‘ดอน ปรมัตถ์วินัย’ รองนายกฯ เปิดงาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2565” ชี้ “วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม” เป็นเครื่องมือสำคัญในการเตรียมคนไทยแห่งศตวรรษที่ 21 รับมือการเปลี่ยนแปลงของโลก ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในทุกมิติ ด้าน ‘เอนก เหล่าธรรมทัศน์’ รมว.อว. ย้ำ มหกรรมวิทย์ฯ ปีนี้ เน้นนำเสนอวิทย์ผสานศิลป์ ในมุมของการขับเคลื่อนพัฒนา “เศรษฐกิจสร้างสรรค์” สอดรับกับนโยบาย “BCG Model” ของรัฐบาล โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 21 สิงหาคม 2565 ณ อาคาร 9-10 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี
ดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2565” ภายใต้แนวคิด “ศิลปะ วิทยาศาสตร์และนวัตกรรม เพื่อสังคมที่ยั่งยืน” (Art – Science –Innovation for Sustainable Society) เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทว มหามกุฎวิทยมหาราช รัชกาลที่ 4 “พระราชบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีไทย และพระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย”
รองนายกฯ ดอน เปิดเผยว่า ปัจจุบันโลกเผชิญกับความท้าทายอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ความขัดแย้งในหลายมุมโลก ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหาร ทางพลังงาน และทางสาธารณสุข ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นอุปสรรคหนึ่งของการพัฒนาประเทศ ไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง โลกใบนี้ต้องการความสมานฉันท์ ความร่วมมือ และสันติสุข เพื่อให้เรามีเวลาและสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้ทุกคน โดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่สามารถใช้มันสมอง สองมือ ใช้ความคิดสร้างสรรค์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้อย่างเต็มที่ ซึ่งถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประเทศไทยให้มีความเข้มแข็ง พึ่งพาตนเองลดผลกระทบจากวิกฤตต่าง ๆ ซึ่งความท้าทายเหล่านี้จึงทำให้เราตระหนักชัดเจนถึงผลเสียที่เกิดจากการพัฒนาที่เน้นแต่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและผลกำไรใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างเกินความพอดี ทำให้เกิดความไร้สมดุลของทุกสิ่ง โดยเฉพาะความสมดุลระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ในการพัฒนาประเทศเราจำเป็นที่จะต้องเน้นการเสริมสร้างทัศนคติ ปรับเปลี่ยนชุดความคิดของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคธุรกิจ ชุมชน และเยาวชน ให้ตระหนักถึง การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างรู้คุณค่าควบคู่กับการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2565 กำหนดจัดขึ้น 2 แห่ง ได้แก่ มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ จัดขึ้น ณ อาคาร 9-10 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 13 – 21 สิงหาคม 2565 และงาน NST Fair Science Carnival Bangkok ในรูปแบบ Science Carnival จัดขึ้นที่สามย่านมิตรทาวน์ ระหว่างวันที่ 17 – 21 สิงหาคม 2565 เพื่อให้เข้าถึงและครอบคลุมเยาวชนและประชาชนที่สนใจเป็นวงกว้าง
การจัดงานดังกล่าว มีแนวคิดการนำวิทยาศาสตร์มาสู่เมือง เพื่อเป็นการกระจายความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย และง่ายต่อการเข้าถึงกลุ่มคนในกรุงเทพฯ ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญคือทำให้คนไทยให้หันมาสนใจ ชื่นชอบวิทยาศาสตร์ เปลี่ยนมุมมองว่าวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องสนุก น่าตื่นเต้น น่าเรียนรู้และจับต้องได้ โดยเน้นนำเสนอความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ผสานกับศิลปะในมุมของการขับเคลื่อนพัฒนา “เศรษฐกิจสร้างสรรค์” (Creative Economy) ของประเทศ สอดรับกับนโยบาย “BCG Model : Bio – Circular – Green Economy” สนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยร่วมผนึกกำลังความยิ่งใหญ่กับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สมาคม มูลนิธิ และหน่วยงานต่างประเทศ ร่วมถ่ายทอดศักยภาพทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้กับเยาวชนและประชาชนไทย มากถึง 136 หน่วยงาน จาก 10 ประเทศ

พบกับ 5 นิทรรศการไฮไลต์ที่ห้ามพลาด ได้แก่ 1) นิทรรศการเทิดเกียรติ (The Royal Pavilion) นำเสนอพระอัจฉริยภาพด้านวิทยาศาสตร์ของพระมหากษัตริย์ไทยและพระบรมวงศานุวงศ์ ชมวิทยาการและพัฒนาการด้านวิทยาศาสตร์อันน่าทึ่งในรัชสมัยต่าง ๆ 2) นิทรรศการแก้วเปลี่ยนโลก (Through the Looking Glass) บอกเล่าเรื่อง “แก้ว” ในทุกมิติทั้งในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ศิลปะ และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ร่วมสร้างความตระหนักถึงคุณค่าของแก้ว ซึ่งเป็นวัสดุที่มีบทบาทสำคัญตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนาน 3) นิทรรศการลอดช่อง ส่องถ้ำ (Cave and Karst) ทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสำคัญทางระบบนิเวศที่เชื่อมโยงและสัมพันธ์กับสิ่งมีชีวิตทุกชีวิตบนโลก เปิดบันทึกการสำรวจถ้ำครั้งแรกในสยามเสมือนว่าได้เข้าไปสำรวจด้วยตนเอง รวมทั้งพบกับดาวเด่นถ้ำไทย สัตว์ถ้ำที่น้อยคนจะได้เห็น

4) นิทรรศการวิทย์ คิด เพื่อ คุณ (Basic Science for All) ชวนทุกคนเรียนรู้และทำความเข้าใจพื้นฐานธรรมชาติเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ที่ต่อยอดสู่นวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน และ 5) นิทรรศการนวัตกรรมวันรุ่ง (Tomorrow Land) สนุกสนานไปกับการสร้างโลกแห่งอนาคตในแบบฉบับของตัวเอง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์ (Science Lab) ที่ให้เด็ก ๆ สวมบทบาทเป็นนักวิทยาศาสตร์ตัวน้อย กิจกรรมงานประชุมสัมมนา อบรม และเสวนาในหัวข้อต่าง ๆ ที่น่าสนใจ และกิจกรรมเวทีกลาง อีกมากมาย
รมว.อว. กล่าวต่อว่า “ตลอดระยะเวลาการจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 16 ปี ที่ผ่านมา มีผู้เข้าเที่ยวชมงานมากกว่า 15 ล้านคน โดยมุ่งหวังว่าเด็ก เยาวชนไทย ตลอดจนสังคมไทยจะยกระดับความรู้ และได้รับแรงบันดาลใจ เพื่อสร้างวัฒนธรรมวิทยาศาสตร์ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย และเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าต่อไป”

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
Binance แต่งตั้ง ‘หยี่ เหอ’ ดูแล Binance Labs
ดีแทค รีวอร์ด เปิดประสบการณ์ความสุขครั้งใหม่ Coins Transfer แลกเข้า แลกออก แลกได้ตามใจ