TH | EN
spot_img
TH | EN
spot_imgspot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกBusinessธุรกิจโรงไฟฟ้าปี 69: พลังงานหมุนเวียนโตเด่น สวนทางดีมานด์ไฟฟ้าในระบบชะลอตัว

ธุรกิจโรงไฟฟ้าปี 69: พลังงานหมุนเวียนโตเด่น สวนทางดีมานด์ไฟฟ้าในระบบชะลอตัว

SCB EIC วิเคราะห์ธุรกิจโรงไฟฟ้าในประเทศไทยปี 2569 กำลังเผชิญกับทิศทางที่แตกต่าง โดยคาดว่าปริมาณการใช้ไฟฟ้าผ่านระบบของการไฟฟ้าฯ จะเติบโตเพียงเล็กน้อยที่ 0.3% ตามภาวะเศรษฐกิจที่คาดการณ์ GDP เติบโตเพียง 1.5% ขณะที่การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) นอกระบบ หรือไฟฟ้าที่ผลิตเพื่อใช้เอง (IPS) จะเติบโตสูงถึง 2.4% และจะเร่งตัวเฉลี่ย 3.3% ต่อปีในช่วงปี 2570–2572 จากกระแสการติดตั้ง Solar Rooftop และการทำ Private PPA ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

รายงานระบุว่า การเติบโตของการใช้ไฟฟ้านอกระบบสะท้อนความต้องการของภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในนิคมอุตสาหกรรม ที่หันมาใช้ระบบ SPP Direct และ IPS-Renewable เพื่อตอบโจทย์การใช้ไฟฟ้าสะอาด

ค่าไฟมีแนวโน้มลดลงตามต้นทุนก๊าซฯ รัฐยังคงตรึงราคา

สำหรับค่าไฟฟ้าโดยเฉลี่ยในปี 2569 คาดว่าจะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ราว 3.93 บาทต่อหน่วย ซึ่งเป็นผลจากนโยบายลดค่าครองชีพของรัฐบาล และต้นทุนการนำเข้าก๊าซธรรมชาติที่ลดลง โดยในช่วงปี 2570-2572 คาดว่าค่าไฟฟ้าจะทยอยลดลงมาอยู่ในช่วง 3.7-3.85 บาทต่อหน่วย

การลดลงของค่าไฟฟ้าเป็นผลมาจาก 1) ต้นทุนการนำเข้าก๊าซธรรมชาติ (JKM) ที่คาดว่าจะลดลงเหลือ 11.3 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อ MMBTU ในปี 2569 และลดลงต่อเนื่อง 2) ค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่า และ 3) รัฐบาลมีการใช้เงิน Claw back ที่เรียกคืนจากการไฟฟ้าฯ และขยายเวลาชำระหนี้ กฟผ./ปตท. เพื่อช่วยตรึงค่าไฟฟ้าไม่ให้สูงเกิน 3.94 บาทต่อหน่วย

โอกาสทองพลังงานหมุนเวียน: แผนลงทุนกว่าแสนล้าน

การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในไทยมีแนวโน้มขยายตัวชัดเจน โดยเฉพาะจากรอบการรับซื้อ Big lot 1 (5.2 GW) และ Big lot 2 (2.1 GW) ที่เน้นพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม

  • ปี 2569: มีแผนติดตั้งโรงไฟฟ้าตามสัญญาเข้าระบบรวม 1,103 MW คิดเป็นมูลค่าลงทุนไม่ต่ำกว่า 52,000 ล้านบาท
  • ปี 2570-2573: มีแผนผลิตไฟฟ้าตามสัญญาราว 1,200-1,600 MW ต่อปี คิดเป็นมูลค่าลงทุนราว 43,000-56,000 ล้านบาทต่อปี

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจพลังงานหมุนเวียนยังคงต้องติดตามความชัดเจนของนโยบายสำคัญ อาทิ การรับซื้อไฟฟ้าใหม่, การจัดทำแผน PDP ฉบับใหม่ รวมถึงความคืบหน้าของ Third Party Access (TPA) และ Direct PPA สำหรับ Data Center และธุรกิจอื่น ๆ ที่ต้องการใช้ไฟฟ้าสะอาด

แนะผู้ประกอบการ เร่งปรับตัวสู่ TPA และ AI Data Center

ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าควรปรับตัวเพื่อรับมือความท้าทายในอนาคต 3 ประการ:

  1. ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ: เตรียมพร้อมรับนโยบายปรับลดราคารับซื้อจากภาครัฐในอนาคต โดยเฉพาะในโรงไฟฟ้าพลังงานลมและระบบกักเก็บพลังงาน
  2. พัฒนาโครงการตอบโจทย์อุตสาหกรรมแห่งอนาคต: เช่น ไฟฟ้าสำหรับ AI & Cloud Data Center และอิเล็กทรอนิกส์
  3. เตรียมความพร้อมรองรับ TPA และ Direct PPA: เพื่อให้สามารถเริ่มผลิตไฟฟ้าได้ทันทีหลังจากรัฐอนุญาต

แนะรัฐเร่งคลอด TPA และ PDP สู่ Net Zero 2593

เพื่อสนับสนุนเป้าหมาย Net Zero ในปี 2593 (2050) ภาครัฐมีบทบาทสำคัญ 3 ประการ:

  1. เร่งอนุญาต TPA และ Direct PPA สำหรับธุรกิจทุกประเภทที่ต้องการใช้ไฟฟ้าสะอาด โดยเริ่มแบบค่อยเป็นค่อยไปในพื้นที่ที่บริหารจัดการได้ เช่น ในนิคมอุตสาหกรรม
  2. จัดทำแผน PDP ฉบับใหม่ ให้สอดคล้องกับความต้องการไฟฟ้า, เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น, และเป้าหมาย Net Zero โดยมีการทบทวนสมมุติฐาน GDP และการผลิตไฟฟ้าใช้เองอย่างสม่ำเสมอ
  3. เร่งส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าใช้เอง ในภาคอุตสาหกรรมและที่อยู่อาศัย เช่น เร่งประกาศลดภาษี 200,000 บาท สำหรับโซลาร์รูฟท็อป และจัดทำระบบ One-stop service สำหรับการขออนุญาตติดตั้งในภาคอุตสาหกรรม

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

3 ยักษ์ใหญ่ผนึก MTEC พลิกการผลิตด้วย Circular Economy

DHL ทุ่ม 1.39 พันล้านบาท เปิดตัว ‘คลังสินค้าพลังงานหมุนเวียน 100%’

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Latest News

MUST READ