TH | EN
TH | EN
หน้าแรกBusinessกสิกรไทย ปักธงเวียดนามขยายเครือข่าย มุ่งสู่การเป็นธนาคารแห่งภูมิภาคด้วยกลยุทธ์ดิจิทัลแบงกิ้ง

กสิกรไทย ปักธงเวียดนามขยายเครือข่าย มุ่งสู่การเป็นธนาคารแห่งภูมิภาคด้วยกลยุทธ์ดิจิทัลแบงกิ้ง

การเปิดสาขาโฮจิมินห์ นับเป็นอีกย่างก้าวที่สำคัญในการมุ่งสู่การเป็นธนาคารแห่งภูมิภาค AEC+3 ของธนาคารกสิกรไทย แม้ว่าธนาคารกสิกรไทยจะมีเครือข่ายการให้บริการในต่างประเทศและพันธมิตรทั่วโลกหลากหลายแห่ง มีฐานลูกค้าในภูมิภาคกว่า 1.85 ล้านคนอยู่แล้วก็ตาม แต่ครั้งนี้เป็นการปักธงในตลาดภูมิภาคอย่างมีนัยสำคัญในฐานะธนาคารที่เป็นผู้นำด้านดิจิทัล แบงกิ้ง และโมบาย แบงกิ้ง

วันนี้เราจะมาดูกันว่าทำไมเวียดนาม ถึงเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ธนาคารกสิกรไทยมุ่งสู่การเป็นธนาคารแห่งภูมิภาค AEC+3 ได้ ในยุคดิจิทัลดิสรัปชัน นอกจากความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจประเทศเวียดนามที่ถูกจับตามองในฐานะศูนย์กลางการลงทุนของบริษัทชั้นนำของโลกรวมถึงประเทศไทย ประชากรส่วนใหญ่ของเวียดนามล้วนเป็นคนรุ่นใหม่ที่คุ้นเคยและพร้อมเปิดรับเทคโนโลยีดิจิทัล และยังเป็นประเทศที่มีสัดส่วนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตถึง 70% ของจำนวนประชากร

อีกทั้งนโยบายของเวียดนามที่ประกาศเป้าหมายเป็นศูนย์กลางของสตาร์ทอัพในภูมิภาคแข่งกับอินโดนีเซีย ด้วยระบบนิเวศของสตาร์ทอัพที่แข็งแกร่งทั้งยุทธศาสตร์และนโยบายระดับประเทศ จำนวนสตาร์ทอัพ จำนวนการลงทุนจากกองทุนต่างชาติ ทำให้เกิดการขยายตัวขนานใหญ่ในอุตสาหกรรมฟินเทค อีคอมเมิร์ซ และโซลูชันสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ ฮานอยและโฮจิมินห์ คือเมืองที่มีระบบนิเวศสตาร์ทอัพที่เติบโตรวดเร็ว มีการลงทุนจากกองทุนต่างชาติทั้งสิงคโปร์ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ทำให้ยอดการลงทุนในสตาร์ทอัพในเวียดนามในปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นถึง 400 ล้านดอลลาร์ แม้ว่าจะลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนหน้าเนื่องจากโควิด แต่ก็นับว่ามีความแข็งแกร่งอย่างมาก

การปักธงในตลาดเวียดนามของธนาคารกสิกรไทย จึงไม่ได้หมายถึงแค่การขยายบริการทางการเงินให้กับฐานลูกค้าในเวียดนามเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงการสยายปีกความเป็นบริษัทเทคโนโลยีในตลาดภูมิภาคด้วยเช่นกัน ด้วยการใช้เทคโนโลยีในการเป็นผู้นำด้านดิจิทัล แบงกิ้ง และโมบาย แบงกิ้งของธนาคารกสิกรไทย และร่วมมือกับเทคสตาร์ทอัพในท้องถิ่น ด้วยการร่วมลงทุนของ KVision เข้ามาช่วยพัฒนาบริการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า

นอกจากนี้ เวียดนามยังเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่มีตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจในเชิงบวก แม้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีการประเมินว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ในปีนี้มีแนวโน้มจะเติบโตเกิน 5% ทำให้เวียดนามเป็นประเทศที่กลุ่มนักลงทุนต่างประเทศ ทั้งเอเชียและตะวันตกเข้าไปลงทุนอย่างต่อเนื่อง

กลยุทธ์ Asset-Light Regional Digital Expansion 

ธนาคารกสิกรไทยใช้กลยุทธ์ Asset-Light Regional Digital Expansion มุ่งเน้นรูปแบบการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ โดยจะลงทุนและร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีและสตาร์ตอัพในท้องถิ่น รวมถึงการให้สินเชื่อระหว่างประเทศแก่บริษัทในท้องถิ่นในเวียดนาม โดยอาศัยต้นทุนทางการเงินที่ต่ำ

พิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารจะใช้กลยุทธ์ธนาคารดิจิทัลแห่งภูมิภาคเพื่อเชื่อมต่อเครือข่ายการค้าและการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนเข้าด้วยกัน โดยให้บริการทางการเงินการธนาคารกับลูกค้าในเวียดนามผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล ตั้งเป้าผลประกอบการในเวียดนามว่าภายในปี 2565 จะมียอดเงินฝาก 1,200 ล้านบาท และสินเชื่อ 15,000 ล้านบาท และคาดในอีก 5 ปีจะสามารถสร้างฐานลูกค้าในเวียดนามได้ถึง 8 ล้านคน 

ในช่วงแรกจะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ในเวียดนาม (Local Large Corporate) ในภาคอุตสาหกรรมการผลิต นิคมอุตสาหกรรม อสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมการค้าและอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภค บริโภค ด้วยธุรกรรมการเงินพื้นฐาน (Traditional Banking) คือ บริการสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่  (Corporate Lending) รวมถึงให้บริการแก่บริษัทของไทย จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ที่ต้องการขยายธุรกิจไปเวียดนามเพื่อการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศในเวียดนาม

และจะขยายการบริการทางการเงินทั้งผลิตภัณฑ์เงินฝากและสินเชื่อบุคคลด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Banking) ไปสู่ลูกค้ารายย่อยท้องถิ่นของประเทศเวียดนาม โดยจะร่วมมือกับเทคสตาร์อัพในท้องถิ่นผ่านการร่วมลงทุนของ KVision (บริษัท กสิกร วิชั่น จำกัด) พร้อมทั้งจะขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มที่ยังเข้าไม่ถึงสถาบันการเงิน (Unbank) และกลุ่มประชากรวัยทำงาน 

ธนาคารจะทยอยส่งบริการทางการเงินในรูปแบบดิจิทัล เพื่อให้ลูกค้าเข้าสู่โลกของดิจิทัลแบงกิ้งอย่างเต็มรูปแบบผ่านสินเชื่อดิจิทัล ภายในปี 2565 ธนาคารตั้งเป้าหมายสินเชื่อไว้ที่ 1,500 ล้านบาท จากลูกค้าที่เป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก 25,000 ราย ที่มาใช้บริการขอเงินกู้ (KBank Biz Loan) หรือร้านค้าออนไลน์ที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการต่อยอดธุรกิจ 

ธนาคารกสิกรไทยเป็นพันธมิตรกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากอย่าง Sendo และพันธมิตรท้องถิ่นโดยเฉพาะบริษัทฐานข้อมูลลูกค้าขนาดใหญ่ที่มีความเข้าใจในตลาดอย่าง IPOS VN., Haravan และ KiotViet เพื่อที่จะมาช่วยส่งมอบบริการได้ตรงใจลูกค้าและแม่นยำยิ่งขึ้น และสร้างโซลูชันทางการเงินสำหรับผู้ค้าออนไลน์

“การขยายเข้าเวียดนามต่างจากการเข้าไปทำธุรกิจในประเทศ AEC+3 อื่น ๆ ที่จะเน้นให้บริการธุรกิจระหว่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งขณะนี้มีกลุ่มเทคโนโลยีการเงิน (ฟินเทค) ระดับโลก สนใจเข้ามาหารือในการเป็นพันธมิตรร่วมกับธนาคารเพื่อสร้างอีโคซีสเต็มของการขยายธุรกิจในเวียดนามแล้ว”

เฟ้นหาทีมงานใหม่

จากการบุกตลาดเวียดนามอย่างจริงจังครั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทยได้ขยายกำลังคนกว่า 500 ตำแหน่งโดยเปิดรับบุคลากรที่มีศักยภาพ หลากหลายทักษะ เข้ามาร่วมงานทั้งในประเทศไทยและทีมงานที่อยู่ประจำสาขานครโฮจิมินห์ พร้อมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาให้กับพนักงานปัจจุบัน ทั้งการรีสกิล ทักษะด้านภาษา เทคโนโลยี บวกกับวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง เพื่อเป็นการผนึกกำลังสร้างบริการทางการเงินให้พร้อมรับกับตลาดดิจิทัล และบริบทของธุรกิจในภูมิภาคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทยยกระดับการให้บริการจากสำนักผู้แทนนครโฮจิมินห์ เป็นธนาคารกสิกรไทย สาขานครโฮจิมินห์ ซึ่งเป็นสาขาแรกในประเทศเวียดนาม และเป็นสาขาที่ 10 ในต่างประเทศ เปิดตัวสาขาอย่างเป็นทางการแล้วในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 ภายใต้พันธกิจของการเป็นธนาคารระดับภูมิภาคที่ลูกค้าเลือกใช้บริการ (Regional Bank of Choice) เพื่อยกระดับศักยภาพของลูกค้าทุกกลุ่ม

ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์หลักของธนาคารกสิกรไทย ในการก้าวสู่การเป็นธนาคารแห่งภูมิภาค AEC+3 อย่างสมบูรณ์แบบจะสามารถเชื่อมต่อการให้บริการผ่านเครือข่ายของธนาคารในรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งการเป็นธนาคารท้องถิ่น สาขาของธนาคาร สำนักงานผู้แทน และสถาบันทางการเงินที่เป็นพันธมิตรของธนาคาร 

ปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยมีเครือข่ายการให้บริการในต่างประเทศในกลุ่มประเทศ AEC+3 และประเทศอื่น ๆ รวมทั้งสิ้น 16 แห่ง และพันธมิตรกว่า 84 แห่งทั่วโลก มีฐานลูกค้าในภูมิภาคกว่า 1.85 ล้านคน และยังคงเดินหน้าขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่องต่อไป

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ