กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ร่วมงานเสวนา “รู้เท่าทันภัยออนไลน์ ห่างไกลวิถีสแกมเมอร์” ซึ่งจัดโดย Meta (Facebook) เพื่อต้องการแลกเปลี่ยนความรู้และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและ Meta เพื่อป้องกันและลดปัญหาหลอกลวงออนไลน์
เวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า รัฐบาลและ ดีอี ให้ความสำคัญกับเรื่องปัญหาหลอกลวงออนไลน์ โดย มีนโยบายเชิงรุก เน้นที่การป้องกัน ตัดตอน และบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน สรุปได้ดังนี้
- การป้องกัน โดยเฉพาะการให้ความรู้และการปิดกั้นเว็บหรือ เพจหลอกลวง ซึ่ง ดีอีได้เปลี่ยนวิธีการใช้คนดีอีมากขึ้น ร่วมมือกับโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มมากขึ้น จากเดิม ปี 2566 ปิดกั้นเว็บ/เพจผิดกฎหมาย เฉลี่ยสถิติ 53 เพจ/รายการต่อวัน (ประมาณ 1500 รายการต่อเดือน) เป็นเฉลี่ย 350 เพจ/รายการต่อวัน (ประมาณ 10,500 รายการต่อเดือน)
- เร่งตัดตอนวงจรอาชญากรรม โดยเฉพาะซิมม้า (โจรใช้ติดต่อสื่อสาร) บัญชีม้า (โจรใช้รับ-โอนเงิน) ซึ่งตามกฎหมายใหม่ที่ออกมา ผู้ขายมีโทษหนัก จำคุก 3 ปี ผู้เป็นนายหน้าจัดหามีโทษจำคุก 2 – 5 ปี และมีการเร่งแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อปิดบัญชี จับกุมคนร้ายที่เกี่ยวข้อง
- บูรณาการทำงาน ใช้เทคโนโลยีเชิงรุก โดยเฉพาะการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center: AOC) เพื่อบูรณาการทำงาน ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงาน กสทช. เป็นต้น เพื่อใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย บุคลากร และแลกเปลี่ยนข้อมูลให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์
“ในปัจจุบันเทคโนโลยีดิจิทัล ได้ช่วยให้เรามีชีวิตที่สะดวกสบาย หลายคนร่ำรวยจากโลกออนไลน์ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ธุรกิจ เข้าถึงลูกค้าเป็นล้าน ๆ คนได้ง่าย ๆ แต่ในขณะเดียวกัน คนร้ายก็ใช้ช่องทางและเทคโนโลยีดิจิทัล ในการทำร้าย หลอกลวงประชาชน เข้าถึงคนหมู่มากเป็นล้าน ๆ คน ได้โดยง่ายเช่นกัน ขอโซเชียลมีเดียช่วยคุมเข้ม เรื่องการขายโฆษณาให้คนร้าย ทำงานร่วมกับ ดีอี ใกล้ชิด เพื่อแก้ไขปัญหาโจรออนไลน์ ดียิ่งขึ้น” เวทางค์กล่าว
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
การบินไทย เปิดตัวชุดยูนิฟอร์มใหม่ ผลิตจากขวดรีไซเคิล 70%
ทรูเผย หลังควบรวมทรู-ดีแทค สิทธิประโยชน์เพิ่ม 54% เดินหน้าผนึกพันธมิตร มอบประสบการณ์พิเศษส่งท้ายปี