ไทยพาณิชย์ จับมือ กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง ชวนติดโซลาร์รูฟหั่นค่าไฟ สำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้าน และลูกค้าทั่วไปของไทยพาณิชย์ ที่สนใจติดตั้งแผงผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์รูฟ) เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าไฟเตรียมรับหน้าร้อนที่จะถึงนี้ สร้างโซลูชันด้านการเงินที่ตอบโจทย์ พร้อมสิทธิพิเศษส่วนลดค่าบริการติดตั้ง และฟรีค่าสำรวจหน้างาน ตอบโจทย์วิถีชีวิตปัจจุบันที่คนทำงานที่บ้านมากขึ้น (Work from Home) รวมถึงรับกระแสเทรนด์บ้านสีเขียว เล็งเชื่อมต่อพันธมิตรในหลากหลายอุตสาหกรรมเพื่อสร้างระบบนิเวศน์ครบวงจรและยกระดับประสบการณ์ลูกค้ามากกว่าที่เคยเป็น
อรรัตน์ ชุติมิต รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Retail and Business Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ท่ามกลางการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ธนาคารมุ่งมั่นดูแลลูกค้าผ่านโซลูชันทางการเงินเพื่อสนับสนุนสภาพคล่องให้แก่ลูกค้า นอกจากนี้ในปี 65 นี้ธนาคารจะเพิ่มบทบาทในการพัฒนาโซลูชันที่เพิ่มความผูกพันระหว่างธนาคารและลูกค้า (Engagement Solution) ผ่านการเชื่อมต่อศักยภาพของพันธมิตร มุ่งหวังว่าลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่เหนือระดับ โดยนำร่องกับบริษัท กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) บริษัทผู้ให้บริการด้านพลังงานกว่า 40 ปี โดยมี กันกุล โซลาร์ คอมมูนิตี้ หรือ GRoof ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโซลาร์รูฟเป็นผู้ดูแลในส่วนของการติดตั้ง ในการนำเสนอสิทธิประโยชน์ให้แก่ลูกค้าสินเชื่อบ้าน และลูกค้าทั่วไปของไทยพาณิชย์ ภายใต้แคมเปญ ร้อนนี้ ติดโซลาร์หั่นค่าไฟ
ลูกค้าที่สนใจติดตั้งโซลาร์รูฟกับกันกุลฯ ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2565 – 30 เมษายน 2565 รับส่วนลดสูงสุด 59,900 บาท พร้อมบริการฟรีค่าสำรวจหน้างาน และรับประกันการติดตั้ง 2 ปี และยังเป็นการตอบโจทย์วิถีชีวิตใหม่ที่คนทำงานที่บ้านมากขึ้น รวมถึงผู้บริโภคที่ให้ความใส่ใจกับการใช้พลังงานหมุนเวียน เพื่อลดภาวะโลกร้อน”
ทั้งนี้ ธนาคารยังอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถเลือกชำระค่าติดตั้งโซลาร์รูฟได้หลายวิธี อาทิ โอนจ่ายเต็มจำนวนผ่านแอป SCB EASY หรือรูดจ่ายเต็มจำนวนผ่านบัตรเครดิต SCB ทุกประเภท หรือผ่อนชำระเท่าเดิมไม่เพิ่มภาระด้วยสินเชื่อบ้านได้เพิ่ม สำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้านและสินเชื่อบ้านคือเงิน* โดยคาดว่ากลุ่มลูกค้าที่มีค่าใช้จ่ายค่าไฟต่อเดือนอยู่ที่ 3,000 บาทขึ้นไปจะให้ความสนใจโซลูชั่นดังกล่าวเพราะสามารถช่วยประหยัดค่าไฟได้สูงสุด 60% ต่อเดือน** และยังช่วยลูกค้าเพิ่มรายได้อีกทาง โดยกรณีลูกค้ามีไฟฟ้าส่วนที่เหลือใช้ สามารถนำมาขายไฟให้แก่ภาครัฐ โดยกันกุลฯ จะเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการประสานงานกับภาครัฐให้แก่ลูกค้าที่ใช้บริการดังกล่าวอีกด้วย
“ในอนาคต ธนาคารมีแผนที่จะขยายความร่วมมือไปยังพันธมิตรในหลากหลายอุตสาหกรรม เพื่อสร้างความแข็งแรงให้แก่ระบบนิเวศน์ธุรกิจ ตลอดจนรักษาความผูกพันระหว่างลูกค้ากับธนาคาร อันเป็นแนวทางของวิถีการทำธุรกิจการเงินอย่างยั่งยืน” อรรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย
