาให้ดูแลกว่า 2 พันโฉนด รวมทั้งสิ้นที่ดูแลลูกค้าไปแล้ว 1 หมื่นกว่าโฉนด สามารถช่วยลูกค้าหรือว่าศึกษาความเป็นไปได้ ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับที่ดิน มูลค่ากว่า 6 หมื่นล้านบาท รวมทั้งสิ้นสามารถให้คำปรึกษาบนที่ดิน มีมูลค่าประมาณ 3 แสนล้านบาท 

สำหรับเรื่องของ Land Loan ซึ่งเป็นส่วนต่อขยาย สำหรับลูกค้าที่มีที่ดินแล้วคิดว่าต้องการรายได้เพิ่มเติมจากการถือครองที่ดิน KBank Private Banking มีโปรแกรม Land Loan for investment เป็นการที่ธนาคารรับที่ดินมาเป็นหลักประกันและปล่อยสินเชื่อออกไป และให้ลูกค้านำเงินสินเชื่อกลับมาลงทุนกับ KBank Private Banking พบว่าในปี 2564 สามารถนำที่ดินของลูกค้า 145 ราย มูลค่า 40,000 ล้านบาทเข้ามาทำวงเงินได้ที่ 25,000 ล้านบาท  

โดยประมาณ 16,000 ล้านบาท เป็นวงเงินที่อนุมัติแล้ว และอีก 9,000 ล้านบาท กำลังอยู่ในกระบวนการอนุมัติ ตรงนี้เป็นตัวเพิ่มผลตอบแทนให้กับลูกค้าและเพิ่มธุรกิจให้ KBank Private Banking ในเวลาเดียวกัน 

“เชื่อว่าปี 2565 ยอด Land Loan จะเติบโตได้อีกเยอะ ประมาณ 7,000 – 10,000 ล้าน จากต้นปีถึงกลางปี 2565”  จิรวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ