TH | EN
TH | EN
หน้าแรกTechnologyREADY เปิดตัว R-Chatbot ดึง AI ช่วยงานขาย-ดูแลลูกค้า รับดีมานด์สูงขึ้น

READY เปิดตัว R-Chatbot ดึง AI ช่วยงานขาย-ดูแลลูกค้า รับดีมานด์สูงขึ้น

READY เปิดตัว R-Chatbot เอไอแชตบอทเจเนอเรชันใหม่ เสริมทัพรับเทรนด์ AI เผยแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 3/2566 สัญญาณดี สนับสนุนรายได้ทั้งปี คาดโต 15-20% ตามเป้า

ทรงยศ คันธมานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรดดี้แพลนเน็ต จำกัด (มหาชน) หรือ READY เผยแนวโน้มครึ่งปีหลัง 2566 เดินหน้าขยายธุรกิจ ย้ำเทรนด์ความต้องการด้านมาร์เก็ตติ้งเทคโนโลยีตอบโจทย์ลูกค้าองค์กรที่มีดีมานด์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยการเติบโตที่สำคัญมาจากกลยุทธ์การขยายบริการไปยังฐานลูกค้าเดิม และมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่และขนาดกลาง ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้งานมากขึ้น หรือปริมาณการใช้งานมากขึ้น  

อีกทั้ง สอดรับสถานการณ์ในปัจจุบันที่มีความชัดเจนทางการเมือง ซึ่งจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและอัดฉีดงบประมาณ หลังจัดตั้งรัฐบาลใหม่แล้วเสร็จ สร้างความเชื่อมั่นต่อภาคธุรกิจ และเตรียมพร้อมสำหรับการลงทุน นำเครื่องมือและแพลตฟอร์มเทคโนโลยีเข้ามาช่วยสนับสนุนการขายและการตลาดเพื่อรับเศรษฐกิจที่เติบโต ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภค

โดย READY ชูจุดแข็งและความแข็งแกร่งของ ReadyPlannet All-in-one Platform แพลตฟอร์มการขายและการตลาดดิจิทัลแบบรวมเป็นหนึ่งเดียว ช่วยสนับสนุนลูกค้าในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ยกระดับการทำการตลาดยุคใหม่ ซึ่งปัจจุบัน เราพัฒนาความสามารถทางด้าน Personalized Marketing, Marketing Automation และ Data Analytics เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ายิ่งกว่าเดิม โดยเฉพาะเทรนด์ด้าน AI กำลังมาแรง

ล่าสุด READY เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด กับ R-Chatbot เอไอแชตบอทเจเนอเรชันใหม่เข้ามาช่วยการขาย การดูแลลูกค้า ช่วยตอบข้อความอัตโนมัติ ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำการพัฒนาด้าน AI อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ ReadyPlannet All-in-one Platform ยกระดับการทำงานของธุรกิจไทยให้ก้าวหน้าขึ้นอีกขั้น

เผยแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 3/2566 สัญญาณดี

ทั้งนี้ READY มองแนวโน้มไตรมาส 3/2566 มีทิศทางเติบโตต่อเนื่องจากคำสั่งซื้อในด้านการขายและการตลาดที่เริ่มกลับมา จากไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ลูกค้าชะลอการซื้อเนื่องจากช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ทำให้การตลาดและการขายชะลอตัวลงในช่วงระยะเวลานั้น แต่มีสัญญาณดีจากรายได้เฉลี่ยต่อลูกค้าใหม่ (New ARPA) ของไตรมาส 2 ปีนี้ สามารถทำมูลค่าที่สูงสุด (New high) ที่ 6,285 บาท อีกทั้ง การปรับราคาแพลตฟอร์มการขายและการตลาดของบริษัทฯ ในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นประมาณ 30-40% เพื่อให้สอดคล้องกับขีดความสามารถ ของแพลตฟอร์มที่พัฒนาเพิ่มขึ้น จึงมองเป็นทิศทางที่ดีต่อการเติบโตในอนาคต

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

CRC เปิดตัว “GO Wholesale” ขยายอาณาจักรค้าปลีก-ค้าส่งครบวงจร พร้อมให้บริการสาขาแรก 27 ต.ค.นี้

ดีป้า ชี้อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย ขยายตัวต่อเนื่องถึงปี 68 แนะรัฐเร่งยกระดับฝีมือแรงงานทัดเทียมสากล

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ