แพลนเน็ตคอม – ซิสโก้ ร่วมมือ เปิดตัวศูนย์ข้อมูลเคลื่อนที่ในตู้คอนเทนเนอร์ “PLANET Edge Data Center” โซลูชั่นต้นแบบในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ สมาร์ทซิตี้ สนองนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ตอบโจทย์ความท้าทายการเก็บรวบรวมข้อมูลเมืองปริมาณมหาศาล เพิ่มความอัจฉริยะด้วยกับระบบวิเคราะห์ข้อมูลปัญญาประดิษฐ์ เชื่อมโยงสู่ระบบการแจ้งเตือนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาและพัฒนาเมือง
ประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) ได้ให้ภาพรวมของธุรกิจ ว่า 28 ปีที่ผ่านมา แพลนเน็ตคอม เติบโตในด้านระบบสื่อสาร และพัฒนามาสู่ธุรกิจดิจิตัล ปัจจุบัน แพลนเน็ตคอม ได้พัฒนาโซลูชั่นสำหรับสมาร์ทซิตี้ ที่ทำงานได้จริง
“การทำสมาร์ทซิตี้ ซึ่งต้องจัดการข้อมูลปริมาณมากในแต่ละจังหวัด ถ้าข้อมูลต้องวิ่งมาที่ศูนย์ข้อมูลใหญ่ส่วนกลาง จะเกิดความไม่เสถียร เพราะระยะทางไกล ข้อมูลเยอะ วิ่งไม่ไหว สอง ต้องลงทุนเสาสัญญาณจำนวนมาก โซลูชั่นสำหรับปัญหานี้ คือ การเอา Edge Data Center ศูนย์ข้อมูลขนาดเล็ก ไปตั้งในพื้นที่ จากไอเดียนี้จึงเกิดความร่วมมือ เรามีลูกค้าสมาร์ทซิตี้ ระบบของเราปลั๊กอินกับ ซิสโก้ กลายเป็นโซลูชั่นต้นแบบให้แต่ละจังหวัดได้ โดยไม่ต้องลงทุนอุปกรณ์เป็นร้อยล้าน แต่ใช้การเช่า Edge Data Center ในตู้คอนเทนเนอร์ และมีเทคโนโลยีไฮเทคมาก ๆ ของซิสโก้” ประพัฒน์กล่าว
ทวีวัฒน์ จันทรเสโน กรรมการผู้จัดการ Cisco ประเทศไทยและพม่า ได้อธิบายถึงเป้าประสงค์ของ ซิสโก้ ในการใช้เทคโนโลยี สร้างอนาคตที่ทุกคนมีส่วนร่วม โครงการขับเคลื่อนการพัฒนาดิจิทัลในประเทศไทย Country Digital Accerelator หรือ CDA Program ที่ใช้ใน 44 ประเทศ รวมถึงประเทศไท ที่ซิสโก้ได้ทำงานร่วมกับแพลนเน็ตคอม มีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการพัฒนาโซลูชั่นที่จะสามารถขับเคลื่อนให้เกิดการใช้เทคโนโลยีดิจิตอลได้เร็วขึ้น
CDA Program เฟสที่ 1 มีระยะเวลา 3 ปี (2564-2566) โดยมีพื้นที่บ้านฉาง อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง เมืองต้นแบบในการพัฒนา 5G สู่เมืองอัจฉริยะ เป็นพื้นที่แรก โดยตั้งเป้าสร้าง Edge Data Center ที่บ้านฉางให้เป็นต้นแบบ ที่สามารถนำไปใช้ในที่อื่นๆ ได้อย่างมีความยืดหยุ่น ขยายเสกลได้ ปรับใช้ได้เร็วไม่ต้องสร้างใหม่ และต้องมีความปลอดภัย ทั้งต่อระบบดาต้าเซ็นเตอร์และต่อการใช้งานอินเตอร์เน็ตของประชาชน
นวัตกรรม Smart City Solution
“PLANET Edge Data Center” คือ ศูนย์ข้อมูลขนาดเล็กเคลื่อนที่ในตู้คอนเทนเนอร์ เป็นโครงสร้างพื้นฐาน ประเภท Hyper convert ทำหน้าที่เก็บรวบรวมข้อมูลจากอุปกรณ์ต่างๆ ในสมาร์ทซิตี้ ไม่ว่าจะเป็นกล้องวงจรปิด หรือเซนเซอร์ต่างๆ ส่งผ่านข้อมูลด้วย Intelligent Network ไปยัง City Data Platform ที่จะทำการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลด้วย AI
โดยมีหัวใจการทำงานคือ Cisco Hyperflex ที่รวมองค์ประกอบสำคัญของ Data Center ไว้อย่างครบครัน เซิฟเวอร์ อุปกรณ์เก็บข้อมูล เครือข่ายความเร็วสูง การรักษาความปลอดภัยและระบบบริหารจัดการ การวิเคราะห์ภาพวีดีโอได้อย่างรวดเร็ว บันทึกข้อมูลอย่างเป็นระบบ ดูย้อนหลังได้ 60 วัน เข้าถึงและเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างทำงาน ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที
ระบบสามารถทำงานร่วมกับบริการคลาวด์ (IaaS) และ Platform as a Services (PaaS) ตามมาตรฐาน TIER III ตู้คอนเทนเนอร์ขนย้ายสะดวก ใช้พื้นที่ติดตั้งน้อย ไม่ต้องสร้างอาคาร ไม่ต้องออกแบบห้อง สามารถประกอบและเคลื่อนย้าย Data Center ไปใช้งานในพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
จะใช้เป็นส่วนต่อขยายเพิ่มเติมจากดาต้าเซ็นเตอร์แบบปกติที่มีอยู่ หรือใช้งานแบบแยกเดี่ยวก็ได้ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการลงทุนได้ถึง 30–50 เปอร์เซ็นต์ ติดตั้งเสร็จภายใน 3-6 เดือน ค่าประสิทธิภาพการใช้พลังงานในดาตาเซ็นเตอร์ (PUE) อยู่ที่ 3 ถึง 1.5 ทำให้ประหยัดพลังงาน รวมทั้งไม่ต้องจ้างบุคลากรในการดูแลระบบ หรือบำรุงรักษาอุปกรณ์
ตัวอย่าง การใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์ข้อมูลภาพกล้องวงจรปิด เช่น การระบุป้ายทะเบียน, ยี่ห้อ ประเภทและสีรถยนต์ การตรวจสอบการทำผิดกฎจราจร อุบัติเหตุ การก่ออาชญากรรม ตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ตรวจจับใบหน้าบุคคล ตรวจการสวมหน้ากากอนามัย
การวิเคราะห์ข้อมูลจากระบบเซ็นเซอร์ ตรวจจับฝุ่น วัดระดับน้ำ หรือการตรวจวัดปริมาณรถ หรือระบบไฟส่องสว่างตามท้องถนน เป็นต้น โดยมีแดชบอร์ดในการมอนิเตอร์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ และมีแอพพลิเคชั่น Citizen สำหรับประชาชน
เทรนด์ตลาดดาต้าเซ็นเตอร์
ประพัฒน์กล่าวถึงแนวโน้มการลงทุน จากการศึกษาพบว่า ในช่วง 3 ปีจากนี้ไป (2565) การลงทุนในตลาดดาต้าเซ็นเตอร์จะมีมูลค่าถึง 7 หมื่นล้านบาท ซึ่งตลาด Mobile Data Center หรือ Edge Data Center ซึ่ง แพลนเน็ตคอมและซิสโก้ ถือเป็นผู้บุกเบิกตลาด แต่ไม่ได้มองว่าต้องแข่งขันกับใคร ยินดีเป็นพันธมิตรกับทุกหน่วยงาน เปิดกว้างในการทำงานร่วมกัน
ในปัจจุบันเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก ได้แก่ โรงงานในนิคมอุตสาหกรรม ที่ต้องมีดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดเล็กสำหรับการทำระบบ Automation หรือ การทำ ระบบ security ของ IOT ในโรงงาน และลูกค้าสำคัญอีกกลุ่มหนึ่ง คือ หน่วยงานราชการ
ส่วนลูกค้าเป้าหมายที่ต้องการโฟกัสจริง ๆ ได้แก่กลุ่มสมาร์ทซิตี้ โดยมีเป้าหมายขยายเพิ่ม 20 จังหวัด ในปี 2566 หน่วยงานท้องถิ่นที่มีความสนใจ และมีความพร้อมที่จะนำพาท้องถิ่น ให้ไปสู่ระบบสมาร์ทซิตี้ โดยสามารถเริ่มต้นก้าวเล็ก ๆ ก่อน ใช้รูปแบบ Smart Block โดยเลือกทำในพื้นที่ที่ประชาชนจำนวนมากจะได้ประโยชน์ เมื่อประเมินแล้วว่าเป็นประโยชน์ จึงค่อยขยายเพิ่มต่อไป เมื่อเสกลใหญ่มากพอจึงปรับใช้เป็นรูปแบบ Edge Data Center
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ออโต้ เอกซ์ ส่ง ‘เงินไชโย’ ลุยสินเชื่อจำนำทะเบียน ตั้งเป้าเตรียมเข้า IPO ในปี 70
บ้านปู ไตรมาส 3 แข็งแกร่งต่อเนื่อง เข้าลงทุนใน ‘อัลโต้เทค โกลบอล’ ต่อยอดโซลูชันเทคโนโลยีพลังงานสะอาด
