TH | EN
TH | EN
หน้าแรกTechnologyกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ดันงานวิจัยไทยขึ้นห้างสำเร็จ ตอบโจทย์ S-Curve ด้าน ‘เวสเทิร์น’

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ดันงานวิจัยไทยขึ้นห้างสำเร็จ ตอบโจทย์ S-Curve ด้าน ‘เวสเทิร์น’

อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เผย Spearhead ดันงานวิจัย “ระบบอาคารคลังสินค้าอัจฉริยะและระบบอัตโนมัติ Auto Storage and Retrieval System : ASRS” สำเร็จ ส่งผลให้ บริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล สตอเรจ เทคโนโลยีส์ (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งในผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์คอมพิวเตอร์รายใหญ่ของโลก มาใช้ระบบ ASRS จากฝีมือคนไทย โดยระบบดังกล่าวช่วยลดต้นทุน ลดข้อผิดพลาด และเพิ่มประสิทธิภาพให้สามารถบริหารจัดการคลังสินค้าและวัตถุดิบ รวมทั้งลดการนำเข้าระบบ ASRS จากต่างประเทศ คาดการณ์ว่า ภายใน 5 ปี จะมีมูลค่าความต้องการระบบ ASRS เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี

ดร.ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตามที่ได้รับแต่งตั้งจาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เป็นประธาน Spearhead ด้านเศรษฐกิจ ในประเด็นแผนงานวิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ และแผนงานระบบโลจิสติกส์อัจฉริยะ เน้นดำเนินการปฏิรูประบบวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ตลอดจนผลักดันให้เกิดการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในมิติต่าง ๆ รวมถึงนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ได้สั่งการให้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ DIPROM เร่งขับเคลื่อนและผลักดันอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) รวมถึงแก้ปัญหาด้านต้นทุนด้านโลจิสติกส์ที่ส่งผลแก่ผู้ประกอบการ

“กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จึงได้นำนโยบาย DIPROM CARE มาช่วยดำเนินการโดยการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายด้านหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติของคนไทยมาปรับใช้กับโลจิสติกส์อุตสาหกรรม สามารถลดข้อผิดพลาดและลดพื้นที่ในการจัดเก็บ เพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการคลังสินค้าและวัตถุดิบ ด้วยการบูรณาการระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนภายใต้การนำของ Spearhead ด้านเศรษฐกิจ สอดคล้องกับการพัฒนางานวิจัย “ระบบอาคารคลังสินค้าอัจฉริยะและระบบอัตโนมัติ Auto Storage and Retrieval System : ASRS” เพื่อสร้างโอกาสสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถนำระบบ ASRS มาใช้งานได้ ภายใต้งบประมาณและสถานที่ที่จำกัด”

ระบบ ASRS เป็นการนำวิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติมาประยุกต์ใช้กับระบบอาคารคลังสินค้าอย่างครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบอุปกรณ์และเครื่องจักรสำหรับระบบอัตโนมัติ ได้แก่ เครนยกสินค้าในแนวสูง ชั้นวางสินค้า, ชั้นวางสินค้า และโปรแกรมบริหารงานคลังสินค้า ที่คนไทยพัฒนาขึ้นเองภายในประเทศ ช่วยยกระดับระบบโลจิสติกส์ในประเทศไทย ซึ่งระบบ ASRS เป็นระบบที่มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และมีต้นทุนต่ำสามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ยังเป็นการเปิดโอกาสในการพัฒนา System Integrator ที่เป็นผู้ประกอบการคนไทยได้ร่วมพลิกอุตสาหกรรม Automated Warehouse ของประเทศ และสามารถพัฒนาก้าวสู่การเป็นผู้นำในการส่งออกเทคโนโลยีระบบ ASRS สู่อาเซียนในอนาคต

นอกจากนี้ ระบบ ASRS ยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถในด้านการแข่งขัน ทั้งในด้านต้นทุน และประสิทธิภาพ ในการผลิตให้กับผู้ประกอบการ พร้อมเร่งผลักดันให้นวัตกรรมทางด้านหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ประสบความสำเร็จ เรียกได้ว่า เป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ขึ้นห้าง สามารถขายและทำกำไรได้จริง ใช้งานได้ดีทำได้โดยนักวิจัยไทยในประเทศไทย พิสูจน์แล้วว่าช่วยลดต้นทุนถึงจุดคุ้มทุนเร็ว

นำงานวิจัยขยายผลทางธุรกิจ

ที่ผ่านมา ทางคณะวิจัย และบริษัท แม่น้ำเมคคานิกา จำกัด ได้นำผลงานจากโครงการฯ ไปขยายผลทางธุรกิจกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายแล้ว อย่างน้อย 3 ราย และหนึ่งในนั้น คือ บริษัท ดีเอสวี โซลูชั่นส์ จำกัด และยังคงมุ่งมั่นที่จะต่อยอดปรับปรุงระบบจากเทคโนโลยีที่ได้พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมที่จะขยายผลเปิดให้บริการต่อภาคอุตสาหกรรมไทยที่กำลังเผชิญกับความท้าทายรอบด้านในการลดต้นทุน เพิ่มผลิตภาพในส่วนของห่วงโซ่อุปทานในสถานประกอบการ ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ทำให้ บริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล สตอเรจ เทคโนโลยีส์ (ประเทศไทย) จำกัด มีความไว้วางใจและความเชื่อมั่นในการใช้ระบบ ASRS จากฝีมือคนไทย

ดร.สัมพันธ์ ศิลปนาฎ รองประธาน บริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล สตอเรจ เทคโนโลยีส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล สตอเรจ เทคโนโลยีส์ (ประเทศไทย) จำกัด มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ใช้ระบบ ASRS จากทีมนักวิจัยคนไทยที่ได้ทุนจาก Spearhead ด้านเศรษฐกิจ ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยี 4.0 ที่จะมาช่วยพัฒนากระบวนการบริหารจัดการคลังสินค้าในทุก ๆ มิติ ไม่ว่าจะเป็นการลดความผิดพลาด ลดต้นทุน ลดการใช้แรงงาน ลดการใช้พลังงาน ซึ่งถือเป็นระบบที่ตอบโจทย์แนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมได้อย่างลงตัวอีกด้วย

ระบบ ASRS ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้โครงการฯ นี้ มีทั้งแบบ Low Rise ความสูงน้อยกว่า 12 เมตร เหมาะสำหรับผู้ประกอบการ SME ที่มีพื้นที่ขนาดเล็ก งบลงทุนต่ำ และแบบ High Rise ความสูง 23 เมตร เหมาะกับผู้ประกอบการที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ มีการเติบโตสูง ซึ่งการพัฒนา “ระบบ ASRS” นี้ จะสามารถช่วยลดการนำเข้าระบบจากต่างประเทศได้ คาดการณ์ว่า ภายใน 5 ปี จะมีมูลค่าความต้องการระบบ ASRS เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ม.มหิดล ค้นพบแนวทางการปรับเปลี่ยนคุณสมบัติวัสดุฉลาด เพื่อประโยชน์ทางอุตสาหกรรม – ประหยัดทรัพยากรโลก

ETDA พาสำรวจ 5 ประเทศต้นแบบรัฐบาลดิจิทัล

STAY CONNECTED

0แฟนคลับชอบ
440ผู้ติดตามติดตาม
spot_img

Lastest News

MUST READ