หลังจากช่วงเวลาหนึ่งที่พลิกผันไปมา บริษัทซัมซุงประสบความสำเร็จในการแซงหน้ากลับมาเป็นผู้ครองส่วนแบ่งการตลาดสมาร์ทโฟนสูงสุด ท่ามกลางการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้
จากข้อมูลเบื้องต้นของ International Data Corporation (IDC) ในรายงาน Worldwide Quarterly Mobile Phone Tracker ระบุว่า ยอดจัดส่งสมาร์ทโฟนทั่วโลกในไตรมาสแรกของปี 2567 (1Q24) เพิ่มขึ้น 7.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมียอดจัดส่งรวม 289.4 ล้านเครื่อง
แม้ว่าอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนจะยังไม่พ้นอุปสรรคจากปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคในหลายตลาด แต่ตัวเลขดังกล่าวถือเป็นการเติบโตติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 3 แล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่ากำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง การเติบโตในไตรมาสนี้สะท้อนถึงความต้องการสมาร์ทโฟนที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากช่วงเวลาที่ท้าทายไปก่อนหน้านี้ จากปัจจัยลบทางเศรษฐกิจโลกและการหดตัวของอุปสงค์ ตัวเลขเติบโตในไตรมาสนี้ก็นับเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน โดยเฉพาะสำหรับผู้ผลิตรายใหญ่ที่กำลังมองหาการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในตลาด
Ryan Reith รองประธานกลุ่มบริหารฝ่าย Worldwide Mobility and Consumer Device Trackers ของ IDC กล่าวว่า ตามที่คาดการณ์ไว้ การฟื้นตัวของตลาดสมาร์ทโฟนกำลังดำเนินต่อไป แม้แอปเปิลจะประสบความสำเร็จในการเป็นผู้นำตลาดในช่วงปลายปี 2566 แต่ซัมซุงก็สามารถกลับมาครองตำแหน่งผู้จัดจำหน่ายสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดในไตรมาสแรกได้สำเร็จ
แม้ IDC คาดหวังว่าทั้งสองบริษัทจะสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดระดับบนต่อไปได้ แต่การกลับมาแข็งแกร่งของหัวเว่ยในประเทศจีน รวมถึงการเติบโตอย่างน่าสนใจของ Xiaomi, Transsion, OPPO/OnePlus ก็น่าจะส่งผลให้ทั้งสองผู้ผลิตรายใหญ่ต้องมองหาพื้นที่ในการขยายตลาดและเพิ่มความหลากหลายมากขึ้น
“ในขณะที่ตลาดกำลังฟื้นตัว เรามีแนวโน้มที่จะเห็นแบรนด์รายใหญ่เพิ่มส่วนแบ่งการตลาด ขณะที่แบรนด์รายเล็กจะต้องดิ้นรนเพื่อแย่งชิงตำแหน่งมากขึ้น”
โดยสรุปคือ ไรอัน คาดการณ์ว่าการฟื้นตัวของตลาดสมาร์ทโฟนจะดำเนินต่อไป แบรนด์ชั้นนำอย่างซัมซุงและแอปเปิลน่าจะยังครองความเป็นผู้นำได้ แต่ก็ต้องระวังการเติบโตของคู่แข่งรายอื่น ๆ ที่กำลังมาแรง ซึ่งอาจจำเป็นต้องมีการปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด
Nabila Popal ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของทีม Worldwide Tracker ของ IDC กล่าวว่า ตลาดสมาร์ทโฟนกำลังก้าวออกมาจากความผันผวนในช่วงสองปีที่ผ่านมา โดยมีความแข็งแกร่งและเปลี่ยนแปลงมากขึ้น
ประการแรก จะยังเห็นการเติบโตของมูลค่าและราคาขายเฉลี่ย เนื่องจากผู้บริโภคเลือกซื้ออุปกรณ์ราคาแพงขึ้น เพราะคาดว่าจะใช้งานได้นานกว่าเดิม
ประการที่สอง มีการเปลี่ยนแปลงสมดุลอำนาจในหมู่ 5 อันดับแรก ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะดำเนินต่อไป เนื่องจากผู้เล่นต่างปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับโลกหลังวิกฤติการฟื้นตัว Xiaomi กำลังกลับมาแข็งแกร่งหลังจากประสบปัญหาการลดลงอย่างมากในช่วงสองปีที่ผ่านมา ขณะที่ Transsion กลายเป็นผู้เล่นสำคัญในกลุ่ม 5 อันดับแรก ด้วยการเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดต่างประเทศ
“ในทางตรงกันข้าม แม้ผู้นำอันดับ 1-2 จะประสบการณ์การเติบโตติดลบในไตรมาสแรก แต่ดูเหมือนซัมซุงจะอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งกว่าในช่วงไตรมาสก่อนหน้า”
โดยสรุป แนวโน้มสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ การเติบโตของมูลค่าและราคาสมาร์ทโฟนเฉลี่ย การเปลี่ยนแปลงสมดุลกำลังระหว่างผู้เล่นหลัก โดย Xiaomi และ Transsion กำลังมาแรง รวมถึงซัมซุงที่ดูเหนือกว่าในช่วงก่อนหน้านี้ แสดงให้เห็นถึงพลวัตรใหม่ ๆ ในตลาดสมาร์ทโฟนโลก
