ซัมซุง ประกาศเปิดตัวจอภาพรุ่นล่าสุดตระกูล The Wall ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยี Micro LED ในงาน Samsung Display Tech Summit 2022 พร้อมนำเสนอโซลูชันใหม่ ๆ ที่สอดคล้องกับการทำงาน การเรียน และเล่นเกม
เลสลี่ โกห์ ประธานระดับภูมิภาคของกลุ่มธุรกิจดิสเพลย์โซลูชัน ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าวว่า เทคโนโลยี Micro LED เป็นอนาคตของนวัตกรรมจอภาพ ที่ซัมซุงเป็นผู้นำในการใช้เทคโนโลยีนี้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย โดย The Wall เป็นจอภาพรุ่นแฟลกชิปของซัมซุง โดยได้มีการขยายไลน์อัพผลิตภัณฑ์ด้วยการเปิดตัว The Wall รุ่น All-in-One มอบประสบการณ์การรับชมที่เหนือชั้น พร้อมนวัตกรรมด้านการติดตั้งหน้าจอขนาดใหญ่ที่ง่ายเหมือนกับการติดตั้งทีวีทั่วไป
The Wall All-in-One หรือซีรีส์ IAB เป็นจอภาพแบบ Micro LED ซึ่งสามารถติดตั้งได้ภายใน 2 ชั่วโมง ด้วยช่างเพียง 2 คน มาพร้อมกับความสามารถการแสดงผลหน้าจอด้วยพิกเซลขนาด 0.84 มีความบางเพียง 49 มิลลิเมตร และมี 3 ขนาดจอมีความละเอียดให้เลือกได้แก่ 146 นิ้ว ความละเอียด 2K และ 146 นิ้ว ความละเอียด 4K มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 6 ล้านบาท
The Wall ทุกรุ่นมาพร้อมกับเทคโนโลยี Black Seal ช่วยให้การแสดงผลสีดำทำได้ดำสนิท และมีมิติของสีมากขึ้น, เทคโนโลยี Ultra Chroma Technology ที่ใช้ช่วงคลื่นที่สั้นลงเพื่อแสดงผลสีแบบ RGB ที่บริสุทธิ์มากกว่าเดิม 2 เท่าเมื่อเทียบกับป้าย LED ทั่วไป, เทคโนโลยี ประมวลผลภาพแบบ 20bit ที่แสดงผลความคอนทราสต์ได้อย่างกลมกลืนเป็นธรรมชาติ และเทคโนโลยี Micro AI Processor เพิ่มคอนทราสต์ให้ภาพและลดนอยซ์ในภาพแบบเรียลไทม์ เป็นต้น
นอกจากนี้ ซัมซุงยังนำเสนอโซลูชันที่สอดคล้องกับการทำงาน การเรียน และการเล่น ในยุคใหม่ ดังนี้
- มิติใหม่ของการเรียนและการประชุม : สัมผัสประสบการณ์ใหม่ของการเรียน และการประชุมยุคไฮบริด ที่สามารถใช้จอทำอะไรได้หลายอย่างรวมไปถึงการแสดงภาพได้เหนือระดับที่ใช้งานร่วมกับผู้ใช้หลาย ๆ คนได้ เพื่อให้สามารถทำงานได้ง่ายขึ้นโดย Samsung Flip Pro รุ่นปี 2022 มาพร้อมกับขนาด 55 / 65 / 75 และ 85 นิ้วรองรับการแชร์แบบไร้สาย รองรับการ Video Call ร่วมกัน และการเชื่อมต่อโดยผู้ใช้หลายคนแถมยังมีโหมดปากกาและพู่กัน เหมาะกับเด็กนักเรียนที่อยากสร้างสีสันและรับประสบการณ์การเรียนรู้แบบใหม่ ๆ
- มิติใหม่ของการสร้างสรรค์คอนเทนต์ : จอมอนิเตอร์ความละเอียดสูงรุ่น ViewFinity S8 เหมาะสำหรับสาย Content Creator และนักสร้างสรรค์อย่างไม่จำกัด ไม่ว่าจะงานกราฟิก หรืองานที่ต้องใช้ความคิดเยอะ ๆ ซึ่งออกแบบมาสองขนาดคือ 27 นิ้ว และ 32 นิ้ว เป็นมอนิเตอร์ที่เอื้อต่อการทำคอนเทนต์ที่หลากหลาย
- มิติใหม่ของประสบการณ์การเล่นเกม : จอเกมมิ่งมอนิเตอร์ Odyssey Ark แบบโค้ง 1000 อาร์ ขนาด 55 นิ้ว ความคมชัดขนาด 4K มาพร้อมกับอัตราการรีเฟรชเรทสูง 165Hz มี Response time ที่ 1 มิลลิวินาที ยังมาพร้อมค็อกพิทโหมด ที่มอบประสบการณ์การเล่นเกมในรูปแบบใหม่เล่นได้อย่างเต็มอรรถรส และให้ความเป็นส่วนตัวกับผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันหรือเล่นสบาย ๆ มาพร้อม Ark Dial เป็นตัวควบคุมพลังงานแสงอาทิตย์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าถึงฟังก์ชันหน้าจออย่าง Flex Move Screen, Multi View และ Quick Settings ได้ไวขึ้น
อภิรดา พัวพรพงษ์ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์จอภาพ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า ซัมซุงถือเป็นผู้นำในธุรกิจจอภาพมาอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุม 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็น LED Signage จอแสดงภาพขนาดใหญ่, Smart Signage จอแสดงภาพอัจฉริยะ, Hospitality TV สมาร์ททีวีสำหรับใช้งานในโรงแรม หรือโรงพยาบาล และ Monitor สำหรับสายเกมมิ่ง
“ในมุมของธุรกิจ กลุ่มจอภาพสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้กับหลากหลาย เพื่อสร้างประสบการณ์ให้แก่ลูกค้า ผ่านความคิดสร้างสรรค์ในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะในฝั่งของผู้ประกอบการร้านค้าต่าง ๆ”
ทั้งนี้ ตลาดหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ LED Signage ทั่วโลกเติบโตอย่างต่อเนื่องในยุคหลังการแพร่ระบาดโควิดถึง 13.5% ขณะที่ภูมิภาคอาเซียน มีอัตราการเติบโตต่อเนื่องอยู่ที่ 17.3% ในช่วงปี 2020 – 2026
ในส่วนของภาคธุรกิจ และสถาบันการศึกษา มีแผนที่จะนำจอแสดงผลแบบโต้ตอบได้ (Interactive Motinor) อย่าง Samsung Flip Pro ไปใช้ในห้องประชุม หรือใช้สำหรับการเรียนการสอน เพื่อให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมอย่างเต็มที่กับรูปแบบการเรียนรู้สมัยใหม่
“สำหรับภาพรวมธุรกิจจอภาพของซัมซุงในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมามีการเติบโตอยู่ที่ราว 8% และคาดว่าจะสามารถรักษาการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังจากที่นำจอแสดงผล The Wall และ Odyssey Ark รุ่นใหม่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย” อภิรดา กล่าวทิ้งท้าย
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
แผนที่ยุคดิจิทัล เครื่องมือแห่งอนาคต กุญแจพัฒนาโลกด้วยเทคโนโลยี
การีนา ผนึก กระทรวงศึกษา ดันเกมเมอร์รุ่นใหม่ สู่การเป็นนักเขียนโปรแกรม
