TH | EN
TH | EN
หน้าแรกLifeประสบการณ์การใช้ Apple Watch ของ 3 นักใช้ ตัวยง หมอแป๊ป - หวานหวาน - เมจิ

ประสบการณ์การใช้ Apple Watch ของ 3 นักใช้ ตัวยง หมอแป๊ป – หวานหวาน – เมจิ

เปิดประสบการณ์ การใช้ Apple Watch ในแต่ละวัน ตั้งแต่ตื่นจนเข้านอนของ 3 นักใช้ Apple Watch ตัวยง หมอแป๊ป – นพ.ภัทรภณ อติเมธิน, หวานหวาน – อรุณณภา พาณิชจรูญ และ เมจิ – อโณมา คุ๊ก

หมอแป๊ป – นพ.ภัทรภณ อติเมธิน ใช้ Apple Watch อย่างไร

หมอแป๊ป – นพ.ภัทรภณ อติเมธิน

ผมวิ่งเป็นประจำโดยปกติพยายามวิ่งให้ได้ทุกวันตอนเช้าและใช้ Apple Watch ในการบันทึกการวิ่ง ข้อมูลต่าง ๆ ใน แอปออกกำลังกาย (Workout) เก็บ Calories เก็บเวลาที่ Exercise เก็บ Performance ได้ ตอนนี้ถ้าสำหรับออกกำลังกายใช้ตัวนี้เป็นหลัก 

ผมใช้ Voice Memo เวลาผมขับรถ เวลาประชุม แล้วต้องจด แต่ไม่ว่างจดลงสมุด ผมลง Memo แล้วมาฟังทีหลัง สะดวกดี

เวลาผมไปวิ่ง ผมชอบไปวิ่งคนเดียว ไม่ได้พกโทรศัพท์ พอมี Apple Watch ที่เป็น Cellular ทำให้เรา สามารถ connect ได้ตลอด อย่างวิ่งยาว long run สัก 7 โมง ภรรยารายงานมาแล้ว ลูก ๆ ตื่นแล้ว ซื้อข้าวให้หน่อย กลับได้แล้ว ตามตัวง่าย ทำให้สามารถแบบ ไม่หายไป

มุมกลับกัน ตอนนี้ภรรยาผมใช้ Apple Watch เหมือนกันก่อนหน้านี้ไม่ค่อยพกโทรศัพท์ พอใช้ Apple Watch ก็รับโทรศัพท์มากขึ้น มีเรื่องด่วนโทรหาได้

ผมซื้อให้คุณแม่ด้วย เพราะเมื่อปีที่แล้ว คุณแม่เป็นหัวใจเต้นผิดจังหวะ ซื้อให้คุณแม่ใช้มอนิเตอร์ AF Circulation สามารถ notify ได้จาก Apple Watch

หวานหวาน – อรุณณภา พาณิชจรูญ ใช้ Apple Watch อย่างไร

หวานหวาน – อรุณณภา พาณิชจรูญ

สักปีสองปีที่แล้ว จะใช้เรื่องปั่นจักรยานกับฟิตเนสเยอะ แต่หลัง ๆ มีความห่วงไลฟ์สไตล์ เพราะบางครั้งมีความรู้สึกว่ามันเครียดเกินไป วันไหนที่เราทำงานเหนื่อย ๆ ตื่นเช้ามาหวานจะดู resting heart rate ก่อน ดูว่าเราโอเคไหม เราคิดไปเองว่าเราเหนื่อยหรือเปล่า พอดู resting heart rate อ๋อ โอเค ฉันไปปั่นได้ ไปทำกิจกรรมพวกนี้ได้ เราจะได้ไม่รู้สึกถึงการ overtraining เป็นข้อดีมาก เหมือนเป็นเลขาส่วนตัว

อีกฟังก์ชันหนึ่งที่ชอบ คือ เตือนให้หายใจ เพราะหวานเป็นคนชอบกลั้นหายใจเวลาเครียดหรือตื่นเต้น หรือเวลาเราทำหลาย ๆ อย่างในวันเดียวกัน เขาจะเตือนให้หายใจ หวานจะตั้งให้เขาเตือนตอน Start of the day และ End of the day เพราะหวานคิดว่ามันทำให้เรา calm down และลดพวก stress ได้เยอะมาก

ที่หวานชอบสุดมีบอกเรื่องแดดเรื่องอุณหภูมิ เพราะว่าผู้หญิงมีรักสวยรักงาม หวานเป็นคนตกกระ จะดูว่าดัชนี index อ่านค่ารังสี UVวันนี้รุนแรงมาก คือต้องทากันแดด หรือว่าใส่แขนยาว เพื่อจะ protect ตัวเอง

หวานมองว่า Apple Watch เป็นเลขาประจำตัว ในการบอกสิ่งที่ถูกต้องที่เป็นตัวเลข เราไม่ต้องมานั่งเดา มันทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นในการตัดสินใจที่จะทำ กิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิต แล้วก็ทำให้แบบเรียกว่า Daily Life เราดีขึ้น

และเป็นเข็มทิศด้วย ไม่เคยคิดว่าจะได้ใช้ คือไปทะเลทรายตอนแรกเขาบอกว่า ถ้าอยู่เดินออกไปไกล ๆ สักพักหนึ่งหันกลับมาอยู่จะรู้ว่าทุกด้านมันเหมือนกันหมด ก็ได้ใช้แอปเข็มทิศ เพราะว่าต้องเดินออกไปถ่ายพวกมิลกี้เวย์ตอนกลางคืน เราจะตามรอยเท้าตัวเองไม่ได้ เพราะมีลมทะเลทราย พอลมพัดรอยเท้าก็หาย หาทางกลับไม่เจออยู่ดี ก็ได้ใช้เข็มทิศในการเดินทางในทะเลทราย ไม่หลงทาง

ในมุมมองของการแต่งตัวแฟชั่น หวานรู้สึกว่าสนุกกว่าเครื่องประดับอีก เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่เราดูประจำ เรามองเราเห็นแล้วแบบ เครื่องประดับบางครั้งต้องคนอื่นเป็นคนมองเรา อันนี้หวานมองและเห็นเอง เหมือนได้เปลี่ยน accessories บางอย่าง ในชีวิตประจำวันเพิ่มขึ้น แต่ละสายก็แตกต่างกันตามคาแรคเตอร์ ใส่กับชุดสวยก็ได้ ใส่กับชุดกีฬา

เมจิ – อโณมา คุ๊ก ใช้ Apple Watch ในชีวิตประจำวันอะไรบ้าง

เมจิ – อโณมา คุ๊ก

หลัก ๆ จะเป็นเรื่องของ Exercise ที่เป็น Ring เมจิจะ set up ตัว Ring Calories สมัยใช้ใหม่ ๆ Set up อยู่ที่ประมาณ 400 Calories per Day คือเราจะตั้งว่าโอเคเราจะต้องปิดวงให้ได้ ภายใน 1 วัน หลังจากที่ตัวเองเริ่มมาเล่นกีฬา endurance มากขึ้น มันกลายเป็นวนทับ ๆ เพราะการซ้อมกีฬา  endurance มันเป็นการซ้อมไกล เมจิ เลยมาตั้งอยู่ที่ 850 Calories per Day เพื่อให้มันรู้สึกว่าอย่างน้อยอย่างต่ำเพราะว่าการ Burn ของร่างกายเราค่อนข้างค่อนข้างใช้เยอะ คือไม่ใช่ว่า Exercise เยอะ แต่คือเราซ้อมเยอะ เพื่อให้ร่างกายของเรามันฝึกความทนทาน

เมจิอยากจะแชร์กับทุกคนตอนเริ่มต้น เซ็ตไว้อย่างต่ำที่ 350 Calories per Day ก่อน เป็นพื้นฐานสำหรับคนที่ใช้ใหม่ 350 หมายความว่าเราไม่ต้อง Exercise ให้ได้ 350 ก็ได้ แต่อย่างน้อยถ้าใครไม่มีเวลา Exercise ให้พยายาม keep ที่จะ move ตัวเองบ่อย ๆ พอ Move บ่อย ๆ พอทั้งวันเราไม่ได้ Exercise เลยทั้งวัน ตั้งแต่เช้าเราตื่นนอนเราขึ้นรถไฟฟ้าเราขึ้นบันได เราขึ้นลิฟท์เราเดิน Walking อะไรต่าง ๆ เดินไปกินอาหารแทนที่จะสั่ง Grab มันให้ Moving โดยเฉลี่ยเมจิมาสังเกต ดูสำหรับชีวิตประจำวัน แบบ Daily Routine เลยนะ ก็อยู่ที่ประมาณ 350 Calories per Day ซึ่งถ้าเกิดเรารักษามาตรฐานนี้ไว้โดยที่ เราสามารถทำได้เนี่ย มันก็จะกลายเหมือนติดเป็นนิสัยรูทีนของเรา

สำหรับจุดเริ่มต้นของทุกคน ในการที่จะใช้ Ring ทำยังไงไม่ให้เรารู้สึกว่าจะต้องไปกังวล โดยเฉลี่ย จากตื่นนอนจนถึงกว่าจะนอนประมาณ 12-13 ชั่วโมง 350 Calories per Day ปิดได้โดยที่ไม่ออกกำลังกาย ถือว่าเรามี movement ของร่างกายเป็นพื้นฐานที่ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องกังวล

ส่วน Exercise ที่มันมากกว่า 350 Calories per Day ในวงแหวนที่มันปิด แล้วมันทบรอบ ให้ถือว่าวันนั้นเราได้โบนัสกับตัวเอง ให้ถือว่าทบรอบนั้นเป็นกำไรของเรา  คิด mindset อย่างนี้มันจะทำให้สไตล์การใช้ ring ของเรา ไม่ต้องกังวลกับมันมากเกินไป อันนี้คือวิธีที่เมจิใช้

พอเมจิเริ่มอายุมากขึ้น การนั่งทำให้เมจิบาดเจ็บที่สุดเลย เมื่อต้องนั่งทำงาน 4-5 ชั่วโมงต่อวันถึงแม้ว่าตัวเองจะออกกำลังกาย เมจิจะรู้สึกเลยว่าอีกวันไปซ้อมวิ่ง จะรู้สึกเจ็บสะโพก การนั่งนานนานมันเหมือนกับเรากำลังสร้างกล้ามเนื้อให้มีแผลกดทับตัวเอง

เมจิสังเกตว่า ถ้าเมื่อไรที่ยืน 6 ชั่วโมงต่อวัน จะสังเกตว่าเวลาเมจิไปซ้อมกีฬา เช่น การวิ่ง อย่างที่ทราบดีว่าใช้สะโพกค่อนข้างเยอะมากเลย โดยเฉพาะกีฬาที่เราต้องวิ่งกับมันนาน ๆ ปั่นจักรยานก็ต้องใช้สะโพก ว่ายน้ำ ก็ต้องสะโพก rotation hip คือ องค์ประกอบที่สำคัญพอ ๆ กับตัว six packs ที่เรา concern เลย เพราะฉะนั้น เมจิเลยสังเกตว่าตั้งแต่ที่เมจิกลองโฟกัส เรื่องของ standing 6 hours per day เมจิรู้สึกว่าสะโพกของเมจิมีปัญหาน้อยลงมาก

แนะนำว่าค่อย ๆ เริ่มยืน ให้ได้อย่างน้อยครึ่ง-ครึ่ง คือ นั่งครึ่งนึง ยืนครึ่งนึง แต่ถ้าเกิดเปอร์เซ็นต์ส่วนใหญ่มันกลายเป็นนั่งมากกว่ายืน อันนี้มันอาจจะยังไม่มีปัญหาในตอนนี้แต่ว่า long term จะเริ่มมีปัญหากับ สะโพกแน่นอน

อีกอันหนึ่งก็คือ resting heart rate ใน health อันนี้สำคัญมากเหมือนกัน หลาย ๆ คน อาจจะรู้สึกว่าเราต้องการไปโฟกัสที่ตัว calories burning ว่าเรา burn เท่าไร แต่จุดสำคัญที่มันจะทำให้เรา burn แล้วมีประสิทธิภาพ อย่างที่หลาย ๆ คนเห็น Cardio ว่าทำไมบางคนออก cardio แล้วเราเผาผลาญพลังงานต่ำไม่ใช่ว่าเขาไม่เบิร์น แปลว่าเขาแข็งแรง เพราะว่าเมื่อร่างกายเขาออกแรงเยอะแต่เขาเผาผลาญพลังงานต่ำ

เมจิอยากจะให้ทุกคนใส่ Apple Watch ตอนนอนด้วย เพื่อดูหัวใจตัวเองตอนที่มันนอนหลับ ว่าตอนที่มันนอนหลับมันมีอาการดีดขึ้น มันอาจจะดีดขึ้นครั้งสองครั้ง อย่าเพิ่งไปสังเกตว่าตัวเองเป็นโรค ลองดูทั้งเดือน ว่ามันดีดขึ้นเยอะและบ่อยไหม ถ้าไม่แน่ใจ ลองไปหาคุณหมอได้ ไม่ว่าจะเป็นคนออกกำลังกายหรือว่าเป็นนักกีฬา พวกนี้มันเกิดขึ้นกับเราได้ทุกคนบนโลกนี้เลย

คือไม่ได้บอกว่าคนฟิตจะไม่เป็น ยิ่งคนฟิตนี่เผลออาจจะมีในเรื่องของหัวใจที่มันอาจจะมีการเต้นผิดจังหวะด้วยเหมือนกัน เรียกว่าเรากำลังติดตามข้อมูลเครื่องยนต์ข้างในของเรา อันนี้ที่เมจิใช้อยู่เป็นประจำ

application ที่เมจิอยากจะให้ใช้ คือ ตัว Breathing เราพยายามเทรนให้มันบ่อย แปลว่า ไม่ใช่เราอาจจะไม่แข็งแรง เพียงแต่เราอาจจะหายใจสั้นไปนิดนึง เราก็เริ่มมาใช้ตัว Application ช่วย นำพาในการ Exercise Breathing ของเรา เพราะว่าออกซิเจน คือ สิ่งสำคัญของชีวิตของเรา ไม่ว่าเราจะเป็นนักออกกำลังกาย และไม่ออกกำลังกาย

ฟีเจอร์และแอปที่เป็นประโยชน์สำหรับการทำกิจกรรมกลางแจ้ง

  • การเชื่อมต่อเซลลูลาร์ ไม่ว่าจะรับโทรศัพท์ระหว่างอยู่บนเส้นทางเทรล หรือส่งอิโมจิหน้ายิ้มให้เพื่อน ๆ ที่ยังต้องอยู่ที่ออฟฟิศ Apple Watch รุ่นเซลลูลาร์พร้อมให้คุณต่อติดกับทุกเรื่องที่ใช่เสมอ คราวนี้ก็ทิ้งโทรศัพท์ไว้ที่บ้านได้เลย
  • แอปเข็มทิศ หากอยากรู้ว่าเรากำลังมุ่งหน้าไปทางทิศไหน หรือต้องการมุ่งหน้าไปในทิศที่ต้องการแอปเข็มทิศเป็นตัวช่วยที่ดีในการนำทาง
  • วอล์คกี้ทอล์คกี้ ไม่ว่าคุณจะออกไปทำกิจกรรมข้างนอก หรือพยายามหาใครสักคนในฝูงชน คุณก็สามารถใช้แอปวอล์คกี้ทอล์คกี้เพื่อติดต่อกันได้เพียงแตะครั้งเดียวเท่านั้น ดูวิธีการใช้วอล์คกี้ทอล์คกี้บน Apple Watch ได้ที่นี่
  • ใช้รีโมทกล้องบน Apple Watch ถ้าคุณต้องการจัดตำแหน่ง iPhone ของคุณเพื่อถ่ายรูปแล้วถ่ายรูปจากระยะไกล คุณสามารถใช้ Apple Watch เพื่อดูรูปภาพในกล้องของ iPhone แล้วถ่ายรูปได้ และคุณสามารถใช้ Apple Watch เพื่อตั้งเวลาตัวตั้งเวลาชัตเตอร์ได้ ซึ่งจะทำให้คุณมีเวลาลดข้อมือลงและมองกล้องเมื่อคุณอยู่ในภาพที่กำลังจะถ่าย ดูวิธีการใช้งานได้ที่นี่

ฟีเจอร์และแอปเพื่อสุขภาพ

  • แอปออกกำลังกายเข้าถึงการออกกำลังกายหลายสิบประเภท ติดตามทุกการเคลื่อนไหวของคุณ และผลักดันให้คุณก้าวต่อไป ดูวิธีการใช้งานได้ที่นี่
  • การตรวจจับการล้มหาก Apple Watch SE หรือ Apple Watch Series 4 หรือใหม่กว่าตรวจพบการล้มอย่างรุนแรง นาฬิกาสามารถช่วยติดต่อบริการฉุกเฉินได้เมื่อต้องการ ดูวิธีการทำงานได้ที่นี่
  • แอปสุขภาพแอปสุขภาพให้คุณเข้าถึงข้อมูล ที่สำคัญของตัวเองได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว ไม่ว่าจะเป็นการทานยา กิจกรรม และการนอนหลับ ทั้งยังให้คุณแชร์ข้อมูลเหล่านั้นได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย โดยแอปจะรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและกิจกรรมจาก iPhone ของคุณ, เซ็นเซอร์ในตัวที่อยู่ใน Apple Watch และแอปที่ใช้ HealthKit ยิ่งมีข้อมูลเกี่ยวกับตัวเองมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งช่วยให้คุณจัดการดูแลตัวเองได้มากขึ้นเท่านั้น การวิเคราะห์แนวโน้มขั้นสูงจะช่วยให้คุณเห็นข้อมูลตัวเลขเกี่ยวกับสุขภาพด้านต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปตามเวลา เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ และอัตราการหายใจ แล้วคุณยังจะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อมีการตรวจพบแนวโน้มใหม่ ๆ อีกด้วย ดูวิธีการตั้งค่าได้ที่นี่
  • Heart Rate ฟังเสียงหัวใจคุณเสมอ อัตราการเต้นของหัวใจที่เร็วหรือช้าผิดปกติ รวมถึงจังหวะการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ (หรือที่เรียกว่าภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ) อาจเป็นสัญญาณของภาวะร้ายแรงได้ แต่คนจำนวนมากกลับไม่ได้ตระหนักถึงอาการดังกล่าว จึงทำให้ตรวจไม่พบสาเหตุที่แท้จริง ซึ่งก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะการแจ้งเตือนในแอปอัตราการเต้นของหัวใจใน Apple Watch Series 7 จะคอยเช็คหัวใจของคุณและเตือนเมื่อพบความผิดปกติเหล่านี้ เพื่อให้คุณเริ่มดูแลตัวเองและปรึกษาแพทย์ได้ทันท่วงที ดูวิธีการใช้งานได้ที่นี่
  • คาร์ดิโอฟิตเนสคาร์ดิโอฟิตเนส คือ การวัดค่า VO2 max ซึ่งเป็นปริมาณออกซิเจนสูงสุดที่ร่างกายของคุณสามารถใช้ได้ในระหว่างออกกำลังกาย ระดับคาร์ดิโอฟิตเนสเป็นตัวบ่งชี้ความแข็งแรงของสุขภาพร่างกายโดยรวมที่เชื่อถือได้และเป็นตัวคาดการณ์สุขภาพของคุณในระยะยาว Apple Watch จะประมาณค่าคาร์ดิโอฟิตเนสโดยการวัดว่าหัวใจของคุณทำงานหนักแค่ไหนในระหว่างเดินกลางแจ้ง วิ่ง หรือเดินเขา ดูวิธีการตั้งค่าได้ที่นี่
  • Health Sharing แชร์เพื่อดูแลกันแอปสุขภาพช่วยให้คุณแชร์ข้อมูลต่างๆ ที่เก็บไว้ในแอป และคุณยังสามารถเชิญคนที่คุณรักมาแชร์ข้อมูลกับคุณได้ด้วย ในการแชร์ข้อมูลของคุณนั้น คุณสามารถควบคุมได้ทั้งหมดว่าจะแชร์ข้อมูลอะไรและแชร์ให้กับใครบ้าง และคุณยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาอีกด้วย คุณสามารถรับการแจ้งเตือนข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสุขภาพของคนที่คุณรักและดูข้อมูลต่างๆ ได้ในแถบการแชร์ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม ข้อมูลการเคลื่อนไหว ข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจ และแนวโน้มต่างๆ ของพวกเขา ดูวิธีการแชร์ข้อมูลสุขภาพได้ที่นี่
  • แอปออกซิเจนในเลือด การวัดออกซิเจนในเลือด นวัตกรรมล้ำๆ ในสายเลือด ระดับออกซิเจนในเลือดเป็นค่าสำคัญที่บ่งบอกความแข็งแรงสมบูรณ์โดยรวมของคุณ อีกทั้งยังช่วยให้เข้าใจว่าร่างกายของคุณดูดซึมออกซิเจนได้ดีแค่ไหน รวมถึงปริมาณออกซิเจนที่ร่างกายของคุณได้รับ ซึ่ง Apple Watch Series 7 ก็มาพร้อมเซ็นเซอร์และแอปอันน่าทึ่งที่ให้คุณอ่านค่าออกซิเจนในเลือดของคุณได้ทุกเมื่อที่ต้องการ และยังทำการวัดค่าในเบื้องหลังทั้งกลางวันและกลางคืนอีกด้วย
  • แอปทำสมาธิการหยุดและพักหายใจสักครู่ตลอดทั้งวันสามารถช่วยลดความเครียดได้ และคุณสมบัติ “สะท้อนความคิด” ใหม่ในแอปทำสมาธิจะช่วยให้คุณตั้งเป้าหมายและทำจิตใจให้สงบด้วยแอนิเมชั่นที่สวยงาม

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ