moomall เดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์ม Social Commerce และลดข้อจำกัดของการซื้อสินค้าผ่านโซเชียล ด้วยการเพิ่มความหลากหลายของสินค้าให้ครบวงจร จับมือพาร์ตเนอร์ชั้นนำ เพื่อให้ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภค ทั้งสินค้าอุปโภค บริโภค เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไอที การบริการ แบรนด์ร้านอาหาร ไปจนถึงสินค้าการเกษตร ฯลฯ พร้อมส่งต่อความรู้เพื่อสร้างโอกาสเรื่องการตลาดออนไลน์ให้เป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าถึง และสร้างรายได้ได้จริง
บุญชัย ลิ่มอติบูลย์ ผู้ก่อตั้งแอปพลิเคชัน moomall เปิดเผยว่า จากความสำเร็จของ moomall หลังเปิดตัวแพลตฟอร์ม Social Commerce เพื่อให้ทุกคนสามารถทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย สร้างคอนเทนต์ สร้างตัวตนในการบอกต่อสินค้า เป็นการบอกต่อสินค้าที่จริงใจ เข้าถึงง่าย และช่วยสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคนซื้อและคนขาย
“การทำการตลาดแบบนี้ไม่ต้องเสียเงินค่าโฆษณาใด ๆ ทำให้เราสามารถนำค่าโฆษณามาคืนเป็นค่าการตลาดให้กับผู้บริโภค เป็นการสร้างโมเดลที่เปลี่ยนการช้อปปิ้งออนไลน์ ให้กลายเป็นไลฟ์สไตล์ที่สร้างเงิน”
โดย moomall มีแบรนด์สินค้าและบริการที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน รวมรายการสินค้ากว่า 10,000 รายการ มีแบรนด์รายใหญ่กว่า 60 แบรนด์ เช่น โลตัส โออิชิ, ปั๊มน้ำมันพีที, บีควิก สเนลไวท์, สมูทอี, เด็กสมบูรณ์, ข้าวแสนดี, ทีวีไดเร็ค ฯลฯ โดยในไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 มียอดขายกว่า 25 ล้านบาท มีอัตราการซื้อซ้ำอยู่ที่ 58% และมีสมาชิกหลายท่านที่สร้างรายได้ถึงหลักแสนต่อเดือน (ข้อมูล 1 ส.ค.2565)
ปี 65 เดินหน้าเพิ่มความหลากหลายของสินค้า
สำหรับในปีนี้ moomall กำลังเดินหน้าพัฒนาความหลากหลายของสินค้าให้ครบครัน ล่าสุด เปิดตัว E-voucher ของเครือเซ็นทรัล ที่สามารถใช้ได้กับร้านค้าในเครือเซ็นทรัล ไม่ว่าจะเป็น Central Department Store, Robinson, Powerbuy, Super Sports, B2S, Muji, มัตสึโมโต คิโยชิ และ ไทวัสดุ
นอกจากนี้ ยังเพิ่มรายการสินค้าภาคการเกษตร มอบความสะดวกให้เกษตรกรและร้านค้าปุ๋ย โดยสมาชิกสามารถสั่งซื้อปุ๋ยเพื่อการเกษตรผ่านแอปฯ โดยเลือกได้ทั้งการสั่งซื้อแบบออนไลน์ และนัดรับที่คลังสินค้า พร้อมรับสิทธิประโยชน์จากระบบการจ่ายผลตอบแทนให้กับสมาชิก ด้วยกลยุทธ์นี้ทำให้ยอดขายสินค้าปุ๋ยมีอัตราการเติบโตคิดเป็น 400% เปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมา และยังคงมียอดขายอย่างต่อเนื่อง
บุญชัยกล่าวว่า สำหรับปี 2565 moomall มีแผนในการพัฒนาแพลตฟอร์ม Social Commerce ซึ่งเน้น 4 ส่วนหลัก คือ 1) เพิ่มจำนวนสมาชิกที่สามารถสร้างรายได้ 2) เพิ่มจำนวนพาร์ตเนอร์ 3) เพิ่มจำนวนแบรนด์รายใหญ่ ทั้งสินค้าและบริการ และ 4) กิจกรรมส่งเสริมให้สมาชิกสามารถสร้างรายได้ได้ง่ายขึ้น
จากแผนพัฒนาดังกล่าว คาดการณ์ว่าจะช่วยผลักดันให้แอปฯ moomall มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 60% ในปี 2565 นอกจากนี้ ยังเชื่อมั่นว่า ความนิยมของ Social Commerce จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลจาก Statista Research Department พบว่า ในปี 2564 ประเทศไทยมีผู้ซื้อสินค้าผ่าน Social Commerce แบ่งเป็นสัดส่วนของ Facebook 86% Line 68% Instagram 35% และ Twitter 8% เนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 ผลักดันให้ผู้บริโภคเปลี่ยนรูปแบบการช้อปปิ้ง
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
TIKTOK เผย SHOPPERTAINMENT มาแรง คาดมูลค่าจะแตะ 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 68
OR ทุ่ม 4 ล้านเหรียญสหรัฐ ลงทุนใน GOWABI ขยายธุรกิจสู่อุตสาหกรรม WELLNESS
