TH | EN
TH | EN
หน้าแรกLifeแคสเปอร์สกี้เผย พนักงานทำงานจากบ้าน 51% เปิดดูเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่

แคสเปอร์สกี้เผย พนักงานทำงานจากบ้าน 51% เปิดดูเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่

จากรายงานของแคสเปอร์สกี้ เรื่อง “How COVID-19 changed the way people work” พบว่า ผู้ที่ทำงานจากบ้านจำนวนครึ่งหนึ่ง (51%) ที่เริ่มรับชมเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ ต่างยอมรับว่า ได้เปิดดูจากอุปกรณ์เดียวกันกับที่ใช้เพื่อการทำงาน

-ศบค. ยัน “ไทยชนะ” ปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
-ผลสำรวจเผย คนไทยเริ่มปรับพฤติกรรมการใช้จ่ายแบบ “New Normal”

‘ชีวิตวิถีใหม่’ ที่คนทำงานกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้กำลังเริ่มส่งผลกระทบต่อความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน พนักงานเกือบหนึ่งในสาม (31%) กล่าวว่า พวกเขาใช้เวลาทำงานมากกว่าที่เคยทำมาก่อน อย่างไรก็ตาม 46% กล่าวว่าพวกเขาได้เพิ่มเวลาในการทำกิจกรรมส่วนตัว การเปลี่ยนแปลงแบบนี้อาจเกิดขึ้นเพราะคนงานไม่ต้องเดินทางหรือเดินทางมากเท่าที่เคยมีมา

รายงานยังเผยว่ามันกลายเป็นเรื่องยากสำหรับคนทำงานที่จะแยกการทำงานและกิจกรรมส่วนตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นเรื่องไอที พนักงาน 51% ที่ยอมรับว่าเริ่มดูเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ตั้งแต่ทำงานจากที่บ้าน กล่าวว่าพวกเขาใช้อุปกรณ์ที่ใช้ทำงานเพื่อเปิดดูเนื้อหาดังกล่าว โดยพนักงานเกือบหนึ่งในห้า (18%) เปิดดูบนอุปกรณ์ที่นายจ้างจัดหาให้ และพนักงาน 33% ยอมรับว่าการดูเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่บนอุปกรณ์ส่วนตัวที่ใช้ในการทำงาน

นอกจากนี้ แรงงาน 55% ระบุว่าได้อ่านข่าวมากขึ้นกว่าเดิมก่อนหน้าที่จะเริ่มทำงานจากที่บ้าน ซึ่งมีสาเหตุจากการที่ผู้คนต้องการที่จะได้รับข้อมูลข่าวสารเรื่องโคโรนาไวรัส โดย 60% จากกลุ่มนี้อ่านข่าวโดยใช้อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงาน ซึ่งการทำเช่นนี้อาจนำไปสู่การติดเชื้อมัลแวร์ได้ หากพนักงานไม่ระมัดระวังตรวจสอบเว็บไซต์ที่เข้าชม

ทั้งนี้ คนทำงานก็กำลังพัฒนาพฤติกรรมการใช้บริการส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ในการทำงาน – เพิ่มความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากระบบไอทีเงา (Shadow IT) รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ตัวอย่างเช่น

42% ใช้บัญชีอีเมลส่วนตัวสำหรับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับงาน
49% ยอมรับว่าการใช้งานของพวกเขาเพิ่มขึ้นเมื่อทำงานจากที่บ้าน
38% ใช้งานบริการส่งข้อความส่วนตัวโดยที่ไม่ได้รับการอนุมัติจากแผนกไอที

โดยในจำนวนนี้มีพนักงาน 60% ที่ทำเช่นนั้นบ่อยขึ้นในสถานการณ์ใหม่ ๆ

นายอันเดรย์ แดนเควิช ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์อาวุโส แคสเปอร์สกี้ กล่าวว่า “องค์กรธุรกิจไม่สามารถทำตามคำขอของผู้ใช้ทั้งหมดได้ เช่น อนุญาตให้พนักงานใช้บริการใด ๆ ตามที่ต้องการ จึงจำเป็นต้องหาสมดุลระหว่างความสะดวกของผู้ใช้ ความจำเป็นทางธุรกิจและความปลอดภัย ในการบรรลุเป้าหมายนี้ บริษัทควรให้การเข้าถึงบริการตามหลักการของการจัดหาสิทธิพิเศษที่จำเป็นน้อยที่สุด ใช้ VPN และใช้ระบบขององค์กรที่ปลอดภัยและได้รับการอนุมัติ ซอฟต์แวร์ประเภทนี้อาจมีข้อจำกัดบางประการซึ่งจะลดความสามารถในการใช้งานเล็กน้อย แต่ให้การรับรองที่มากขึ้นในการจัดหามาตรการรักษาความปลอดภัย”

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ