ทรูบิสิเนส ร่วมมือกับ เร็ปโก เน็กซ์ (EPCO NEX) ในกลุ่มธุรกิจ SCGC มอบนวัตกรรมและโซลูชันดิจิทัลแบบ end-to-end ที่ครบวงจร โดยนำความโดดเด่นเรื่องการเชื่อมต่อด้านการสื่อสาร ความมั่นใจด้านความปลอดภัย ผสานความเชี่ยวชาญด้านโซลูชันเพื่ออุตสาหกรรมอัจฉริยะ ทีครอบคลุมทั้งกระบวนการรวมถึงเครื่องจักรและพนักงาน ยกระดับประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุนและเวลาการทำงาน เพิ่มคุณภาพสายการผลิตให้แม่นยำยิ่งขึ้น และโอกาสทางธุรกิจแบบไร้ขีดจำกัด
พิชิต ธันโยดม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านธุรกิจองค์กร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า “ความร่วมมือกับ REPCO NEX ในครั้งนี้ เพื่อพลิกโฉมอุตสาหกรรมภาคการผลิต โดยกลุ่มทรู จะนำศักยภาพความเป็นผู้นำด้านการเชื่อมต่อสื่อสารทั้งแบบมีสายและไร้สาย รวมถึงเครือข่ายทรู 5G ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมโซลูชันไอซีทีแบบครบวงจร อาทิ บริการคลาวด์และดาต้าเซ็นเตอร์ ที่มีประสิทธิภาพมาตรฐานสากล และบริการด้านการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ รวมถึงทีมงานมืออาชีพมากประสบการณ์ ผสานกับความโดดเด่นด้านโซลูชันภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของ REPCO NEX ที่ครอบคลุมนวัตกรรมดิจิทัลทั้งด้านเครื่องจักรและพนักงาน ทำให้มั่นใจได้ว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะตอบโจทย์ทุกความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ช่วยแก้ไขปัญหาด้านการผลิตควบคู่กับการเพิ่มประสิทธิผลและลดต้นทุน สร้างโอกาสทางธุรกิจ”
มงคล เฮงโรจนโสภณ Chief Operations Officer and EVP – Olefins Chain (Thailand), SCGC กล่าวว่า “เอสซีจีซี มุ่งเน้นด้านความเป็นเลิศด้านปฏิบัติการ (operational excellence) ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลตลอดซัพพลายเชน เพื่อพัฒนากระบวนการทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และยกระดับภาพรวมของอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศ การผสานความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้เกิดการเรียนรู้และเป็นประโยชน์ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน บวกกับการยกระดับให้อุตสาหกรรมไทยก้าวกระโดดไปอีกขั้น”
ชาคร กรัยวิเชียร กรรมการผู้จัดการ REPCO NEX ในกลุ่มธุรกิจเอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ SCGC เผยว่า “REPCO NEX มีประสบการณ์ในการดูแลบริหารจัดการให้กับโรงงานในกลุ่มอุตสาหกรรม มากว่า 40 ปี ครอบคลุมบริการแบบครบวงจร (one-stop services) ตั้งแต่ด้านวิศวกรรม การดำเนินงาน การบำรุงรักษา ผ่านเทคโนโลยีและดิจิทัลโซลูชัน รองรับอุตสาหกรรม 4.0 ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ อุปกรณ์ตรวจสอบอัจฉริยะ (smart product) ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าสามารถบริหารความแม่นยำในการจัดการโรงงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักร ยกระดับการบริหารจัดการโรงงานให้กลายเป็นโรงงานอัจฉริยะ (Smart manufacturing) และการบริหารจัดการโรงงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด”
“ความร่วมมือครั้งนี้ ยังมีทีมผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพที่จะช่วยให้คำปรึกษา ออกแบบ และปรับแต่งโซลูชันให้เหมาะกับความต้องการของแต่ละองค์กร ตลอดจนดูแลบริการหลังการขายอย่างใกล้ชิด มั่นใจว่า จะช่วยให้องค์กรในภาคอุตสาหกรรมสามารถก้าวผ่านความท้าทายและยกระดับไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 ได้อย่างแน่นอน” พิชิตสรุป
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่ง ADVICE ขาย IPO 170 ล้านหุ้น ชูโอกาสเติบโตสู่ยุคดิจิทัล
