TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessNFT กุญแจสำคัญ ตัวพลิกเกม "เศรษฐกิจดิจิทัล"

NFT กุญแจสำคัญ ตัวพลิกเกม “เศรษฐกิจดิจิทัล”

นอกเหนือจากจักรวาลนฤมิต “เมตาเวิร์ส” แล้ว NFT หรือ Non-fungible token ก็เป็นอีกหนึ่งคำสำคัญ หรือ buzzword ในขณะนี้ที่หลายฝ่ายมองว่ากำลังก้าวเข้ามาเป็นเทรนด์กระแสหลักที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์หลายสำนักต่างประเมินว่า เหล่านักลงทุนและครีเอเตอร์ทั้งหลายทั่วโลกกำลังพยายามทำความเข้าใจแนวคิดและหาทางนำมาประยุกต์ใช้งาน (used cases) ให้เป็นประโยชน์สูงสุดตามแบบฉบับของตนเอง 

เคธี่ เบิร์ก หัวหน้าฝ่าย Metaverse Thought Leadership and Offerings Lead ของแอคเซนเจอร์ อธิบายว่า NFT เป็นสิ่งที่เข้ามาเปลี่ยนความหมายของคำว่า “ความเป็นเจ้าของ” (ownership) ได้อย่างน่าสนใจ เพราะ NFT ทำให้คนธรรมดาตัวเล็ก ๆ สามารถแสดงความเป็นเจ้าของแท้จริงของ “ชิ้นงาน”, “สิ่งของ” หรือ “บริการ” หนึ่งที่ไม่มีใครสามารถลอกเลียนแบบได้ ขณะที่ผู้เป็นเจ้าของสามารถสร้างรายได้หรือผลกำไรจากผลงานที่สร้างขึ้นมาได้โดยตรง 

“สิ่งที่น่าสนใจมากสำหรับฉันคือการที่แบรนด์ต่าง ๆ ร่วมมือกับครีเอเตอร์ ไม่ใช่อินฟลูเอนเซอร์ แต่คือตัวครีเอเตอร์ เพื่อสร้างส่วนขยายของแบรนด์ในแบบที่แบรนด์อาจไม่ได้ทำด้วยตัวเอง NFT เป็นแนวคิดที่ซับซ้อน ดังนั้นจึงขอแนะให้ทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ เพราะเป็นโลกใบใหม่ที่ทุกคนสามารถสร้างคุณค่าและมูลค่า ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ที่คนสร้างเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งนั้น” เคธี่ เบิร์ก กล่าว 

ทั้งนี้ จุดเริ่มต้นที่ทำให้ NFT ได้รับความสนใจจากทั่วโลกมาจากตลาดงานศิลปะ ที่บรรดาศิลปินผู้สร้างนำผลงานของตนเองออกมาประมูลบนแพลตฟอร์ม โดยมีผลงาน NFT ที่สร้างสถิติแพงที่สุดในโลก คือ Everydays: The First 5000 Days ของศิลปินชื่อ Beeple ที่ออกขายในปี 2021 ที่สนนราคา 69,346,250 ดอลลาร์สหรัฐ 

อย่างไรก็ตาม ด้วยคุณสมบัติของ NFT ที่กำหนดมูลค่าของสินทรัพย์ดิจิทัล ป้องกันการปลอมแปลง เลียนแบบ หรือทำซ้ำ และช่วยรับประกันความเป็นเจ้าของที่แท้จริงของผลงาน ทำให้บรรดานักลงทุนและเหล่าครีเอเตอร์ทั้งหลายค้นพบวิธีการใช้งาน หรือ used cases ต่าง ๆ นอกเหนือไปจากงานศิลปะดิจทัลและของสะสมหลากหลาย สำหรับ NFT อย่างรวดเร็ว โดยมี เมตาเวิร์ส เข้ามาช่วยผลักดันให้ NFT ได้รับการยอมรับและมีการใช้งานในวงกว้างมากขึ้น และใช้งานได้ยืนยาวมากขึ้น 

ประเด็นสำคัญก็คือว่า แนวคิดหลัก ๆ ของเมตาเวิร์ส คือ เศรษฐกิจที่เปิดกว้างเสรีและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายภายใต้การสนับสนุนของเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่ง NFT จะเข้ามามีบทบาทในฐานะ “ประตู” หรือ Gateway ที่นำพาผู้คนเข้าสู่โลกเมตาเวิร์ส เนื่องจาก NFT จะรับรองอัตลักษณ์ และมูลค่าของสิ่งต่าง ๆ ในสังคมที่สร้างขึ้นบนโลกเมตาเวิร์ส

แม้ NFT แรกสุดจะถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2015 แต่ก็สามารถพูดได้อย่างปลอดภัยว่าการพัฒนาล่าสุดในอุตสาหกรรมเมตาเวิร์สกำลังกำหนดบทบาทของ NFTs บนเส้นทางใหม่สู่อนาคต ดังนั้น ผลลัพธ์ที่ได้คือโอกาสทำกำไรมากมายสำหรับธุรกิจ นักลงทุน และผู้ประกอบการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเมตาเวิร์สต้องอาศัย NFTs เพื่อเติมเต็มให้สมบูรณ์

ทีมผู้เชี่ยวชาญของเว็บไซต์ VentureBeat ประเมินเบื้องต้นว่า NFT จะเข้ามาพลิกโฉมเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจและสังคมให้เห็นใน 5 ด้านหลัก ๆ ด้วยกัน ด้านแรก คือ การเปิดพรมแดนใหม่ของอุตสาหกรรมเกมและรูปแบบของความบันเทิงทั้งหลาย เช่น โรงภาพยนต์ คอนเสิร์ต สวนสนุก หรือเกมการแข่งขันกีฬา 

ทั้งนี้ การที่เมตาเวิร์สได้เปิดพรมแดนของการเล่นเกมให้ผู้เล่นมีส่วนร่วม และมีหนทางในการเล่นเพื่อหารายได้ (Play-to-Earn) และทรัพย์สินแบบพกพา โดยที่ NFT เป็นกุญแจในการปลดล็อกแนวคิดดังกล่าว ยกตัวอย่างเช่น การที่ NFT ทำหน้าที่เป็นสกุลเงินในเกมสำหรับ Play-to-Earn เพราะด้วยความสามารถในการเป็นเจ้าของที่ NFT มอบให้ ผู้เล่นจึงเป็นเจ้าของทรัพย์สินของตนอย่างเต็มที่ แทนที่จะควบคุมรายได้โดยผู้ดำเนินการเกมแบบรวมศูนย์ 

ประการที่สอง คือ การส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของครีเอเตอร์ โดย NFTs มีเป้าหมายเพื่อเป็นตัวแทนของทรัพย์สินที่เป็นนวัตกรรมใหม่หรือไม่เหมือนใคร แม้ว่าจะไม่ใช่สกุลเงินที่เป็นทางการ แต่สินค้าที่ผลิตขึ้นเนื่องจาก NFT สามารถขายและแลกเปลี่ยนบนแพลตฟอร์มเสมือนได้ ด้วยอำนาจในการทำธุรกรรมนี้ NFTs กำลังสร้างคลื่นลูกใหม่ให้กับเศรษฐกิจของเหล่าครีเอเตอร์ ซึ่งเฉพาะในสหรัฐฯ ปัจจุบัน ครีเอเตอร์ ภัณฑารักษ์ และผู้สร้างเนื้อหาอิสระกว่า 50 ล้านคนเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจครีเอเตอร์ 

สำหรับ NFT ที่เชื่อมโยงกับบล็อกเชนแบบกระจายอำนาจ สินทรัพย์แต่ละรายการจะมีรหัสและคุณสมบัติที่ไม่สามารถจำลองแบบได้ นอกจากนี้ สินทรัพย์ดิจิทัลไม่สามารถถูกขโมยได้ และมูลค่าของสินทรัพย์นั้นเป็นเอกสิทธิ์ของเจ้าของเท่านั้น รหัสสามารถฝังสิทธิ์และภาระผูกพันเพิ่มเติม เช่น ค่าธรรมเนียมการขายที่จ่ายให้กับผู้สร้างเป็นเปอร์เซ็นต์ของธุรกรรมใด ๆ ที่ตามมาของสินทรัพย์ดิจิทัล

กลไกสำคัญของ ‘สัญญาอัจฉริยะ’ และ ‘การติดตามลิขสิทธิ์’ ช่วยเพิ่มสิทธิ์และความเป็นเจ้าของในทรัพย์สินทางปัญญา แก้ปัญหาสำคัญที่ผู้สร้างต้องเผชิญในโลกไซเบอร์ ดังนั้น ทุกวันนี้จึงได้เห็นครีเอเตอร์มากมายสร้างสรรค์ผลงานในรูปแบบ NFT มากมาย เช่น ดีไซเนอร์ชาวเคนยาออกแบบกระเป๋าขายผ่าน NFT

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า อุตสาหกรรมเมตาเวิร์สเป็นก้าวสำคัญสำหรับเศรษฐกิจของครีเอเตอร์ โดยนำเสนอโลกเสมือนจริงที่เนื้อหาสามารถสร้างมูลค่าได้ และครีเอเตอร์สามารถได้รับความเท่าเทียมในการทำงานของเหล่าครีเอเตอร์ ซึ่งคุณสมบัติกำหนดเหล่านี้เป็นไปได้เพียงเพราะผลิตภัณฑ์เชื่อมโยงกับ NFT ที่ปลอดภัย โปร่งใส และกระจายอำนาจ

ด้านประการที่สาม คือ การปลดล็อกประสบการณ์ทางสังคมต่าง ๆ โดยนักวิเคราะห์แสดงความเห็นว่า NFTs จะมีบทบาทสำคัญในการเปิดประสบการณ์ทางสังคมและชุมชน รวมถึงการระบุตัวตนอัตลักษณ์ของผู้ใช้งานบนโลกเมตาเวิร์ส ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้สามารถสำรวจงานอดิเรกที่เฉพาะเจาะจงหรือแสดงการสนับสนุนโครงการโดยการซื้อสินทรัพย์ NFT ดังนั้น เจ้าของ NFT ที่มีความคิดเหมือนกันจะสามารถรวมตัวกันเพื่อสร้างชุมชน แบ่งปันประสบการณ์ และทำงานร่วมกันในการสร้างเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่คนกลุ่มนี้สนใจอย่างจริงจัง 

ขณะเดียวกัน อวตารของ NFT ยังเป็นแนวคิดที่สำคัญในระบบการขัดเกลาทางสังคมของเมตาเวิร์ส ซึ่งไม่ได้เป็นตัวแทนของตัวตนที่แท้จริงของผู้เล่นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงตัวตนที่จินตนาการไว้ด้วย โดยผู้ใช้สามารถใช้สินทรัพย์ NFT เพื่อสร้างข้อมูลประจำตัวนี้และเข้าถึงประสบการณ์ใหม่ในเมตาเวิร์ส

ทั้งนี้ ในโลกของเมตาเวิร์ส สามารถมองว่า NFT เป็นส่วนขยายของตัวตนในชีวิตจริงของตนเอง ทำให้แต่ละคนมีความเป็นเจ้าของ มีความสามารถในการควบคุม และความยืดหยุ่นในการสร้างตัวตนเสมือนจริงของตนเอง

ประการที่สี่ คือ การเป็นสะพานเชื่อมโยงโลกความจริงและโลกเสมือนได้อย่างแนบเนียนไร้รอยต่อมากยิ่งขึ้น พูดให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือว่า ประสบการณ์ที่ผู้ใช้งานได้มีโอกาสสัมผัสบนโลกเมตาเวิร์สสามารถเปลี่ยนผ่านมาสู่โลกของความเป็นจริงได้ ด้วยศักยภาพของ NFT ที่สามารถเป็นสะพานเชื่อมโยงโลกจริงกับโลกเสมือน ตัวอย่างเช่น Bored Ape Yacht Club (BAYC) กลุ่มบริษัทอวตาร์ลิงที่สร้างด้วยคนนิรนาม 4 คน กำลังรุกเข้าสู่การเชื่อมโยง VR และความเป็นจริงทางกายภาพ โดยเจ้าของ BAYC NFT สามารถเข้าใช้คลับพิเศษและคุณลักษณะของชุมชน เช่น เข้าถึงคอลเลกชัน NFT ใหม่ก่อน การปรับปรุง NFT และแม้แต่กิจกรรมส่วนตัว “ในชีวิตจริง” ซึ่งในเดือนพฤศจิการยน 2021 ทาง BAYC ได้จัดงานเลี้ยงเรือยอทช์และโกดังสินค้าสุดพิเศษที่ ApeFest ในย่านแมนฮัตตัน

ประการที่ห้า คือ ก่อร่างสร้างตลาดอสังหาริมทรัพย์บนโลกเสมือนจริง (virtual real estate market) โดยอุตสาหกรรมเมตาเวิร์สเป็นตัวนำอสังริมทรัพย์เข้าสู่อาณาจักรใหม่ เช่น กรณี เมตาเวิร์ส Decentraland บนเบราว์เซอร์ ที่ทรัพย์สินของที่ดินเสมือนเพิ่งขายไปได้ในราคา 2.4 ล้านดอลลาร์โดยนักลงทุนคริปโตอย่าง Tokens.com

นอกจากนี้ ในเดือนธันวาคม 2021 ผู้ใช้งานรายหนึ่งใช้เงิน 450,000 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อให้ตนเองได้เป็นเพื่อนบ้านของ Snoop Dogg แร็ปเปอร์ชาวอเมริกันชื่อดังเจ้าของ Snoopverse ซึ่งเป็นโลกแบบโต้ตอบที่เจ้าตัวกำลังพัฒนาในแพลตฟอร์ม Sandbox 

ทั้งนี้ NFTs เป็นตัวแทนของแปลงที่ดินเสมือนจริงและอนุญาตให้ทำธุรกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อรักษามูลค่าของตลาดอสังหาริมทรัพย์ดิจิทัลของเมตาเวิร์ส ดังนั้นพื้นที่ที่มีในเมตาเวิร์สจึงมีจำกัด เช่น ใน Decentraland  ประกอบด้วยที่ดิน 90,000 ผืนซึ่งแต่ละแห่งมีขนาดประมาณ 50 ฟุตคูณ 50 ฟุต สิ่งนี้เป็นการรักษา ‘ความขาดแคลนทางดิจิทัล’ ซึ่งเป็นแนวคิดที่มีการพูดคุยกันมานานเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล

เจพี มอร์แกน พบว่า พื้นที่เฉลี่ยของที่ดินเสมือนจริงทั่วทั้ง 4 เมตาเวิร์สหลักเพิ่มขึ้น 2 เท่าในช่วง 6 เดือนตั้งแต่มิถุนายนถึงธันวาคม 2021 โดยเพิ่มขึ้นจาก 6,000 ดอลลาร์เป็น 12,000 ดอลลาร์ ซึ่งที่ดินเสมือนจริงมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วพอๆ กับที่ดิน แต่ไม่มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่จะควบคุมหรือชะลอการเร่งราคา

ในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ NFT ก็เหมือนกับเมตาเวิร์สที่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและแม้ว่า NFT จะค่อนข้างตรงไปตรงมาในการเปิดใช้ความเป็นเจ้าของและอัตลักษณ์เสมือน แต่โมเดลของเมตาเวิร์สจะสร้างสภาพแวดล้อมที่ทำงานร่วมกันได้ ซึ่งดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุดสำหรับผู้บริโภคในการรวบรวม สังสรรค์ เล่น รับและทำธุรกรรม ดังนั้น สำหรับอนาคตข้างหน้า ธุรกิจต่าง ๆ จะต้องขยับเข้าไปลงทุนใน NFT และนำไปสู่การเปิดใช้งาน เนื่องจาก NFTs เป็นหัวใจหลักในการสร้างมูลค่าและดึงดูดผู้ใช้ในเศรษฐกิจเมตาเวิร์ส 

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ